จากเมืองฟุ่งเฟืองด้วยวัคซีนพ่อ+ถึงวาระโลกไล่ล่าหายารักษาโควิด19


เพิ่มเพื่อน    

 

มฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีเมษ-8กรกฎาคม 2565

พระเสาร์จร(7)เดินถอยหลังในราศีมังกรระหว่าง26พฤษภาคม-30กันยายน2564

พฤหัสบดีจร(5)เดินถอยหลังในราศีกุมภ์ระหว่าง17มิถุนายน-28กันยายน2564

พระอังคารจร(3)เดินอยู่ในราศีกรกฎ-20กรกฎาคม2564

พระอังคารจร(3)เดินอยู่ในราศีสิงห์20กรกฎาคม-6กันยายน2564

ในที่สุดวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ได้ ใช้คุณสมบัติด้านดีของมฤตยูคือความล้ำเลิศ อัจฉริยะ ล้ำสมัย นวัตกรรมใหม่ ริเริ่มสร้างสรรค์สร้างวัคซีนในเวลาประมาณ1ปีมารับมือโรคระบาดร้ายแรง-เหตุร้ายไม่ทันนึกคิด-เกี่ยวกับมหาชนซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านร้ายของมฤตยูคือโควิด19เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนทั่วโลกจนตัวเลขการติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มค่อยๆลดลงโดยภาพรวม

ข่าวร้ายคือมฤตยูจร(0)ยังจะเดินอยู่ในราศีเมษไปถึง8กรกฎาคม2565 ฉะนั้นไม่ว่าการรับมือจะเป็นอย่างไร ได้วัคซีน และกำลังใกล้จะได้ยารักษาก็ตามแต่โลกและเมืองรัตนโกสินทร์คงเจอกับอาการอ้อยอิ่งอยู่ในบรรยากาศของโรคนี้ไปถึงกลางปี 2565ก่อนที่โควิด19จะกลายเป็นโรคสามัญประจำโลกต่อไป

ระยะต่อไปนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของของโรมรันพันตูระหว่างวิทยาศาสตร์การแพทย์และความทนทุกข์ทรมาณจากโรคร้ายที่ต้องจับตาอย่ากะพริบคือ

1.แล้วไทยก็ฟุ่งเฟืองจริงๆ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่29มีนาคม 2564เป็นต้นมาพฤหัสบดีจร(5)หัวหน้าดาวดี-ศุภเคราะห์ดวงใหญ่ที่สุด-เทพเทวาคุ้มครองเมืองและโลก ซึ่งหนึ่งในความหมายคือบุคลกรทางการแพทย์ -ระบบสาธารณสุข วิทยาศาสตร์การแพทย์ ยา วัคซีน ผู้รู้ผู้ทรงภูมิ มหาวิทยาลัยฯลฯที่ยืนเด่นเป็นสง่าในราศีภุมภ์-ภพที่สิบเอ็ดของเมืองและโลก คุ้มครองให้ลาภะคือโชคลาภและความสำเร็จของเมืองและโลกมาตลอด จึงแม้จะสะบักสะบอมด้วยโควิด19กลับมาระบาดรอบที่สาม แต่เมืองเราก็รอดมาถึงวันนี้ด้วยตัวเลขเรี่ยๆ-ทรงๆในระดับสูง -เริ่มปูพรมฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่7มิถุนายน2564

1.1แล้วตามคำทำนายเดิมที่บอกว่าพฤหัสบดีจรที่ราศีกุมภ์นี้จะแสดงผลให้เมือง……ฟุ่งเฟืองคนลือเลื่องลาภเหลือหลาย….ผลคือคือวัคซีนแอสตร้า เซเนก้าจากสยามไบโอไซน์แอนซ์ ที่ผลิตได้ในประเทศอย่างเหลือเชื่อ-ทันกาล-ขณะที่หลายประเทศพยายาม ยื้อแย่งวัคซีน-ตั้งโรงงานผลิตก็ไม่ทัน

ข่าวดีคือดวงเมืองไทยยังเหลือความฟุ่งเฟืองอีกรอบแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป

1.2ส่วนหลายประเทศทั่วโลกที่เคยหนักหนาสาหัสเพราะโควิด19มาตั้งแต่ต้นเริ่มค่อยๆตั้งหลักได้เช่นอเมริกา อินเดีย อังกฤษฯลฯเพราะตัวเลขทั้งติดเชื้อและผู้เสียชีวิตค่อยๆลดลง

2.ย้อนกลับไปตั้งแต่26พฤษภาคม2564เกิดอาการเริ่มผิดปกติคือเดินถอยหลัง(พักร)ของพระเสาร์จร(7)หัวหน้าดาวร้าย ความทุกข์ทรมาณจาการเจ็บไข้ได้ป่วยแบบเรื้อรัง ผลที่รวบรวมไว้เป็นปูมโหรคือศบค.ทบทวน-ปรับนโยบาย(อาการของพระเสาร์จรเดินถอยหลัง)ให้ท้องถิ่นและโรงพยาบาลเอกชนจัดหาวัคซีนเองได้แล้ว

