'พรหมเมธี'สิ้นฤทธิ์ เยอรมนีรวบคาตม./'จักรทิพย์'หิ้วกลับไทย6มิ.ย.


เพิ่มเพื่อน    

    "อดีตพระพรหมเมธี" สิ้นฤทธิ์ โดนเจ้าหน้าที่ ตม.เยอรมันจับคาสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมนีระหว่างยื่นพาสปอร์ตสีน้ำเงินขอเข้าประเทศ หลังหลบออกจาก สปป.ลาวเข้ากัมพูชา-เวียดนาม "จักรทิพย์" นำทีม ตร.ขึ้นเครื่องบินตามไปรับตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไทย 6 มิ.ย.นี้  "กองปราบฯ" เร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ 5 ศิษย์คนสนิทพาหนี "ผบ.เรือนจำ" เผย "อดีตเจ้าคุณธงชัย" เริ่มปรับตัวได้แล้ว "รองโฆษก พศ." ขออย่าเพิ่งตัดสินเจ้าคุณปิงเสพเมถุน รอผลสอบลามกอนาจารพระกับฆราวาสชายภายในกุฏิวัดสระเกศฯ 
    เมื่อวันอาทิตย์ มีความคืบหน้าการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมมฺจารี) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร อดีตกรรมการ มหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะภาค 4-7 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม และเป็น 1 ใน 7 พระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกถอดสมณศักดิ์ หลังจากหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปต่างประเทศ
    โดยช่วงกลางดึกของวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)ประจำสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ได้ควบคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี ขณะยื่นหนังสือเดินทางขอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต แต่ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเยอรมนีไม่ให้ผ่าน เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับที่ทางตำรวจไทยได้ประสานตำรวจสากลไว้แล้ว 
    เบื้องต้นทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ตได้ประสานมาทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไทยถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งหลังจากได้รับแจ้ง ทาง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้โทรศัพท์สายตรงรายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตัดสินใจบินด่วนเพื่อเดินทางไปประเทศเยอรมนี ในการประสานความร่วมมือตามขั้นตอนทางกฎหมายในการรับตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการไทยกลับมาดำเนินคดี   
    ทั้งนี้ ในเวลา 09.05 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์, พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะอัยการของไทย เดินทางด้วยสายการบินไทยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ TG926 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในเวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีกำหนดเดินทางกลับมายังประเทศไทยเวลา 06.25 น. ของวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ด้วย TG921 สายการบินไทย ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย
    สำหรับอดีตพระพรหมเมธี ได้หลบหนีการจับกุมหลังทราบข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในคดีเงินทอนวัด ซึ่งขณะนั้นอดีตพระพรหมเมธีได้รับกิจนิมนต์ที่ จ.พิษณุโลก จึงเดินทางด้วยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 กภ 8672 กรุงเทพมหานคร จากจังหวัดพิษณุโลก มุ่งหน้าไป จ.นครพนม ก่อนที่จะนำรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิพระเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม จากนั้นได้เดินทางข้ามฝั่งจากประเทศไทยไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 
'เมธี'สิ้นฤทธิ์ที่เยอรมนี 
    ต่อมาชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของอดีตพระพรหมเมธี ที่โรงแรมดงชัย เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่ามีการเดินทางออกจากโรงแรมดังกล่าวเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 26 มิ.ย. โดยภาพวงจรปิดของโรงแรมดังกล่าวจับภาพอดีตพระพรหมเมธีเดินออกจากโรงแรมดังกล่าวพร้อมกับชายไทยชื่อ โค๊ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของอดีตพระพรหมเมธี โดยมีเพียงสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้หนึ่งใบ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางไปยังท่ารถโดยสารเพื่อเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา 
    จากนั้นชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของอดีตพระพรหมเมธีอีกครั้ง เมื่อเวลา 05.15 น. วันที่ 1 มิ.ย. อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ พร้อมด้วยหลานชายคนสนิท ได้ขึ้นเครื่องด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบิน QR971 จากกรุงพนมเปญ ก่อนแวะจอดที่สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 06.23 น. จากนั้นเครื่องบินลำดังกล่าวได้บินไปยังสนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ ทรานซิต (Transit) ต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตพระพรหมเมธีเคยเดินทางไปเยอรมนีเมื่อปี 2558 โดยขณะนั้นเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ขออนุมัติจากมหาเถรสมาคมเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดพระธรรมกายบาวาเรีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่พระวิเทศภาวนาธรรม เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายบาวาเรีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้อาราธนาให้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเป็นประธานสงฆ์ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และประกอบพิธีผูกพัทธสีมา ณ อุโบสถวัดพระธรรมกายบาวาเรีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 22-27 พ.ค.2558 โดยให้ทุกรูปใช้หนังสือเดินทางราชการ นั่นคือพาสปอร์ตสีน้ำเงินของพระชั้นผู้ใหญ่ มีกำหนดอายุหนังสือเดินทาง 5 ปี
