'พิธา' โชว์วิสัยทัศน์ 'นายกฯทิพย์' ฝันเป็นรัฐบาลจะบินไปหา 'โจ ไบเดน' ขอหยุดจัดซื้ออาวุธ


เพิ่มเพื่อน    

2 มิ.ย.64 - เวลา 17.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา มั่นใจได้อย่างไรว่า งบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาทนี้จะนำพาประเทศออกจากวิกฤตได้ หากพรรคก้าวไกล ได้จัดทำงบประมาณ จะคำนึงถึงประชาชน มาเหนือกว่าสิ่งอื่นใด โดยเริ่มจากคนที่เปราะบางที่สุดของสังคมไทย แต่งบประมาณสวัสดิการของประชาชนกลับถูกตัดลงกว่า 30,000 ล้านบาท คนชรา ทุพพลภาพ ได้เบี้ยยังชีพเพียง 600 บาทต่อเดือน จึงเสนอให้คนชราต้องได้รับการดูแลสวัสดิการถ้วนหน้า ขณะที่เด็กประถมวัย 1 ใน 5 คน ยังยากจนอยู่ จะทำทุกวิธีทางเพื่อให้เด็กทุกคนไม่มีความหิวโหย โดยจะต้องทำสวัสดิการให้ถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีใครตกหล่น ในส่วนของการศึกษา วิกฤตโควิดทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ลดลง แต่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กลับถูกตัดงบลดลง 400 ล้านบาท

นายพิธา กล่าวว่า ด้านสาธารณสุข ที่เป็นปีแห่งการฟื้นฟูประเทศจาก โควิด-19 รัฐบาลต้องวัคซีนเข็มที่สามสำหรับคนไทยทุกคน เพื่อให้เรารับมือโควิดได้อย่างมั่นใจ แต่คนไทยยังเข้าถึงระบบสาธารณสุขยาก งบบัตรทองถูกตัดออกไป 2,000 ล้านบาท ทั้งที่จะมีคนตกงานแล้วหลุดจากระบบประกันสังคมมากขึ้น จึงควรขยับเพดานด้านสวัสดิการ ของคนธรรมดากับข้าราชการไม่ให้แตกต่างกันมากเกินไป เมื่อเราจะได้พื้นฐานของบ้านที่เข้มแข็ง มีประชาชนเป็นที่ตั้ง เมื่อรัฐสวัสดิการได้ก่อร่างสร้างตัวเราก็จะมีตาข่ายทางสังคมคอยรองรับคนของเราในยามที่บ้านเมืองวิกฤต ทำให้คนในชาติไม่ต้องห่วงน่าไม่ต้องพะวงหลัง พร้อมที่จะริเริ่มอะไรใหม่ๆ

นายพิธา อภิปรายว่า เมื่อดูงบประมาณ 110,000 ล้านบาท ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับ ในภาพรวมเมื่อดูในรายละเอียดแล้วงบประมาณในเกือบทุกกรมปรับลดลง ยกเว้นกรมชลประทาน ได้งบสูง 77,000 ล้านบาท เมื่อไปดูรายละเอียดของกรมชลประทาน ที่คิดแต่จะสร้างอย่างเดียว หากเราเป็นรัฐบาล จะต้องกระจายอำนาจในการบริหารจัดการน้ำ คนท้องถิ่นย่อมรู้ดีกว่า ศูนย์กลางว่า ต้องการน้ำขนาดไหน ที่ไหน เมื่อไหร่ จะไม่ยอมให้งบประมาณน้ำมากมายมากระจุกตัวอยู่กับการทำโครงการขนาดใหญ่ ทั้งสร้างเขื่อนใหญ่ ที่ไม่ตอบโจทย์น้ำท่วมและน้ำแล้งในประเทศไทยเพื่อให้ปัญหานี้หมดไป ที่เป็นปัญหาคือ ที่ดิน ซึ่งที่ดินกว่าครึ่งเป็นของรัฐบาล มีการประกาศพื้นที่ป่าทับที่ดินทำกินของประชาชนที่อยู่มาก่อน และเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมยกระดับในเรื่องสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร

นายพิธา กล่าวว่า จากวิกฤตโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตในทุกประเทศก็ระดมสะสมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ หากพรรคก้าวไกล จัดงบประมาณเราจะขันน็อตอุตสาหกรรมเครื่องมือการแพทย์ให้เกิดขึ้นได้จริง และจะปลดล็อคกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีเงินอยู่แล้ว 10,000 ล้านบาท แต่แช่อยู่ในกองทุนนี้มา 5 ปี แต่ไม่มีใครคิดในเชิงรุกว่าจะนำไปสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาได้อย่างไร นี่คือบ้านงบประมาณใหม่ของประเทศไทยที่จะเป็นอนาคตและความหวังของทุกคนในชาติได้

ครั้งนี้เราต้องกระจายอำนาจให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างบ้านใหม่ของเรา ที่เป็นหัวใจของระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ในวันที่อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่เมืองหลวง ที่ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพ และกรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทย เพื่อให้ความเจริญกระจายไปทุกหย่อมหญ้าอย่างแท้จริง แต่ต่อให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจ เราก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หากไม่กล้าที่จะประเชิญหน้ากับโครงสร้างอำนาจของประเทศไทย ที่อยู่เบื้องหลังระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คือ นายทุน ขุนศึก และศักดินา ที่ปรารถนาจะแช่แข็งประเทศไทยเอาไว้ในโครงสร้างที่ตนเองอยู่บนยอดสูงสุดของพีระมิด ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปได้ ทหารต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน กองทัพจะต้องเลิกจัดงบประมาณมาทำสงครามกับประชาชนเพื่อปราบปรามคนเห็นต่างทางการเมือง

“ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมจะต้องพยายามมากที่สุดในการปลดปล่อยภาระงบผูกพันในช่วงที่เราต้องการงบด้านสุขภาพมากกว่างบความมั่นคงนั้น ก็คือการบินตรงไปเจรจากับประเทศคู่ค้าขายอาวุธให้เราเช่น อเมริกา ผมจะบินตรงไปหาประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อขอยกเว้นภาระผูกพันการจัดซื้ออาวุธทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีของไทยเคยทำมาแล้วในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า สุดท้ายมีคำถามฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาลว่า ที่ทุกคนร่วมอภิปรายฯ กับพวกตนมาตลอด 3 วัน 3 คืน ที่วิพากษ์วิจารณ์การตัดงบกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และสวัสดิการต่างๆ ที่อยากได้งบกลับคืนนั้นจริงหรือไม่ ถ้าอยากได้งบประมาณคืน จะต้องร่วมกันคว่ำร่างงบประมาณปี 2565 หรือการอภิปรายฯ ที่ผ่านมาเป็นลิเกโรงใหญ่ เพื่อต่อรองผลประโยชน์ อยากถามว่า หรือท่านจะอภิปรายเหมือนราชสีห์ และลงคะแนนเหมือนหนู ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรับรองให้งบประมาณ 2565 ผ่านไปได้ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"