‘อี้’ปะทะจตุพร ปชป.ขอไปต่อ เลือกข้าง‘ลุงตู่’


เพิ่มเพื่อน    

  "ไทยไม่ทน” บุก ปชป.ยื่นหนังสือถึง “จุรินทร์” จี้ถอนตัวร่วมรัฐบาล ชี้ "ระบอบประยุทธ์" สร้างความทุกข์ยากให้กับประชาชน เป็นภัยคุมคาม ปชต.-สถาบัน ขณะที่ “จตุพร-แทนคุณ” ปะทะคารมกันเดือด! แทนคุณอ้าง ปชป.มี 2 ทางเลือก อยู่ฝั่ง "ทักษิณ" กับ "ประยุทธ์" ยันจะไม่ทำให้ประเทศชาติตกหลุมเดิมๆ "จตุพร" ซัดอธิบายแบบนักเลือกตั้งกระจอกๆ

    ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถนนเศรษฐศิริ วันที่ 24 พฤษภาคม คณะไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ สมความคิด พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    ในหนังสือดังกล่าวสรุปใจความว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สืบทอดอำนาจมาถึง 7 ปี นับแต่รัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายวางโรดแมปเพื่อสืบทอดอำนาจ จนสามารถสถาปนา “ระบอบประยุทธ์” ที่สร้างความทุกข์ยากแสนสาหัสให้กับผู้คนในประเทศ มีการทุจริตคอร์รัปชันที่นำอำนาจผลประโยชน์ไปหล่อเลี้ยงความสามานย์ของระบอบประยุทธ์ การเติบโตขยายอำนาจของรัฐ ระบบราชการที่ไม่เห็นหัวประชาชน ด้อยค่า ลดทอนอำนาจฝ่ายการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนลงทุกขณะ ที่สำคัญคือ การแอบอ้างสถาบันแสวงหาประโยชน์ แบ่งแยกประชาชน จนสถาบันเกิดความมัวหมอง
    เวลานี้ประชาชนที่ไม่ยอมจำนนและไม่ทนกับความชั่วร้ายของระบอบประยุทธ์ กำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ประเทศได้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถนำพาประเทศให้หลุดพ้นปากเหวแห่งหายนะ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ดำรงอยู่ได้ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะมีประชาชนให้การสนับสนุน วาทะที่นายชวน หลีกภัย แกนนำคนสำคัญของพรรค กล่าวอยู่เสมอว่า “เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา” หรือ “ถึงที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน” นั้น สะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกประชาธิปไตยที่มองประชาชนเป็นใหญ่
    "เมื่อระบอบประยุทธ์คือภัยคุกคามของระบอบประชาธิปไตย ภัยคุกคามต่อสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน ภัยคุกคามความเจริญก้าวหน้าในทุกมิติของประเทศที่จะต้องส่งมอบต่ออนาคตให้คนรุ่นลูกหลานได้ดำรงอยู่ จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเปิดทางเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันหาผู้นำประเทศคนใหม่ตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป ขอพรรคประชาธิปัตย์ก้าวมาอยู่เคียงข้างประชาชน หยุดความชั่วร้ายสามานย์ของระบอบประยุทธ์" หนังสือระบุ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มไทยไม่ทนยื่นหนังสือเรียบร้อยแล้ว ได้เกิดการปะทะคารมระหว่างนายจตุพรและนายแทนคุณ โดยนายแทนคุณเท้าความถึงสาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลว่า เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 62 พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นทางเลือกที่สาม แต่เมื่อพรรคไม่ได้รับเลือกจากประชาชน จึงเหลือเพียง 2 ทางคือ ฝั่งนายทักษิณ ชินวัตร และฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนได้คุยกับนายอดุลย์ ซึ่งนายอดุลย์ก็เห็นด้วยว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะไปอยู่ด้วยกับพรรคเพื่อไทย หายนะหนักกว่าเดิม
    จากนั้นนายจตุพรกล่าวตอบโต้ว่า ความจริงไม่ใช่มีสองทางเลือก นักการเมืองต้องไม่ทำตัวเหมือนนักเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องเลือกพรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ แต่ต้องเลือกตามที่พรรคให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน อย่ากล่าวอ้างว่าประชาธิปัตย์มีแค่ 2 ทางเลือก วันนั้นพรรคประชาธิปัตย์อยู่กับตัวเอง อยู่กับประชาชนได้ วันนี้เรามาชวนเพื่อหาทางออกจากวิกฤติ แต่ถ้าอธิบายแบบนักเลือกตั้งกระจอกๆ คุณมาเถียงอะไรกับผม คุณจะสู้อะไรผมได้” นายจตุพรกล่าว และว่า “วันนี้พวกเรามาทวงสัญญาที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศไว้ ยามที่ประเทศอยู่ในภาวะแบบนี้ ชื่อคุณคือ แทนคุณ คุณก็ต้องแทนคุณ ไม่ใช่อธิบายแบบนักเลือกตั้งกระจอกๆ อย่าเอามาใช้กับผม”
    ขณะที่นายแทนคุณกล่าวว่า จะบอกว่าใครกระจอกไม่กระจอก ผมไม่ตอบโต้ในประเด็นนี้ ส่วนเรื่องยกตัวว่าใครจะมาสู้อะไรกับนายจตุพรได้ ก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าสู้กันจริงๆ ผมไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ผมก็เคารพหลักการประชาธิปไตย การให้ถอยและทิ้งภารกิจที่ให้ทำอยู่ขณะนี้ไม่ใช่วิถีทางของนักสู้จริงๆ ความจริงถ้าถอยต้องดูว่าใครจะได้ประโยชน์ นายจตุพรจะได้ประโยชน์หรือไม่ อาจมีความสุข หรืออาจจะมีกระบวนการอื่นสนับสนุนหรือไม่ ยังเชื่อว่าสู้บนครรลองอุดมการณ์ไม่ทำให้ประเทศชาติตกหลุมเดิมๆ
    นายจตุพรกล่าวตอบโต้อีกว่า นายแทนคุณดูถูกก่อน ตนจึงต้องบอกว่าวิธีการใช้ไม่ได้ ยิ่งมาเป็นตัวแทน วันนี้ประเทศเกิดวิกฤติ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมถอดสลักการเมืองก็ช่างหัวประชาธิปัตย์เท่านั้น
    นายแทนคุณกล่าวว่า ตนต้องอธิบายให้ฟังว่าสิ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เลือกแตกต่างระหว่างก่อนและหลังเลือกตั้งคืออะไร ทำให้นายอดุลย์ตัดบท และว่า มาวันนี้เพื่อขอให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยบ้านเมืองถอดสลักโดยถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่พูดเรื่องในอดีต เพราะทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง
    ด้านนายจตุพรกล่าวทิ้งท้ายว่า ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว วันนี้ก็ขอให้นายแทนคุณรับข้อเสนอของกลุ่มไทยไม่ทนไปหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และจะไม่ตอบโต้กันแล้ว เพราะจะไม่จบ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"