    ข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่อดีตพระพรหมเมธีเลือกที่จะไปที่วัดพระธรรมกายแฟรงก์เฟิร์ต หรือวัดพระธรรมกายไรน์แลนด์นั้น เพราะหากดูจากทำเลที่ตั้ง จะเห็นว่าค่อนข้างปลีกวิเวก ห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร ทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าใดนัก โดยหากไปอยู่ที่วัดพระธรรมกายเบอร์ลิน ที่มีพระโสภณพุทธิวิเทศ (จิตติก์ ญาณชโย) เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม เบอร์ลิน หรือเจ้าคุณเบอร์ลินนั้น อาจถูกเพ่งเล็งได้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าคุณเบอร์ลินเคยเคลื่อนไหวสมัยพระธัมมชโยแล้ว จึงเลือกที่จะไปที่วัดพระธรรมกายไรน์แลนด์
    มีรายงานด้วยว่า ในส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีหลบหนี ทางตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมดำเนินคดีในฐานความปิดให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา โดยพบมีทั้งหมด 5 คน เป็นชาวลาว 3 คน และมีชาวไทยอีก 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบชาวไทยที่เป็นสีกาคนสนิทและเป็นลูกศิษย์ที่ให้การช่วยเหลือทั้งสองรายตำรวจได้ควบคุมตัวไว้แล้ว และกำลังมีการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย 
    สำหรับสีกาคนสนิทที่สำคัญ มีอาชีพเป็นนักธุรกิจชื่อดัง และมีสามีทำธุรกิจเหมืองแร่ใน สปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางในการช่วยเหลือหลบหนีออกต่างประเทศได้ง่าย โดยทางตำรวจกำลังมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    ขณะที่ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เยอรมันยังไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครแฟรงก์เฟิร์ตเข้าเยี่ยมอดีตพระพรหมเมธี หลังถูกควบคุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต 
อย่าเพิ่งตัดสินพระเกย์
    วันเดียวกัน นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมอดีตพระเถระผู้ใหญ่ภายในเรือนจำว่า อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตท่านเจ้าคุณธงชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เรือนจำได้นำตัวไปคุมขังยังแดน 3 ล่าสุดเริ่มปรับตัวได้แล้ว อาการป่วยไม่มีอาการน่าเป็นห่วง ทุกคนเริ่มใช้ชีวิตในเรือนจำเหมือนผู้ต้องขังรายอื่นๆ แต่ยังคงไม่รับประทานอาหารเย็น ระหว่างวันก็นั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำกิจกรรมอื่นเล็กน้อย
    นายกฤชกล่าวว่า ในส่วนอาการป่วยของอดีตพระพุทธะอิสระ ยังคงต้องให้ทำกายภาพเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ตอนนี้ก็ไม่ได้ให้เคลื่อนไหวมากนัก เรือนจำได้ให้นั่งรถเข็นหรือเดินด้วยเครื่องช่วยพยุง สามารถทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ แต่เคลื่อนไหวร่างกายไม่ค่อยสะดวกเท่านั้น 
    "ความจำเป็นในการรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของแพทย์ และความเหมาะสม แต่ตอนนี้คงยังไม่มีความจำเป็น เพราะโรคดังกล่าวมีขั้นตอนการรักษา อีกทั้งการคุมตัวผู้ต้องขังออกจากเรือนจำไปเข้ารับการรักษาพยาบาล มีขั้นตอนพอสมควร" ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครกล่าว
    ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามไปตรวจค้นกุฏิพระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พบภาพลามกอนาจารและมีเพศสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่หน้าคล้ายกับอดีตเจ้าคุณปิงกับชายรายหนึ่ง  รวมทั้งภาพเปลือยผู้ชายจำนวนมาก ทำให้มีการตั้งข้อกล่าวหากระทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าต้องขอให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะพระที่ถูกกล่าวหาด้วย ซึ่งขอทำความเข้าใจว่า หากเป็นเรื่องของคดีอาญา ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมือง
    "หากพระถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระธรรมวินัย ตั้งแต่อาบัติเบา จนถึงปาราชิกนั้น ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครอง ที่จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนอธิกรณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสืบสวนให้ความเป็นธรรมกับพระที่ถูกกล่าวหา เมื่อดำเนินการสอบสวนแล้ว หากพระรูปดังกล่าวกระทำผิดจริง เจ้าคณะปกครองจะพิจารณาโทษตามพระธรรมวินัย" นายสิปป์บวรกล่าว
    รองโฆษก พศ.กล่าวว่า กรณีของเจ้าคุณปิง เป็นเรื่องของพระธรรมวินัย ก็ต้องให้มีผู้ร้องมาถึงเจ้าคณะปกครอง หรือหากเจ้าคณะปกครองเห็นว่าจะกระทบต่อพระพุทธศาสนา ก็สามารถดำเนินการสอบอธิกรณ์ เพื่อสอบข้อเท็จจริง หลักฐาน ตัวบุคคล และดูว่า กระทำผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ และขั้นใดต่อไป
    มีรายงานว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ คาดว่า มส.จะมีการพิจารณาตำแหน่งสำคัญ 3 เก้าอี้ ประกอบด้วย 1.ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ซึ่งเดิมเป็นของอดีตพระพรหมสิทธิ เพราะมีงานสำคัญในปลายเดือน มิ.ย.นี้ คือการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ณ วัดอตัมมยตาราม เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา 2.เจ้าอาวาสวัดสามพระยา แทนอดีตพระพรหมดิลก และ 3.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ แทนอดีตพระพรหมสิทธิ 
จับตาประชุม มส.10มิ.ย.
