'ก้าวไกล' ฉะยุทธศาสตร์ชาติไม่สอดคล้องวิกฤติโควิด เปรียบมัดตราสังให้ประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

22 พ.ค.64 - น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล กล่าวในหัวข้อ “วิกฤตเศรษฐกิจ มรดกแฝงรัฐประหาร : ยุทธศาสตร์หรือโซ่ตรวน”ผ่านเฟซบุ้คไลฟ์ เพจ Re-solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ ในกิจกรรม “7 ปี 7 คน 7 เหตุผล 7 นาที : คสช.ในความไม่จำ” ว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้กำลังตกอยู่กับคนรากหญ้าซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง  รวมถึงคนชั้นกลางส่วนหนึ่งที่จะกลายไปเป็นคนจน นอกจากนั้น ยังมีผู้ประกอบกิจการที่กำลังจะปิดกิจการเพราะหนี้สินล้นผลตัว ซึ่งการที่เราจะออกจากวิกฤตินี้ได้คือต้องมีรัฐที่ตอบสนองต่อปัญหาอย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น ตรงจุด ที่สำคัญต้องเห็นใจประชาชน 

นส.ศิริกัญญา รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท 20 ปี รวมทั้งยังมีแผนแม่บทย่อย แผนปฏิรูปประเทศ กฎหมายกฎระเบียบต่างๆให้ส่วนราชการปฏิบัติตาม สุดท้ายยุทธศาสตร์ชาติและแผนเหล่านี้ไม่ได้ออกแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เมื่อพลิกไปดูในยุทธศาสตร์ชาติจะมีคำว่าโรคระบาดปรากฏอยู่ 2 คำอยู่ในยุทธศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นว่ารัฐไทยไม่มีความยืดหยุ่น หรือปรับตัว และเลือกใช้มัดตราสังข์ให้ประเทศชาติ ประชาชนจมน้ำ   

สำหรับ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ได้มีการวางแผนไว้ก่อนเกิดโควิด เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดขึ้น ก็ไม่ได้แก้ไขงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลง แต่ใช้วิธีการโยกงบฯ ส่วนอื่นเข้ามาไว้ที่งบกลาง โดยใช้งบประมาณแบบเดิมๆ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ ทำให้ประเทศเสียโอกาสในการใช้งบประมาณนำประเทศชาติออกจากวิกฤต รวมถึงแผนเงินกู้ก็เดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ยังคงมีโครงการคีย์เวิร์ดเดิมๆ เช่น เกษตรมูลค่าเพิ่ม เศรษฐกิจชุมชน เกษตรยั่งยืนแต่สุดท้ายก็มีปัญหาในการดำเนินงาน เพราะหน่วยงานไม่มีความพร้อม จนทำให้ไม่มีโครงการไหนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ส่งผลให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ต้องมีการรื้อแผนโครงการใหม่ ทั้งที่ใช้มาได้แค่ 3 ปีเท่านั้น 

“และก็พบว่ารัฐได้ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการคลอดแผนแม่บทเฉพาะกิจหนึ่งฉบับขึ้นมา แต่ไม่ได้แตะแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยแผนแม่บทเฉพาะกิจที่งอกออกมาเป็นแผนที่ 4 ตั้งเป้าไว้ต่ำมาก สามารถทำได้สบายๆเช่นอัตราว่างงานตั้งเป้าไว้ 1.5% ต่อปีในปี 65 โดยเป้านี้ก็ทำได้ในปี 63 ไปแล้ว หรือการแข่งขันด้านทรัพยากรมนุษย์ว่าเราจะติดอันดับ 1 ใน 5 ในอาเซียน

ทั้งนี้ วิธีแปลงแผนแม่บทเฉพาะกิจไปสู่การปฏิบัติคือการบรรจุ 250 โครงการใหม่ในงบปี 65 แต่เมื่อดูโครงการแล้วก็ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ประเทศไทยอยู่ดี การทำเช่นนี้ก็ยังทำให้ประเทศคงอยู่ในวังวนและฟื้นตัวได้ช้า อีกทั้งเกินเยียวยาที่จะกลับมาให้ดีได้ อย่างเดิมได้ ตราบใดถ้าเราอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยแผนยุทธศาสตร์ชาติที่ไม่สอดคล้องกับปัญหา ประเทศก็รอดจากวิกฤตได้ยาก" 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"