'ก้าวไกล' เหน็บภูมิใจไทยทำตัวเป็นเด็กงอแง ห่วงงบสธ.ถูกตัด แนะวิธีพาเสี่ยหนูกลับบ้าน


เพิ่มเพื่อน    

1 มิ.ย.64 - เวลา 16.20 น. ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เหตุผลที่ไม่รับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 ในวาระที่ 1 วงเงิน 3.1ล้านล้านบาทนั้น เพราะเรามีนายกฯชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีจิตสำนึกในการทำงบประมาณ มาจากการสืบทอดอำนาจ กระทรวงกลาโหมสามารถลดงบฯได้มากกกว่านี้ แต่งบสวัสดิการประชาชนกลับถูกปรับลดมากกว่า กองทัพมักอ้างเสมอว่า จำเป็นซื้ออาวุธใหม่ ซื้อเท่าที่จำเป็น ถามว่างบสวัสดิการของประชาชนจำเป็นน้อยกว่าอาวุธหรือ ความมั่นคงในชีวิตมนุษย์สำคัญน้อยกว่าความมั่นคงทางทหารหรืออย่างไร เราต้องลด ตัด และเลื่อน โดยเฉพาะการซื้อยุทโธปกรณ์แบบจบปีเดียว เช่น การซื้อยุทธภัณฑ์ต่างๆ และเรายังต้องผ่อนยุทโธปกรณ์ต่างๆ เป็นภาระทั้งที่งบประมาณเป็นแบบนี้ รัฐบาลควรเจรจาเลื่อนจ่ายงวดผ่อนปีนี้ไปก่อนเพื่อมีงบสวัสดิการประชาชนเพิ่มขึ้น

นายพิจารณ์ กล่าวว่า โครงการซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือที่ยังอยู่และมีผูกพันถึงปี 2569  เมื่อซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ไปแล้วและกำลังผ่อนอยู่ แต่ทำไมลำที่สองและลำที่สาม ไม่ซื้อมาประกอบในเมืองไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับคนของเรา พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทำ กลับรีบเซ็นสัญญา กลัวว่าจะไม่ได้ซื้อ เราจะปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารใช้จ่ายงบไปอีกหรือ ขณะเดียวกันได้ติดตามการใช้งบประมาณการซื้ออาวุธของกองทัพอากาศด้วย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเมื่อไปดูงบประมาณ 3 ปีย้อนหลัง เกี่ยวข้องกับการลงทุนวิจัยและพัฒนากลับถูกปรับลดมาตลอด แต่รายจ่ายบุคลากร ไม่เคยถูกปรับลด ถามว่า เป็นสถาบันเพื่อการวิจัยหรือสถาบันเลี้ยงดูนักวิจัยกันแน่ กระทรวงกลาโหม มีโครงสร้างกำลังพลใหญ่โตเกินไป สวนทางกับงบประมาณภาพรวมกระทรวงที่ปรับลดลง ถึงเวลาแล้วที่กระทรวงกลาโหมต้องแก้ไขโครงสร้างกำลังพลอย่างจริงจัง เพื่อลดงบประมาณด้านบุคลากร ควรปลดถ่ายกำลังพลก่อนเกษียณอายุ

“งบประมาณปีนี้ ให้ผ่านไม่ได้จริงๆ จากที่ฟังการอภิปรายมาตลอด2วัน เห็นพรรคภูมิใจไทย ที่มีความเป็นห่วงในการถูกปรับงบในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่ว่าห่วงใยว่า งบถูกปรับลดแล้วก็ยกมือให้ ไม่ทำตัวเป็นเด็กดื้องอแง แต่เมื่อได้รถไฟฟ้ามาเป็นของเล่นแล้ว จะยกมือผ่านให้ การโหวตคว่ำร่างงบฯปี 2565 เป็นวิธีการที่รวบรัดที่สุดในการคืนงบฯให้กระทรวงสาธารณสุข เพราะจะกลับไปใช้งบฯ 2564 พลางก่อน ไม่ต้องรอแก้ไขในชั้นกรรมาธิการและไม่ต้องหวังพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เป็นวิธีโรแมนติกที่สุด ที่จะพาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกลับสู่บ้านคืนสุข และส่งพล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้านเก่า”นายพิจารณ์กล่าว

จากนั้นนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงนายพิจารณ์ที่พาดพิงพรรคภูมิใจไทยว่า ขอให้ถอนคำว่าพรรคภูมิใจไทยทำตัวเป็นเด็กงอแง เพราะส.ส.มีเอกสิทธิ์และหน้าที่ต้องปฏิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ต้องมีใครชี้นำ เราสามารถตัดสินใจด้วยตัวของเราเอง จากนั้นนายพิจารณ์ ได้ถอนคำพูด 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"