คลังจี้แบงก์รัฐ เยียวยาลูกหนี้ หั่นดอกเบี้ย0%


เพิ่มเพื่อน    

 “คลัง” จี้แบงก์รัฐเร่งผุดแพ็กเกจช่วยลูกหนี้อ่วมโควิด ลดดอกเบี้ยเหลือ 0% คาดได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์ จ่อถก ธปท.หั่นดอกแบงก์พาณิชย์สนองนโยบาย "บิ๊กตู่" ออมสินคลอดมาตรการพักต้นพักดอกอุ้มธุรกิจท่องเที่ยว
    เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่งเข้าหารือเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.เป็นการเร่งด่วน เพื่อสั่งการให้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในปี 2564 และให้เสนอแผนกลับมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์
    ทั้งนี้ เบื้องต้นทุกธนาคารเห็นตรงกันว่าจะมีการพักชำระหนี้ให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไปจนสิ้นปี 2564 จากปัจจุบันที่แต่ละธนาคารช่วงเวลาพักหนี้ไม่เท่ากันและมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยจะทำเป็นแพ็กเกจเดียว รวมทั้งยังมีธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งได้เสนอแผนช่วยเหลือลูกหนี้เป็นกรณีพิเศษ จากเดิมที่พักเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยตามปกติ หรือบางส่วน มาเป็นการพักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยเหลือ 0% หรือคิดแค่ 0.01% ต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ มาตรการแต่ละธนาคารสามารถดำเนินการได้เลย ไม่ต้องรอมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะไม่ได้ขอรับการชดเชย ธนาคารยอมสูญเสียรายได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ยืนยันว่าไม่กระทบกับฐานะของธนาคาร เนื่องจากมีการตั้งสำรองในระดับสูง มีการบริหารความเสี่ยง มีฐานะแข็งแกร่ง
    สำหรับการลดเพดานดอกเบี้ยตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมนั้น  แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กระทรวงการคลังดำเนินการผ่านพิโกไฟแนนซ์และนาโนไฟแนนซ์ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำพอสมควร ขณะที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐมีดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว อีกส่วนคือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคลังจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และทำได้มากน้อยแค่ไหน ในกลุ่มลูกค้าใดบ้าง
    ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน  เปิดเผยว่า ออมสินได้ออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือนแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ขณะนี้ประสบภาวะยากลำบาก ซึ่งมาตรการนี้ทำให้เงินงวดเป็นศูนย์ มีผลตั้งแต่งวดเดือน ก.ค.-ธ.ค.64 โดยให้สิทธิ์แก่ผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ หมดเขตแจ้งความประสงค์วันที่ 23 ก.ค.64
    วันเดียวกัน นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อการศึกษา โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เตรียมเงินไว้  3.8 หมื่นล้านบาท รองรับผู้กู้ในปีการศึกษา 2564 จำนวน  6.24 แสนคน และได้ยกเลิกข้อกำหนดที่ต้องมีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุนในสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 โดยได้ปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 3 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ กยศ. ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ได้แก่  กลุ่มที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี คือ 1.ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01%  ต่อปี 2.ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ปิดบัญชี  3.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมด 4.ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัดและชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว 5.ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% กรณีไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ซึ่งมาตรการดังกล่าวข้างต้นจะมีผลถึง 31 ธ.ค.64.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"