ผงาดขึ้นนั่งเลขาฯพรรค ลั่นเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง!


เพิ่มเพื่อน    

 พปชร. "ผ่าโครงสร้าง กก.บห.ใหม่ลงตัว "ประวิตร" นั่งหัวหน้าพรรคต่อ "สุริยะ-สันติ-วิรัช-ไพบูลย์" รั้งรองหัวหน้า "ธรรมนัส" ยึดเลขาฯ "สมศักดิ์" คั่ว ปธ.ยุทธศาสตร์ฯ ด้าน "จักรพันธ์-ประสิทธิ์" โผล่นั่ง กก.บห.แทน "ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์" เผย "บิ๊กป้อม" แจ้งแกนนำสามมิตรด้วยตัวเองว่าจำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ด้าน "ธรรมนัส” เลิกกั๊ก ประกาศพร้อมนั่งเลขาฯ พปชร.ยันไม่ต้องเคลียร์ใจ “เสี่ยแฮงค์" เพราะเป็นพี่น้องกัน อ้างปรับโครงสร้างใหม่เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง "อนุชา" ปัดไขก๊อก เสียงอ่อยยังไม่มีสัญญาณจาก "บิ๊กป้อม" 
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ โดยต้องจับตาไปที่วาระอื่นๆ ที่จะมีการเสนอปรับโครงสร้างกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค  โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่เตรียมผลักดัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แทนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    โดยในช่วงบ่าย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และรองหัวหน้าพรรค ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวกับทั้ง 2 คน ว่า พรรคจำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็ให้ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคในการประชุมพรรคใหญ่สามัญในวันที่ 18 มิ.ย. และอยากให้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดเพื่อทำให้เห็นว่าพรรคมีเอกภาพ
    ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญพรรค จะมี ส.ส.เกือบทั้งหมด ขาดเพียงไม่กี่คนจากที่แจ้งชื่อไว้เข้าร่วมการประชุม รวมถึง ส.ส.กลุ่มสามมิตร และ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่สมาชิกพรรคจะมาจาก จ.นครราชสีมา 120 คน และ จะ.ขอนแก่น 250 คน ส่วนการปรับโครงสร้าง กก.บห.ใหม่ พล.อ.ประวิตรจะลาออกจากหัวหน้าพรรค จากนั้นที่ประชุมจะเลือกตั้ง กก.บห.พรรคใหม่ โดยที่ประชุมกำหนดจำนวน กก.บห.พรรคก่อน จากนั้นเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก และนายทะเบียน โดยเลือกตั้งตามลำดับ 
    โดยเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคเวลานี้ไม่น่ามีอะไรพลิกโผแล้ว โดยจะเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากเดิมเป็นรองหัวหน้าพรรค ขยับไปเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แทนนายอนุชา นาคาศัย 
    ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ อย่างรองหัวหน้าพรรค ผอ.พรรค ซึ่งเป็นอำนาจหัวหน้าพรรคแต่งตั้ง คาด พล.อ.ประวิตรจะแต่งตั้งภายหลัง โดยรองหัวหน้าพรรคจาก 10 คน จะปรับลดลงเหลือ 4-5 คน ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.พรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ ในส่วนของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ยังอยู่ในกรรมการบริหารพรรค และจะได้รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมของ พล.อ.ประวิตร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างพรรคดังกล่าวเป็นที่ตกลงกันได้ของแกนนำพรรคทุกกลุ่ม นอกจากนั้นในส่วนของรายชื่อ กก.บห. ส่วนใหญ่สัดส่วนแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีนายจักรพันธ์ พรนิมิตร และนายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. เข้ามาแทนที่ใน กก.บห. แทนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ต้องคดีชุมนุมกลุ่ม กปปส.จนต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีและส่งผลกระทบกับตำแหน่งภายในพรรค
    ขณะที่นายอนุชา ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. ได้ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และยังไม่คิดลาออก และไม่ได้มีการนัดหมายที่จะแถลงข่าวใดๆ ที่สภาฯ รวมถึงไม่มีวาระการประชุมเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ส่วนจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวนี้ขึ้นมาพิจารณาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุม
    "ณ เวลานี้ ยังไม่มีการลาออก กระแสข่าวเรื่องการลาออกมีมาหลายวันแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติที่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค คงต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคที่จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้ ไม่มีใครชี้นำได้ โดยผมจะเดินทางไปประชุมพรรควันที่ 18 มิ.ย. วาระการประชุมไม่มีวาระการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรรมการบริหารพรรค ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรมาจากหัวหน้าพรรค แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ส่วนตัวยังเดินหน้าทำงานให้พรรคต่อไป เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งต่อไป" นายอนุชากล่าวย้ำ
