คุก4เดือน‘ไบรท์’ นำ3นิ้วหมิ่นศาล โรมผวา!คุกคาม


เพิ่มเพื่อน    

 จำคุก 4 เดือน "ไบรท์-ชินวัตร" นำม็อบปราศรัยด่าทอ-ขู่ผู้พิพากษา ศาลชี้เป็นพฤติการณ์ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย แต่สุดท้ายได้ประกันตัว  ยกฟ้อง "วรเจตน์" ไม่รายงานตัว คสช. "รังสิมันต์" โวยโดนอำนาจมืดคุกคาม เหตุแฉตั๋วช้างสีกากี

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ศาลอาญานัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่มีผู้อำนวยการประจำสำนักอำนวยการศาลอาญา ผู้กล่าวหา นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์?กระจ่าง?  แกนนำราษฎร?นนทบุรี? ผู้ถูกกล่าวหา ฐานประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล กรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา  นายชินวัตรได้ร่วมชุมนุมและกล่าวถ้อยคำปราศรัยด่าว่าศาลอย่างรุนแรง ที่ด้านหน้าบันไดอาคารศาลอาญา และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญา ว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ.2564 โดยนายชินวัตร เดินทางมาศาลเพื่อเบิกความไต่สวนพร้อมทนายความและบุคคลใกล้ชิด ซึ่งในการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหายอมรับว่าได้เข้าร่วมชุมนุมจริง
     และในเวลาต่อมา ศาลอาญาอ่านคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายชินวัตรไปร่วมชุมนุมและกล่าวถ้อยคำปราศรัย ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใส่ความก้าวร้าวหยาบคายดูหมิ่นเหยียดหยามข่มขู่แสดงความอาฆาตต่อศาลยุติธรรมและผู้พิพากษาศาลอาญาซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างรุนแรง กรณีอาจถึงขนาดเป็นความผิดทางอาญาฐานดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีหรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาลได้ จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีความเคารพยำเกรงต่อกฎหมายก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ประกอบกับมีข้อเท็จจริงว่าในช่วงต้นของการชุมนุม ผกก.สน.พหลโยธิน ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยในศาลได้อ่านประกาศเรื่องการใช้สิทธิและเสรีภาพของผู้ชุมนุมและข้อกำหนดของศาลอาญาให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงชุมนุมมีการปราศรัยกันต่อไป โดยผู้ถูกกล่าวหากับพวกทั้งสามคนได้ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย
ศาลอ่านคำสั่งต่อไปว่า ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเข้าใจว่าสามารถทำได้ มีเพียงเจตนาต้องการให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในคดีซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาว่ามีความผิด ไม่ต้องการให้ศาลทำหน้าที่โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือของบุคคลใดนั้น เป็นการกล่าวอ้างที่ปราศจากเหตุผลไม่อาจรับฟังได้ เพราะการชุมนุมปราศรัยกล่าวหาด่าว่าศาลหรือผู้พิพากษาเพื่อเรียกร้องให้ผู้พิพากษามีคำสั่งตามความต้องการไม่ใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้พิพากษาจะต้องมีอิสระและใช้ดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาหรือคำสั่งคดี เมื่อผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ร่วมชุมนุมดังกล่าวได้ทราบประกาศข้อกำหนดของศาลอาญาเรื่องรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลแล้ว แต่ยังกระทำการฝ่าฝืนอีก แสดงว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาที่จะก่อความวุ่นวายขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลอันว่าด้วยการรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล ได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอย่างชัดแจ้งและมีพฤติการณ์ที่ร้ายแรง
“จึงเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1), 33  ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา  15 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำคุก 4 เดือน" คำสั่งศาลอาญาระบุ
    ทั้งนี้ นายชินวัตรยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ขอประกันตัวเป็นเงินสด 1 หมื่นบาท โดยศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความนายชินวัตร กล่าวว่า ศาลได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่ม 1 ข้อ คือห้ามนายชินวัตร  ไปร่วมดำเนินการชุมนุมในการที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
    ที่ศาลแขวงดุสิต ถนนนครไชยศรี ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการกฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลย ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) ที่ 5/2557 และ 57/2557 ไม่ไปรายงานตัวที่ค่ายทหาร ซึ่งต่อมาคดีถูกโอนมายังศาลเเขวงดุสิต ซึ่งฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าบทกฎหมายที่ใช้บังคับแก่คดีขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เเละต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยประกาศ  คสช.ดังกล่าวกำหนดโทษคนไม่รายงานตัวขัดรัฐธรรมนูญ
    นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลแขวงดุสิตมีคำพิพากษาว่าประกาศ คสช. ซึ่งมีโทษทางอาญาทั้ง 2 ฉบับขัดรัฐธรรมนูญ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประกาศดังกล่าว
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลไม่ทราบฝ่ายติดตามคุกคามตนเองและภรรยา โดยเมื่อวันที่ 26  พ.ค. พนักงานคอนโดฯ แจ้งว่ามีชายจำนวน 2 คนขับรถยนต์เข้ามา และพยายามขอให้พนักงานเปิดประตูอาคารให้เข้าไปยังห้องพักของตน โดยบุคคลอ้างว่าเป็นเพื่อนของภรรยา พร้อมกับแสดงรูปถ่ายภรรยาของนายรังสิมันต์ ซึ่งเป็นรูปที่ใช้ในการติดต่อกับราชการ แต่สุดท้ายพนักงานคอนโดฯ ไม่อนุญาตให้เข้าไป ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าทั้งตนเองและภรรยาไม่ได้รู้จักกับบุคคลทั้งสองและไม่มีทางที่จะยินยอมให้เข้าไปยังห้องพักได้
    นอกจากนี้ ในวันที่ 28 พ.ค.ยังมีคนใช้หมายเลขโทรศัพท์ 094-9413723 ติดต่อมาหาภรรยาของตน เพื่อถามว่าใช่ภรรยาของนายรังสิมันต์หรือไม่แล้ววางสายไป ซึ่งได้พยายามติดต่อกลับไปหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ และจากการตรวจสอบพบว่า หมายเลขดังกล่าวจดทะเบียนโดยชาวต่างชาติที่หมดวีซ่าในประเทศไทยแล้ว  และใช้โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของราชการตำรวจ  ส่วนทะเบียนรถก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นทะเบียนปลอม  และทราบมาว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มียศระดับสูง เชื่อว่ามีส่วนได้เสียกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องตั๋วช้างในวงการตำรวจเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"