ลอบขายฟิลเลอร์เถื่อน


เพิ่มเพื่อน    

ปคบ.-อย.ทลายเครือข่ายผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เถื่อน มูลค่ากว่า 3 ล้านที่ขอนแก่น ก่อนส่งขายสถานเสริมความงาม-หมอกระเป๋า ฉีดให้สาวไทย เตือนผู้บริโภคเข้าคลินิกเก๊ทำศัลยกรรมเสียโฉมหรือตายได้ วอน ปชช.แจ้งเบาะแสกวาดล้าง วันที่ 24 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องจากการปฏิบัติงานในช่วงเดือนเมษายน  2564 บก.ปคบ. ร่วมกับ อย.ตรวจค้นสถานเสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) และจับกุมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (หมอกระเป๋า) พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก ตรวจสอบพบมีการใช้กรดไฮยาลูรอนิค ชนิดฉีด เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผิวหนัง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม (ฟิลเลอร์) ที่ไม่ได้รับอนุญาต ฉีดให้กับผู้ใช้บริการ  ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกาย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ ประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสืบสวนขยายผลหาแหล่งนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า เครือข่ายที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้กับสถานเสริมความงามและหมอกระเป๋าดังกล่าวอยู่ที่ จ.ขอนแก่น 
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโส คอลลาเจน กลูต้า ยาชาครีม วิตามินบี วิตามินซี จำนวนหลายรายการ มูลค่ากว่า 3,000,000 บาท จากอาคารพาณิชย์ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าของอาคารพาณิชย์ให้การรับว่า เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายให้กับสถานเสริมความงาม และหมอกระเป๋าจริง  เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดผลิตภัณฑ์ทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น จากการสอบสวนพบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และฐาน “ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า ประชาชนควรใช้บริการกับสถานเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ ควรตรวจสอบใบอนุญาตและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาที่จะใช้ว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง และแจ้งเตือนผู้ที่กำลังกระทำความผิด ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด พบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค    ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าสาวไทยส่วนใหญ่รักสวยรักงาม และชอบที่จะเข้ารับบริการเสริมความงาม ทำให้มีการโฆษณาขายยาฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ คอลลาเจน กลูตาไธโอน และเครื่องสำอาง ตามคลินิกเถื่อนอย่างแพร่หลายผ่านทางเว็บไซต์ ขอเตือนผู้ที่ต้องการรับบริการให้ระวัง และควรเข้ารับบริการฉีดกับสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลตามกฎหมาย เลือกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ตลอดเวลาทำการ ก่อนการฉีดควรสอบถามและขอดูตัวยาที่ใช้ว่ามีการอนุญาตขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจาก อย.หรือไม่ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเสียโฉมหรือเสียชีวิตที่เป็นข่าวมานับไม่ถ้วน 
“การศัลยกรรมหรือการฉีดบนใบหน้าต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี  เนื่องจากบนใบหน้ามีกล้ามเนื้อเล็กๆ และเส้นเลือดมากมาย ต้องฉีดด้วยความระมัดระวัง หากเกิดอันตรายจากการแพ้ ทางสถานพยาบาลจะได้รับผิดชอบและช่วยเหลือได้ทันท่วงที หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556“ รองเลขาธิการ อย.กล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"