ไล่ออกมือมีดม.3 แทงเพื่อนร่วมชั้น


เพิ่มเพื่อน    

จ่อไล่ออกเด็ก ม.3 แทงเพื่อนร่วมชั้นเจ็บหนักคา รร.เอกชนดังพิษณุโลก ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่วางมาตรการล้อมคอกหวั่นซ้ำรอย  ตำรวจดำเนินคดีอาญามือมืดทำร้ายร่างกาย พร้อมตั้งทีมสหวิชาชีพสอบ นร.ผู้ก่อเหตุวิเคราะห์อาการป่วยทางจิตประกอบสำนวน  
          ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเด็กนักเรียน ม.3 โรงเรียนเอกชนชื่อดังกลางเมืองพิษณุโลก ใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนร่วมชั้นเรียนวัย 15 ปี อาการสาหัสปางตายคาโรงเรียนเมื่อ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา สร้างความสงสัยว่า อะไรเป็นมูลเหตุจูงใจ โดยเฉพาะผู้ปกครองของผู้ได้รับบาดเจ็บ
          วันที่ 24 มิ.ย. โรงเรียนดังกล่าวยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ประตูโรงเรียนเปิดแง้มไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยทำบันทึกการเข้า-ออก ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ รปภ.บอกเพียงว่า เด็กทั้ง 2 คน เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้จริง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 และเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่ทราบถึงสาเหตุหรือแรงจูงใจในการก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว ทราบเพียงว่าคณะครู-อาจารย์ ยังคงมีการประชุมหารือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นกันอยู่
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อาการดีขึ้น บาดแผลที่ทำการผ่าตัดเริ่มสมาน เลือดออกน้อยลง โดยทีมแพทย์เริ่มฝึกกายภาพให้ลุกนั่งบ้างแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด
          แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้ทำการลงโทษเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุด้วยวิธีการไล่ออกแล้ว เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ต้องรอทางโรงเรียนออกแถลงการณ์ยืนยันอีกครั้ง และคาดว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกจะเดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวในวันที่  25 มิ.ย. เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
         ด้าน  พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบสวนพยาน ที่เห็นเหตุการณ์ พยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เก็บรวบรวมหลักฐานไปประกอบสำนวนคดี พร้อมทั้งรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น จนให้การได้ จนท.จะเข้าไปทำการสอบปากคำอีกครั้ง เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหานักเรียนผู้ก่อเหตุ ในข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ล่าสุดได้เชิญผู้ปกครองและนักเรียนผู้ก่อเหตุไปทำการสอบร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อวิเคราะห์ว่ามีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ เพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป
     วันเดียวกัน ร.ต.อ.วิชัย พรมรักษา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้เรียกนางอรสา สิงห์วี ผู้ปกครองของฝ่ายผู้ได้รับบาดเจ็บมาทำการสอบสวน เพื่อรวบรวบพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี
    พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกมาตรการป้องปราบ โดยจะจัดชุดสายตรวจไปตามสถานศึกษาต่างๆ เพื่อตรวจตราสังเกต และขอความร่วมมือกับทางสถานศึกษาทุกแห่งให้ช่วยคอยสังเกตตรวจตรา สอดส่อง พฤติกรรมเด็กในแต่ละกลุ่ม ว่าจะมีพฤติกรรมส่อในทางการทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันหรือไม่ หากพบว่ามีการรวมกลุ่ม หรือส่อไปในทางที่อาจจะเกิดเหตุอันตรายแก่เด็ก ก็ให้รีบแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะจัดชุดสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ เพื่อเป็นการยับยั้งการเกิดเหตุอันตรายได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"