เลือก‘สิงห์ชัย’ อสส.คนที่16 ชงสว.ไฟเขียว


เพิ่มเพื่อน    

  ก.อ.มติเอกฉันท์เคาะ "สิงห์ชัย ทนินซ้อน” นั่ง อสส.คนที่ 16 ชงวุฒิสภาเห็นชอบ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ  ถวายถอนชื่ออัยการถูกฟ้องคดีละเมิดทางเพศจากบัญชีแต่งตั้ง “พชร” ขีดเส้นเร่งผลสอบ "เนตร" เสร็จ ก.ค.นี้

    เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) โดยมีนายพชร ยุติธรรมดำรง ประธาน ก.อ. เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุม ก.อ.มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน รองอัยการสูงสุด ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน จะมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ 2564 นี้ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องพ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 สำหรับขั้นตอนต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 10 โดยสำนักงานอัยการสูงสุดจะมีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯ ต่อไป  
    รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ว่าที่อัยการสูงสุดคนที่ 16 เกิดวันที่ 22 มกราคม 2500 ปัจจุบันอายุ 64 ปี มีวาระการดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย ผ่านการอบรมหลักสูตรที่สำคัญ เช่น หลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 8 วิทยาลัยศาลรัฐธรรมนูญ นักบริหารกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง รุ่นที่ 22 จากวิทยาลัยการยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม หลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง รุ่นที่ 4 สำนักงาน ป.ป.ช.
    ส่วนประวัติการทำงาน นายสิงห์ชัย เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ทั้งรองอธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดสำนักงานอัยการสูงสุด รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอัยการสูงสุด อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการเนติบัณฑิตยสภา กรรมการเนติบัณฑิตยสภา และกรรมการในสภามหาวิทยาลัยบูรพาอีกด้วย
    ทางด้านความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนคนตาย ภายหลังมีการเปลี่ยนคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว 3 ชุดนั้น นายพชรกล่าวภายหลังการประชุม ก.อ.ว่า คดีนายวรยุทธ หลังจากที่นายเนตรมีคำสั่งไม่ฟ้องในภายหลังก็มีคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาใหม่กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องคดีเช่นเดิม และยังมีข้อหาเกี่ยวกับสารเสพติดในร่างกาย ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนที่นายเนตรมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้นตนได้กำชับให้กรรมการสอบสวนเร่งดำเนินการรีบสอบสวนโดยเร็ว และนายเนตรต้องมาให้ถ้อยคำ เพราะยังอยู่ในราชการอยู่ หากไม่มาอาจจะถือว่าเป็นการขาดราชการเกิน 15 วัน ทั้งนี้ ที่อ้างว่ามีอัยการชื่อย่อ ช.ช้าง เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนเเปลงความเร็ว ได้กำชับไว้แล้วในที่ประชุม ก.อ. ว่าต้องไปสืบมาให้ได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นอัยการใช่หรือไม่ และมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร ต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้น
    "การดำรงตำแหน่งของอัยการอาวุโสจะมีความสมบูรณ์ได้คือ มีตำแหน่งของ ก.อ.รองรับไว้ ถ้ามีต้องให้นายเนตรปฏิบัติหน้าที่และรอโปรดเกล้าฯ แต่เมื่อมีเรื่องว่าหากการเสนอโปรดเกล้าฯ ไม่เป็นการมิบังควรที่จะเสนอไป เราก็ถอดชื่อนายเนตรออกจากการเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ ในวันนี้คณะกรรมการฯ ควรจะรีบสอบสวนเรื่องการสั่งคดีของนายเนตรให้เสร็จโดยเร็ว เพราะเรื่องไม่ได้สลับซับซ้อน ผมกำชับไว้แล้ว ขณะนี้ถือว่านายเนตรยังอยู่ในราชการอยู่ เพราะแต่ระหว่างนี้คิดว่าต้องชะลอการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นเรื่องของสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการ การชะลอก็คือ การที่ไม่อาจให้สั่งคดีได้ ภายในเดือน ก.ค. น่าจะต้องได้ข้อยุติในการสอบ” ประธาน ก.อ.ระบุ
    นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.อ.ยังได้พิจารณาในส่วนของนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการคดีอาญาธนบุรี ที่ศาลมีคำพิพากษาคดีเมาสุราขับรถชน ซึ่งต้องมาพิจารณาโดยละเอียดว่าการต้องคดีดังกล่าวนำไปเทียบเคียงกับกฎหมายอื่น และจะเป็นเรื่องที่ผิดวินัยหรือไม่ จึงได้ให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่ากรณีการทำความผิดในลักษณะนี้เป็นความผิดทางวินัยหรือไม่ และจะต้องเสนอทูลเกล้าฯ ถวายอย่างไร ให้รีบไปตรวจสอบและนำกลับมาพิจารณาในเดือนหน้า
    ประธาน ก.อ.กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับคดีความต่างๆ อาทิ อัยการที่จะขึ้นดำรงตำเเหน่งอัยการระดับผู้กลั่นกรองคนหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีในชั้นศาล โดยคดีถูกอัยการสั่งฟ้องข้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้นที่ประชุม ก.อ.จึงมีมติเห็นชอบให้ถอนชื่อออกบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนการดำเนินคดีทางวินัยต่อต้องรอผลทางคดี ส่วนกรณี 2 อัยการภูเก็ตที่มีคลิปเสียงเกี่ยวกับเรียกรับสินบน 10 ล้านบาท ในคดีแผ้วถาง ทำลาย ครอบครองป่าในที่ดินอันเป็นเขตอุทยานแห่งชาตินั้น คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งมา อยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดลงนามคำสั่งส่งกลับไปที่ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ขณะที่การสอบสวนวินัยชั้นต้นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จของสำนักงานอัยการภาค 8 มีความเห็นออกมาแล้วว่ามีการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"