ย้อนอดีต 'จตุพร' แฉเล่ห์เพทุบาย 'ประยุทธ์' ก่อนประกาศยึดอำนาจ 22 พ.ค.2557


เพิ่มเพื่อน    

21 พ.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ชวนประชาชนติดตามฟังและชมการอภิปรายออนไลน์เริ่มตั้งแต่ 22 พ.ค.ติดต่อกัน 9 วัน ในหัวข้อ “7 ปีรัฐประหาร 9 วันไล่ประยุทธ์” ในการยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 ขบวนการรัฐประหาร เริ่มต้นด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะเป็นผบ.ทบ. ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ เท่ากับเป็นการยึดอำนาจรัฐบาลโดยปริยาย จากนั้นปิดล้อมไม่ให้กลุ่มชุมนุมเรียกร้องต่างๆเคลื่อนกำลังเมื่อ 21 พ.ค. สะท้อนถึง ปฏิบัติการรัฐประหาร เรียกแกนนำการชุมนุมของทุกฝ่ายมาเจรจากัน จึงได้ประกาศทำรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ในการเจรจาของกลุ่มต่างๆนั้น ประยุทธ์ เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอก เมื่อแต่ละฝ่ายพยายามหาทางออกให้แก่กัน โดยครั้งนั้น ตนเสนอให้ทำประชามติว่า จะเลือกตั้งก่อนปฏิรูป หรือปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง โดยกลุ่มชุมนุมแต่ละฝ่าย ต้องยอมรับในผลประชามติออกมาด้วย ถึงที่สุด ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ นัดเจรจากันอีกวัน ตนรู้ว่า เพิ่มกำลังมาสมทบอีกถึง 10 เท่า เชื่อว่าจะยึดอำนาจแน่ นายสุเทพ เทือสุบรรณ แกนนำกปปส. ชวนตนไปคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอเวลาเจรจากันต่อ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะวิจารณ์ กกต.ไม่จัดเลือกตั้ง แล้วบอกรัฐบาลไม่ยอมลาออก จึงประกาศยึดอำนาจทันที  

“ตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ การยึดอำนาจจึงเป็นความหายนะของชาติ ทุกอย่างตั้งแต่จุดเริ่มต้นบอกไม่ยึดอำนาจแต่ก็ยึดอำนาจ สัญญาว่าอยู่ไม่นานก็เป็นนาน บอกไม่สืบทอดอำนาจก็เขียน รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ รับปากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่แก้ และประกาศจะปฏิรูปประเทศก็ไม่ปฎิรูป อีกทั้งจะปราบโกงก็ไม่ปราบ แต่เมื่อภายมา 7 ปีจึงเอาปราบโกงมาเป็นวาระแห่งชาติ”นายจตุพร กล่าว 

นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อประเทศมันแย่กันถึงขนาดนี้ เวทีไทยไม่ทนฯ จะจัดในช่วงครบ 7 ปีการรัฐประหาร จึงต้องจัดอภิปรายออนไลน์ 9 วันติดต่อกัน มีวิทยากรจาก พรรคการเมืองจัดคิวมาพูดกันทุกวัน มีคนทุกแวดวงมาร่วมอภิปราย มีผู้เดือดร้อนจากสาขาอาชีพต่างๆมาร่วมอภิปรายหลากหลายมากขึ้น และจะอธิบายบนเหตุผลถึงการไม่เอาประยุทธ์ และไม่มีอคติส่วนตัวเข้าไปเจือปน เวลา 7 ปีจึงมีมากมายขอชวนประชาชนร่วมรับฟังกันตั้งแต่เที่ยงครึ่ง เป็นต้นไป และจะมีกิจกรรมไปยื่นถึงรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งจะประกาศขอแรงประชาชนตามลำดับ เพื่อนัดกันในเวลา 19.00น. ช่วยส่งเสียงให้ประยุทธ์ ออกไป หรือเปิดไฟหน้ารถเป็นการแสดงออกไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลประยุทธ์   

นายจตุพรกล่าวถึงกรณีนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย วิจารณ์การฉีดวัคซีนนั้นเห็นด้วยกับการวิจารณ์ เพราะถ้าคนมีศักยภาพ สามารถจัดให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว และไม่เกิดความโกลาหล แต่รัฐบาลกลับจัดการไม่ได้ เมื่อไม่มีปัญญาก็ควรไปให้พ้น หลีกทางให้คนมีปัญญามาบริหารจัดการ การวิจารณ์ของนายภราดร ได้สะท้อนอย่างตรงไปตรงมา เป็นสิ่งถูกต้อง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศปราบโกงเป็นวาระแห่งชาติแล้วจะจัดการใครเป็นคนโกงที่อยู่ภายใต้ระบอบประยุทธ์นั่นเอง การวิจารณ์กรณีฉีดวัคซีนก็เช่นเดียวกัน การอธิบายของคนหนุ่มฝ่ายรัฐบาลนั้น ถ้าคนรัฐบาลมองอย่างสร้างสรรค์ว่า เป็นความห่วงใยแล้ว เนื่องจากเขามองเห็นปัญหา ไม่ใช่รัฐบาลทำผิดแล้วกลับก้มหน้าสนับสนุนกันอีก  

แกนนำกลุ่มไทยไม่ทนฯ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรหัดใช้หูบริหารบ้านเมืองกันบ้าง อย่าเอาแต่ปากที่ไม่ดีมาจัดการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญเมื่อไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ยังกล้าเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ซึ่งคนปกติที่ไหนไม่ทำกัน แล้วกล้ารวบอำนาจและยังแก้ไขอะไรไม่ได้ ยิ่งทำให้คนแตกแยกยิ่งขึ้น เมื่อประยุทธ์ ไม่ทำเรื่องเข้าเฝ้าฯจึงเป็นเรื่องน่าสงสัย อีกอย่างแนวทางรถพระราชทางตรวจหาเชื้อโควิดนั้น รัฐบาลได้ยึดแนวทางพระราชดำริมาปฎิบัติด้วยหรือไม่ รวมถึงหัวหน้ารัฐบาล สำนึกในการออกมาระงับข่าวลือเกี่ยวกับสถาบันฯด้วยหรือไม่ รัฐบาลกล่าวอ้างว่า ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ไม่ยอมทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ รายงานสถานการณ์วิกฤตของประเทศเพื่อขอพระราชทานคำปรึกษา ซึ่งได้สะท้อนว่า ใครยอมรับและปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้วปฏิบัติตาม หรือใครไม่ยอมรับและไม่ปฏิบัติตาม ข้อเท็จจริงได้อธิบายความอย่างครบถ้วนอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือ การใช้ ม.112 ทำลายฝ่ายตรงข้าม ใช้มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และยังแสดงถึงความโง่และความลุแก่อำนาจจนเกินเหตุ ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์นี้คนไทยจึงต้องสามัคคีกันขับไล่ประยุทธ์ แบบติดต่อกัน 9 วัน 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"