เปิดกระทู้ถาม 097 'ส.ส.ก้าวไกล' ซักเดือด 'ขุนคลัง' เคลียร์ปมใช้งบกลาง-ยอดเงินเยียวยา


เพิ่มเพื่อน    

22 มิ.ย. 64 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กระทู้ถามที่ 097 ร. สภาผู้แทนราษฎร 18 พฤษภาคม 2563 เรื่อง "การแก้ไขใช้งบกลาง และยอดเงินเยียวยา ในปีงบประมาณ 2563" ของ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส. พรรคก้าวไกล  ถามไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

พล.ต.ต.สุพิศาล ตั้งคำถามว่า สืบเนื่องมาจาก นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้เปิดเผยไว้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 31 มีนาคม 2563 เกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์งบประมาณ ปี 2563 ว่างบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2563 ขณะนี้มีรายจ่ายที่ผูกพันไว้ใกล้ครบ 96,000 ล้านบาทแล้ว ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 - 25 มีนาคม 2563) รัฐบาลได้มีการอนุมัติเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 11 ครั้ง รวมวงเงินประมาณ 96,835 ล้านบาท เรียกว่าเต็มพิกัดแล้ว หากรัฐบาลไม่ตัดสินใจอาจไม่มีงบใช้จ่ายในมาตรการใหม่เพื่อแก้ภัยแล้งและวิกฤตโรคโควิด 19 จึงขอเรียนถามว่า 

1. การอนุมัติเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 11 ครั้ง จ่ายให้กับหน่วยรับงบประมาณใด เมื่อใด ผลสัมฤทธิ์คือประการใด และกระทรวงการคลังจะแก้ไขปัญหางบกลางอย่างไร และขอให้ชี้แจงว่าเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของงบกลางทั้งหมดในครั้งนี้ได้ถูกนำไปใช้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้วหรือไม่ ภายใต้แผนงาน กิจกรรมโครงการใดและของหน่วยรับงบประมาณใด ขอทราบรายละเอียด 

2. จากมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้มีคำสั่งให้ส่วนราชการบริหารงบประมาณกรณีที่ไม่ได้ใช้จ่ายและให้ตัดออกเพราะได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 เช่น งดเดินทางประชุมในต่างประเทศ ดูงาน สัมมนา การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยขอตัดงบ 10% และโอนย้ายงบประมาณมาที่งบกลาง การแก้ไขด้วยวิธีตัดโอนงบประมาณนี้มีผลสัมฤทธิ์อย่างไร มีหน่วยรับงบประมาณใดบ้างที่ส่งรายงานระบุว่าได้ตัดงบบริหารได้และไม่ได้ตัดงบ มีเหตุผลใดและเกิดปัญหาใดๆ ในการดำเนินงานหรือไม่ กระทรวงการคลังจะมีการบูรณาการระหว่างปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเพียงพอในการควบคุมสถานการณ์ รวมถึงเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้รอดพ้นช่วงวิกฤติในครั้งนี้และที่อาจตามมาในอนาคตอย่างไร โดยขอให้จัดทำรายละเอียดในการเยียวยากลุ่มต่างๆ ให้ปรากฏเป็นยอดเงินที่แต่ละกลุ่มได้รับและภาพรวมทั้งสิ้นเท่าใด ขอทราบรายละเอียด ขอให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา

ด้าน นายอาคม ตอบกระทู้ถาม ของพล.ต.ต.สุพิศาล  ดังนี้

คำตอบข้อ 1 และข้อ 2 กระทรวงการคลัง ขอเรียนว่า ผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินส ารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น พ.ศ. 2562 หมวด 1 การขอรับจัดสรร งบกลาง ข้อ 5 การขอจัดสรรงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น บัญญัติไว้ว่าให้กระทำได้ในกรณีที่เป็นรายจ่าย เพื่อป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ เพื่อการเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง เป็นรายจ่ายที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว แต่มีจำนวนไม่เพียงพอและมีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐต้องใช้จ่ายหรือ ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว และเป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณแต่มีภารกิจจำเป็นเร่งด่วน ที่จะต้องดำเนินการและต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว

งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจ าเป็น ตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ จำนวน 96,000.00 ล้านบาท รับโอนจากพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 88,452.60 ล้านบาท รวมงบประมาณรายจ่ายประจำปีทั้งสิ้น จำนวน 184,452.60 ล้านบาท ผลการปฏิบัติงาน ดังนี้

1. ป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งสนับสนุนภารกิจส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

2. การเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง ประกอบด้วย

การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่ 76 จังหวัด มุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนและพัฒนาพื้นที่กักเก็บน้ำให้สามารถรองรับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกร ผู้ประสบภัยจากภาวะฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย รวมทั้งการช่วยเหลือปัจจัยการผลิต ทั้งทางด้านการเกษตร ด้านปศุสัตว์ และด้านการประมง การฟื้นฟูโครงการสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

การบรรเทาและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID- 19)เพื่อป้องกัน บรรเทาปัญหา และเยียวยาสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ที่แพร่ระบาดทั่วโลกตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2563 เป็นการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้าง ของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3 ล้านคน รายละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็น ระยะเวลา 3 เดือน และการเตรียมความพร้อมเสริมความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขและระบบคัดกรอง การส่งเสริมการป้องกันให้กับประชาชนทั่วไป การจัดตั้งสถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนในช่วงวิกฤต และโครงการจ้างงานของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนที่ตกงานได้มีงานทำในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมในการถ่ายทอดเทคโนโลยีวัคซีน และการเตรียมความพร้อมในการรองรับการระบาดในระยะที่ 2

3. ภารกิจจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการและต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว ประกอบด้วย

ค่าใช้จ่ายทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่มีความเร่งด่วนจำเป็นต่างๆ เช่น มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจทางด้านการท่องเที่ยว และทางด้านอสังหาริมทรัพย์ การให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสร้างความเข้มแข็ง และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกร และลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว แก้ไขปัญหาการระบาดทางด้านการเกษตรและปศุสัตว์ แก้ไขปัญหา การทำการประมงผิดกฎหมาย การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจ าเป็นเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งมาตรการต่างๆ ดังกล่าว ส่งผลให้มีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและช่วยพยุงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของประชาชนได้รับการแก้ไขและ/หรือบรรเทาความรุนแรงลง

ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการภาครัฐ โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายที่ภาครัฐจำเป็นต้องจ่าย และค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ สำหรับรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ภาครัฐสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ตรงกับความต้องการของพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างทันท่วงที.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"