นายกฯบี้เข้มงวด ลักลอบเข้า‘ปท.’ ลงดาบนายหน้า!


เพิ่มเพื่อน    

 

“บิ๊กตู่” สั่งเข้มงวดสูงสุดเรื่องลักลอบเข้าไทย พร้อมสั่งฟันไม่เลี้ยงนายหน้านำเข้าแรงงานต่างด้าว ผงะ! กต.เผยตัวเลขจับแล้ว 17,627 ราย ยันจะเข้าไทยทั้งทางอากาศ-น้ำ-บกต้องลงทะเบียนก่อน

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 7/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์สั่งการในที่ประชุม ศบค.ให้เข้มงวดสูงสุดในเรื่องการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังมีการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายโดยช่องทางธรรมชาติ แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด
“นายกฯ ยังกำชับเรื่องความพร้อมในเรื่องสถานที่กักกันตัวในระดับท้องถิ่น และโรงพยาบาลสนามในพื้นที่จังหวัดชายแดน เพื่อเตรียมรับการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทยตามช่องทางทางบก และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) มีการเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม 14 แห่ง เพื่อรองรับแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ข้ามแดนผิดกฎหมาย” น.ส.รัชดากล่าว และว่า นายกฯ ยังได้เน้นย้ำให้ดำเนินการจับกุมนายหน้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน เพราะเป็นการกระทำที่เลวร้าย เพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ
สำหรับการแจ้งข้อมูลและเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค และกรณีเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และศูนย์บริการประชาชน 1111 ในส่วนแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย มีจำนวนเรื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. – 20 พ.ค. แล้ว 45 เรื่อง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ  42 เรื่อง จับกุมดำเนินคดี 11 คดี มีผู้กระทำความผิด 66 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง
ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์แรงงานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 พ.ค. จับกุมคนไทยและต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 17,627 คน เป็นไทย 1,853 คน, เมียนมา 7,365 คน, กัมพูชา 5,464 คน, ลาว  1,089 คน และมาเลเซีย 33 คน ซึ่ง กต.ขอย้ำว่าผู้ที่จะเข้ามาต้องลงทะเบียนรับหนังสือรับรองสำหรับเดินทางเข้าไทยจากสถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุลใหญ่ของไทยก่อนทุกครั้ง โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และจุดผ่านแดนถาวรทางบกจะเปิดให้คนไทยเดินทางเข้าจาก 4 ประเทศเพื่อนบ้านทุกวันจันทร์ พุธและศุกร์ ส่วนการเดินทางเข้าผ่านด่านทางน้ำหรือทางเรือ กรณีลูกเรือคนไทยต้องลงทะเบียนผ่าน กต.ก่อนเพื่อการเตรียมการสถานที่กักตัวของรัฐและกระบวนการตรวจโรค ส่วนลูกเรือที่ไม่ใช่คนไทยไม่อนุญาตให้เข้า ยกเว้นกรณีที่เกี่ยวข้องกับมนุษยธรรมและเศรษฐกิจ กรณีเรือยอชต์ต้องขอวีซ่าและลงทะเบียนผ่าน กต.ก่อน และต้องผ่านกระบวนการกักตัวตรวจหาเชื้อระหว่างลอยลำกลางทะเล 14 วัน
    “กรณีมนุษยธรรมลูกเรือสินค้าที่ปฏิบัติหน้าที่บนเรือนานเกิน 12 เดือน ขอใช้สิทธิ์ผ่านไทยเพื่อเดินทางกลับประเทศโดยทันที ส่วนเรือสินค้าเข้า-ออกประเทศไทยจะได้รับอนุญาตเข้ามาจอดได้ตามเวลาที่กำหนดและ รีบกลับออกไป โดยห้ามลูกเรือขึ้นจากเรือ นอกเหนือจากกรณีข้างต้นต้องขออนุญาตเป็นการเฉพาะรายต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศบค.เท่านั้น” นายธานีกล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"