    “ที่น่าจับตามากที่สุดคือตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายค่อนข้างรุนแรง ต่างจากวัดสามพระยา ซึ่งไม่น่ามีปัญหา และที่ผ่านมาเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ในช่วงหลังๆ ก็มักมีปัญหาตลอด ตั้งแต่พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญญาวชิโร) หรือเจ้าคุณเสนาะ ที่ถูกปลดก่อนตัดสินใจฆ่าตัวตาย และล่าสุดคืออดีตเจ้าคุณธงชัย ที่ถูกจับสึกไปหลังวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา” แหล่งข่าวระบุ
    ก่อนหน้านี้ ในการประชุม มส. เมื่อวันที่ 30 พ.ค.  มส.มติที่สำคัญนอกจากรับทราบการถอดถอน ตำแหน่งและสมณศักดิ์ของกรรมการ มส. 3 ท่าน อันได้แก่ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ไปแล้ว จากนั้น มส.ได้รับทราบการแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะภาค 10 (มหานิกาย) เจ้าคณะ กทม. (มหานิกาย) และเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธรรมยุต) และต่อมาพระธรรมสุธี (นรินทร์ นรินฺโท) เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ในฐานะรักษาการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และเจ้าคณะภาค 12 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และแต่งตั้งพระราชวิสุทธิดิลก (ละเอียด กิตติสุขุโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะแขวงวัดสามพระยา เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสามพระยา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วน ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 2,695,951 คน ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงปัญหาทุจริตเงินทอนวัดในขณะนี้ ตอนหนึ่งว่า ดูข่าวกวาดล้าง จับกุม การทุจริตวงการสงฆ์ ทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ พระผู้ช่วย ไม่ใช่วัดในชนบทหลังเขา ห่างไกลสายตานะ แต่ละวัดนี่คือวัดดังมาก ขนาดมหึมาใจกลางเมืองหลวง ไหนจะพระ ลูกศิษย์ ข้าราชการ นักธุรกิจเครือข่ายที่คอยช่วยเหลือ พระอะไรวะ มีเงินในบัญชีชื่อของตัวเองเป็นร้อยล้าน นี่คือ 1 คนนะ แล้วรวมทุกคนในเครือข่าย ไม่เป็นพันๆ ล้านรึ
    "นี่แค่ที่หลักฐาน พยานชัดเจน แล้วไอ้ที่เข้าไปไม่ถึง หรือถึงแล้วแต่หลักฐานไม่พอ อีกกี่คน กี่วัด เวลาเห็นมีพวกชมรม ภาคี เครือข่าย ออกมาต่อต้านการกวาดล้าง การตรวจสอบ อยากจะด่าชิบ... ไม่ได้ปกป้องศาสนา กำลังปกป้องคน...ที่เข้ามาหาแดกกะศาสนา นี่เฉพาะวัดยักษ์ๆ นะ แล้ววัดกลาง วัดเล็กวัดน้อย สำนักสงฆ์ ที่แม่งมีเรื่องเงินทำบุญ เรื่องเพศมั่วสีกา มั่วผู้ชาย เรื่องยา แดกเหล้าเมาปลิ้น เรื่องไสยศาสตร์ หลอกลวงชาวบ้าน พวกนั้นอีกเท่าไหร่ทั้งประเทศ"
    เพจดังกล่าวระบุตอนท้ายช่วงหนึ่งว่า ในความเห็นนะ เคลียร์ใหญ่แบบนี้แหละดี จะจับไปสักสิบกี่คน  ปิดไปกี่วัดก็เอาเลย จัดการซะให้หมด ให้เหลือแต่พระดี พระแท้ๆ พระที่ยึดแต่คำสอน ไม่สนใจวัตถุ เงินทอง พระที่คนเต็มใจไหว้แค่สิบรูปทั้งประเทศ ยังดีซะกว่ามีพระเดินกันเต็มประเทศ ที่มีแต่เรื่องเพศ ยา เหล้า สีกา พระตุ๊ด พระเกย์ พระแก่ล่อเด็ก วัตถุมงคล ใบ้หวย อยากได้แต่อำนาจ ยศ ตำแหน่ง จำนวนเงิน จำนวนลูกศิษย์ สร้างวัด สร้างพระ สร้างตึก สร้างอาคาร สร้างเครือข่าย มึงรู้มั้ยว่า คนเจอพระไม่อยากจะไหว้กันแล้วทุกวันนี้ ไม่ให้เค้ากวาดล้างตอนนี้จะรอตอนไหน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"