ทนายสงกานต์ ร้องโอนคดีกิ๊ฟ ให้กองปราบฯ


เพิ่มเพื่อน    

    ทนายสงกานต์พาพี่ชายน้องกิ๊ฟที่ถูกรุมโทรมจนเสียชีวิตเข้าร้อง "เฉลิมเกียรติ" ขอโอนคดีให้กองปราบฯ ลุยต่อ ชี้มีประเด็นข้อสงสัยเพียบเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจท้องที่
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 4 มิถุนายนนี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ หอยสังข์ พี่ชายของ น.ส.อุมาพร หรือน้องกิ๊ฟ เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางออนไลน์ ที่ถูก 4 ทรชนรุมโทรมที่ล้งผลไม้ใน จ.จันทบุรีจนเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เพื่อสอบถามความคืบหน้าทางคดี โดยมี พ.ต.อ.นิติพัฒน์ กิตติรักษกุล รอง ผบก.ทว. นายตำรวจเวร อำนวยการรับหนังสือแทน 
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ที่ผ่านมามั่นใจว่าตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การมาร้องเรียนครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ และไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าตำรวจต้องทำทุกอย่างในการคลี่คลายคดี นำตัวผู้ที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมาลงโทษ ส่วนผู้ต้องหาจะมีมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ไม่สามารถระบุได้ และจะมีการวางแผนร่วมกันฆ่าหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐาน แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามีคนร้ายมากกว่าที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และต้องการให้ตำรวจจับกุมได้โดยเร็ว
    ขณะที่นายสงกรานต์ระบุว่า ญาติผู้ตายยังติดใจสงสัยอีกหลายประเด็น ได้แก่ 1.ชุดน้องกิ๊ฟที่สวมใส่ในวันเที่ยวผับอยู่ไหน แล้วชุดที่พบขณะตาย ผู้ใดเอามาเปลี่ยนให้ 2.ผู้ต้องสงสัยหญิงทั้ง 3 คนมีพิรุธและข้อสงสัยหลายอย่าง 3.เช็กสัญญาณมือถือของผู้ต้องหาทั้งสี่ติดต่อกับผู้ใดบ้างก่อนกิ๊ฟตายและหลังตาย รวมทั้งกับผู้ต้องสงสัยหญิงทั้งสาม 4.จากโพสต์ของผู้ชายวัยรุ่นในทำนองนำผู้ตายไปขาย และคอมเมนต์ถามกิ๊ฟว่า "ถอนหุ้นเสวนาหรือ" คำว่า "เสวนา" คือหุ้นอะไร??? และ กิ๊ฟ อุมาพร เข้ามาคอมเมนต์ถึงเรื่องหุ้นว่า "โดนถอนหุ้นนนน 5555" คืออะไร???
    5.กิ๊ฟมีลูก 2 คนกับสามีเก่า และมีแฟนใหม่ปัจจุบัน ตำรวจไม่เคยเรียกไปสอบเชิงลึกแต่อย่างใด หรือขอเบาะแส 6.กิ๊ฟถูกหิ้วออกจากผับแบบร่างไร้สติ เดินผ่านตำรวจในขณะนั้นจำนวน 2 นาย ยศ ร.ต.ท. และ ส.ต.ท. ทำไมไม่สอบถามคนอุ้มร่างกิ๊ฟที่ไร้สติขณะนั้น และเวลาหิ้วออกจากผับตี 2 กว่าๆ 7.ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปรับศพกิ๊ฟผ่าชันสูตรพลิกศพคู่ขนานไปกับ รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี อีกครั้ง 8.ขอรายการเดินบัญชีของผู้ตายทุกวันจนถึงก่อนตาย เพราะญาติไม่เชื่อว่าจะมียอดรวมบัญชีเงินฝากเป็นล้านๆ เพราะเงินเดือนขายเครื่องสำอางแค่หมื่นกว่าบาท จะอัพเดตอย่างไรก็ไม่มีทางยอดรวมเป็นล้านบาทได้ 9.ผู้ต้องหามีการคัดค้านประกันตัวหรือไม่