รอดูสักหน่อยว่าอาการนี้จะถึงกับปรับครม.ตามที่ทำนายไว้หรือไม่ เพราะมีเวลาไป30กันยายน2564

ปรากฏการณ์ระดับโลกอาการที่เกิดขึ้นคือองค์การอนามัยโลก รับรองวัคซีนซิโนแวคของจีนใช้ฉุกเฉินไปเมื่อ1มิถุนายน 2564

ส่วนอาการทนทุกข์ทรมานยืดเยื้อจากโรคโควิด19นั้นเมื่อพระเสาร์จรเดินถอยหลัง(ไม่ก้าวหน้า)ตัวเลขติดเชื้อของโลกมีแนวโน้มลดลงเห็นได้ชัด ส่วนของไทยแม้จะทรงตัวในระดับสูงแต่ที่เด่นชัดออกมาคือตัวเลขคนหายป่วยออกจากโรงพยาบาลค่อยๆทำได้ค่อนข้างดี

3. ครั้นตั้งแต่17มิถุนายน 2564เป็นต้นไปพฤหัสบดีจร(5)จะเริ่มออกอาการเดินผิดปกติ หรือวิกลคติคือลอยนิ่ง(มนฑ์)-หลังจากนั้นจะเริ่มเดินถอยหลัง(พักร)ในราศีกุมภ์

ทีนี้ยุ่งละสิเพราะก่อนหน้านี้พระเสาร์จร(7)หัวหน้าดาวร้ายเดินถอยหลังไปดวงหนึ่งแล้วมารอบนี้พฤหัสบดีจรยังมาเดินถอยหลังอีก หากไม่พิจารณาให้ดีอาจเกิดอาการวิตกจริตได้ง่าย

แถมครูโหรยังห้ามไว้อีกว่า”ระหว่างดาวเดินผิดปกตินี้อย่าทำนายเลย ไม่ถูกดอก”อีกต่างหาก

แต่ถึงจะอย่างไรผู้เขียนก็จะยังจะฝืนใช้เคล็ดครูโหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมคมโหราศาสตร์นานาชาติมาลองทำนายพอเป็นแนวทางดังนั้น

3.1หลังจากยืนเด่นเป็นสง่ารับมือเจ็บไข้ได้ป่วยหลายระลอกครั้นตั้งแต่17มิถนายน 2564เป็นต้นไป บุคลากรทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์-ระบบสาธารณสุขจะเริ่มทบทวน หาทางใหม่ๆ(พฤหัสบดีจร5เริ่มเดินถอยหลัง) พลิกกลับเป็นฝ่ายไล่ล่าความทุกข์ทรมานจากโรคร้ายชนิดเอาเป็นเอาตาย(ดูตามลูกศรพฤหัสบดีจร5ไล่ล่าพระเสาร์จร7)

3.2อีกหนึ่งอาการที่จะปรากฎออกมาช่วงนี้คือ ฝ่ายคณะแพทย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์คงทบทวน-กระชับการใช้การวิจัยหนุนหลัง(พระอังคารจร3ถึงพฤหัสบดีจร5ดูตามรูป)ค้นหายารักษาโรค

3.3ช่วงที่การวิจัยจะก้าวหน้ามากที่สุดคือระหว่าง20กรกฎาคม-6กันยายน 2564(พระอังคารจร3ดาวประจำชีพโลก-เมืองเดินอยู่ในราศีสิงห์เข้าแข็งมากเป็นอังคารนักรบ-นักสู้ขี่สิงห์สาดพลังถึงพฤหัสบดีจรเต็มที่)

3.4 เชื่อว่าในระหว่างนี้จะได้ยาในช่วงที่โหรภิญโญ พงศ์เจริญและผู้เขียนคำนวนไว้คือประมาณ22สิงหาคม 2564 (ก่อน-หลัง7วัน)

จึงแม้โรคโควิด19จะอ้อยอิ่งอยู่ต่อไปถึงกลางปี2565แต่เพราะวิทยาศาสตร์การแพทย์ก้าวหน้าการรับมือจะดีขึ้น และหากจะกลับมาระบาดอีกรอบ ที่สำหรับเมืองไทยจะเป็นรอบที่สี่(ใกล้ๆแล้วจะเตือนอีกครั้ง) แต่ความร้ายแรงจะไม่เท่ารอบที่สาม

แล้วอย่าลืมว่าต่อไปเมืองรัตนโกสินทร์ยังจะมีเรื่องฟุ่งเฟืองให้ตามติดและได้เฮอีกรอบ

ตอนต่อไปผู้เขียนจะพยายามทำนายผลของพฤหัสบดีจร(5)เดินถอยหลังต่อทุกลัคนาราศีพอได้เป็นเค้าโครงกว้างๆ

ฟองสนาน จามรจันทร์

11 มิถุนายน 2564

               

             

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"