    เมื่อถามว่า กระแสข่าวการลาออกเป็นการเขย่าหรือกดดันเพื่อบีบให้ลาออกหรือไม่ เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคยังมีบารมีที่จะเดินหน้าพรรคไปได้ด้วยดี ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งภายในพรรค 
    ที่ จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยว่า วาระสำคัญอย่างที่สื่อมวลชนทราบคือ การปิดงบดุลประจำปี แต่ยังมีวาระอื่นๆ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค จะเดินทางมาด้วยตนเอง คงจะมอบนโยบายตอนเช้าว่าจะให้ทำอะไรบ้าง 
    เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวว่าจะมีการเลือก ก.บห.พรรคชุดใหม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ค่อนข้างจะชัวร์ว่าจะมีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ ส่วนที่มีข่าวว่าจะถูกเสนอให้เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐนั้น อันนี้ไม่ทราบ ซึ่งต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค 
    เมื่อถามย้ำว่า หากสมาชิกพรรคเสนอชื่อขึ้นมา พร้อมที่จะรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคใช่หรือไม่ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อมีการเสนอชื่อมาแล้วสมาชิกพรรคเลือกหรือไม่ ถ้าพี่น้องสมาชิกพรรคพลังประชารัฐให้ความไว้วางใจ ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเป็นแกนนำพรรค อยากเห็นทิศทางและอนาคตพรรคอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอการเมืองมองว่า พปชร.เป็นพรรคเฉพาะกิจ อยากจะกราบเรียนว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตนพยายามจะแสดงให้เห็นว่าพรรคโดยการนำของ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจ เราเตรียมที่จะปรับแผนสู้ศึกการเลือกตั้งในครั้งหน้า ตอนนี้เราวางแผนหลายๆ อย่าง ดังนั้นการประชุมในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เป็นการกำหนดทิศทาง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า พปชร.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจอีกต่อไป เราจะเป็นสถาบันการเมืองที่มีความมั่นคง 
    ส่วนที่มองกันว่าการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้เป็นเพราะเกิดความขัดแย้งภายในสูงนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตรเข้าสู่เวทีการเมือง มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นหัวหน้ามาปีกว่า ท่านเห็นอะไรเยอะ เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก และดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มา พล.อ.ประวิตรมองออกว่าจะต้องทำอะไรให้กับพรรคเพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต
    เมื่อถามว่า หลังปรับโครงสร้าง กก.บห.พรรคควรจะสลายกลุ่มต่างๆ ในพรรคอย่างไรหรือไม่ รองหัวหน้า พปชร. กล่าวว่า คิดว่าหลังจากวันที่ 18 มิ.ย. น่าจะไม่มีกลุ่มก๊วนอะไร เราคือพลังประชารัฐ คือครอบครัวพลังประชารัฐ 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสมาชิกพรรคเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรค จะต้องเคลียร์ใจกับนายอนุชาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมกับพี่แฮงค์มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว ผมไม่เคยมีปัญหากับพี่แฮงค์และไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่สื่อออกมาเหมือนกับเรามีปัญหากันจริงๆ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วไม่มี เราพี่น้องกัน"
    เมื่อถามว่า หลังจากการประชุมมีการมองกันว่า พปชร.จะเริ่มนับหนึ่ง เพื่อขยายฐานเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทุกพรรคมองเหมือนกันหมด ซึ่งอยู่ที่ยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรค
    ด้าน นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์ พปชร. เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น ว่า พร้อม 100% รวมถึงมาตรการป้องกันโควิด แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ โดยระบุว่าขอให้เป็นมติในที่ประชุม ซึ่งสมาชิกพรรคนั้นพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
    ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) แถลงภายหลังการประชุม กมธ.ว่า กรณีการตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส ได้เชิญ นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ได้มอบหมายให้รองเลขาฯ มาให้ข้อมูล โดยนายวิชาได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องมีจริยธรรมควรเป็นบุคคลที่โปร่งใส ซึ่งในต่างประเทศผู้ดำรงตำแหน่งจะละอายแก่ใจ รู้ผิดถูกเอง ส่วนของประเทศไทยทำไมต้องตรวจสอบ ทั้งนี้ ขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีหากทราบว่าไม่โปร่งใสควรปลดออกจากตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการใดมาตรวจสอบ. 
    


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"