    10.รถยนต์คันก่อเหตุติดป้ายแดง ทั้งที่รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถออกใหม่ แสดงถึงความผิดปกติ หมายถึงเตรียมการออกมาก่อเหตุครั้งนี้ 11.ตำรวจยังไม่ได้เรียกชายวัยรุ่นในภาพที่โฆษณาขายกิ๊ฟ รวมทั้งผู้คอมเมนต์ทั้งหมดก่อนกิ๊ฟตาย 12.ผลการผ่าชันสูตรพลิกศพยังไม่มีการแถลง 13.ผลการตรวจ DNA ตามตัวของผู้ตายและสถานที่เกิดเหตุต่างๆ ยังไม่มีการแถลงว่ามีของผู้ต้องหาคนใดบ้าง 14.โทรศัพท์มือถือของผู้ตายนี้ที่ ตร.ยึดไปมีการนำไปถอดและหาหลักฐานประกอบสำนวนคดีหรือยัง ทำไมไม่มีการแถลงผล และ 15.ขอให้ทาง สตช.ยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัยหญิงทั้งสาม และผู้ต้องหาชายทั้งสี่มาดำเนินการค้นหาข้อมูลประกอบคดี เชื่อว่าเป็นประโยชน์ในทางคดีแน่นอน และขอให้กู้ข้อมูลที่มีการลบออก 16.ขอให้โอนคดีมากองปราบปรามเพื่อสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกเพิ่มเติมและขยายผล หรือส่งกองปราบปรามเข้าไปสนับสนุนสอบสวนในเชิงลึกฝ่ายเดียวเป็นคู่ขนานกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับท้องที่แต่อย่างใด 
    ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.มะขาม จ.จันทบุรี ได้ทำเรื่องขออนุมัติศาลจังหวัดจันทบุรีเพื่อออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาเพิ่ม แต่ทางศาลจังหวัดจันทบุรีได้ตีสำนวนกลับ เนื่องจากหลักฐานในการเอาผิด 2 ผู้ต้องหายังอ่อน
    ในช่วงบ่าย ที่รัฐสภา นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม พร้อมด้วยญาติของ น.ส.อุมาพร หรือน้องกิ๊ฟ ได้เข้าพบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อยื่นเรื่องในข้อสงสัยต่างๆ พร้อมขอให้มีการชันสูตรพลิกศพใหม่อีกครั้ง
    พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวภายหลังจากพูดคุยกับนายสงกรานต์และญาติของผู้เสียชีวิตว่า จากข้อมูลเบื้องต้น การเสียชีวิตของน้องกิ๊ฟเป็นการเสียชีวิตที่น่าจะได้ข้อมูลไม่ยาก เนื่องจากศพอยู่ในสภาพที่ดี มีความผิดปกติบนศพให้เห็นตั้งแต่ตอนพบศพ ณ จุดเกิดเหตุ อีกทั้งศพถูกส่งผ่าพิสูจน์โดยแพทย์นิติเวช จึงได้แต่แนะนำให้รอผลการพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร โดยในระหว่างนี้ ตนขอแนะนำให้เก็บศพไว้ในห้องเย็น พร้อมติดต่อพูดคุยกับแพทย์ที่ทำการผ่าศพ เนื่องจากญาติมีสิทธิ์ตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักสากลที่จะรับทราบข้อมูลโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมากรณีดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องปฏิรูป เพราะกรณีการตายเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจจะต้องให้แพทย์นิติเวชมาบูรณาการทำงานร่วมกับตำรวจไปพร้อมกันๆ ณ จุดเกิดเหตุ
    พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปนิติวิทยาศาสตร์นั้นมีการเสนอออกกฎหมายใหม่ โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ต้องใช้ผู้มีความรู้ด้านนิติเวชเท่านั้น รวมถึงจะต้องเก็บหลักฐานส่งตรวจเองทุกขั้นตอนก่อนนำไปประมวลผล ซึ่งต่างจากปัจจุบันคือ รวบรวมหลักฐานแล้วส่งให้พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนก็เลือกบางส่วนส่งให้นิติเวชตรวจ เพราะไม่มีความเข้าใจในกระบวนการตรวจสอบของนิติเวช.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"