อาร์ชบิชอปแห่งย่างกุ้งวอนกองทัพหยุดถล่มโบสถ์


เพิ่มเพื่อน    

พระคาร์ดินัลชาร์ลส์ หม่อง โบ อัครมุขนายกแห่งย่างกุ้ง ผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกเมียนมา เรียกร้องให้ยุติการโจมตีศาสนสถาน ภายหลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐกะยา ที่มีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หลบภัยการสู้รบในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีคนเสียชีวิต 4 ราย เจ็บอีกมากกว่า 8 คน

แฟ้มภาพ พระคาร์ดินัลชาร์ลส์ หม่อง โบ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส มาร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่นครวาติกัน เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2558 (Photo by Franco Origlia/Getty Images)

    เมียนมาอยู่ในภาวะโกลาหลวุ่นวายนับแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปลุกให้เกิดการประท้วง เดินขบวน และนัดหยุดงานทั่วประเทศ ทหาร-ตำรวจใช้กำลังรุนแรงปราบปราม ขณะเดียวกันกองทัพเมียนมายังต้องสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มต่างๆ รวมถึงกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์และกำลังรบท้องถิ่นที่เพิ่งจัดตั้งใหม่เมื่อได้ไม่กี่สัปดาห์ โดยใช้อาวุธประดิษฐ์กันเอง

    รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม อ้างคำกล่าวของชาวบ้านและสื่อท้องถิ่นว่า หลายวันมานี้การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังฝ่ายต่อต้านขยายความรุนแรงมากขึ้นในภาคตะวันออกใกล้ชายแดนรัฐชานและรัฐกะยา ส่งผลให้กองกำลังฝ่ายความมั่นคงและนักรบท้องถิ่นตายหลายสิบคน นอกจากนี้ พลเรือนนับหมื่นคนต้องทิ้งบ้านเรือนหนีการสู้รบ และมีจำนวนหนึ่งเสียชีวิตลงด้วย

    พระคาร์ดินัลชาร์ลส์ หม่อง โบ อาร์ชบิชอปแห่งย่างกุ้ง กล่าวในจดหมายฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ว่า เราบันทึกความปวดร้าวของเราด้วยความเศร้าใจและเจ็บปวดอย่างมากมายกับการโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ที่เข้ามาหลบภัยภายในคริสตจักรพระหฤทัย กะยันตายา

    ผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกในเมียนมาท่านนี้กล่าวว่า โบสถ์หลังนี้อยู่ในเมืองหลอยก่อ เมืองหลวงของรัฐกะยาซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย ได้รับความเสียหายรุนแรงระหว่างการโจมตีเมื่อคืนวันอาทิตย์ "การกระทำที่รุนแรง รวมถึงการระดมยิงอย่างต่อเนื่องโดยใช้อาวุธหนัก ใส่กลุ่มคนที่หวาดกลัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก" ส่งผลให้มีคนบาดเจ็บล้มตาย "สิ่งนี้จำเป็นต้องหยุด เราวิงวอนพวกท่านทั้งหมดโปรดอย่าทำให้สงครามบานปลาย"

    พระคาร์ดินัลโบกล่าวด้วยว่า โบสถ์, โรงพยาบาลและโรงเรียน ได้รับการคุ้มครองระหว่างเกิดสงครามภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ 

    การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนหนีเข้าป่า โดยมีมากกว่า 20,000 คนพลัดถิ่นฐานและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทั้งด้านอาหาร, ยา และสุขอนามัย

    ชาวบ้านในพื้นที่นั้นที่กำลังพยายามช่วยเหลือชาวบ้านที่ละทิ้งถิ่นฐาน ประเมินเมื่อวันพุธว่า มีชาวบ้านทิ้งบ้านเรือนหนีภัยเพิ่มเป็นระหว่าง 30,000-50,000 คนแล้ว โดยกำลังหลบภัยอยู่ในโบสถ์หลายแห่ง 

    "คนแก่และเด็กอยู่กันในโบสถ์ โบสถ์ทุกแห่งได้ชักธงสีชาวเพื่อบอกให้หยุดการยิงถล่ม" ชาวบ้านวัย 20 ปีเล่าโดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ เธอบอกด้วยว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงตึงเครียด พร้อมกับกล่าวหากองทัพว่าใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่องกับกำลังรบท้องถิ่นที่ติดอาวุธเบา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"