สว.ตีตกร่างพปชร. รุมยี้แก้ม.144/185หนุนใช้บัตร2ใบ-เพื่อไทยรับทั้งหมด


เพิ่มเพื่อน    

อภิปราย 13 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวันสุดท้าย ส.ว.ยังพาเหรดถล่มร่างพลังประชารัฐแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 ยี้หากเห็นชอบป่าช้าแตกแน่ วิปวุฒิสภามีมติตีตกฉบับที่ 1 ของ พปชร. แต่หนุนเรื่องใช้บัตร 2 ใบ วิปรัฐบาลเอาใจทุกพรรคร่วมมีมติเทคะแนนให้ฉบับที่ส่งเข้าประกวด ส่วนฝ่ายค้านหนุนทั้ง 13 ร่าง 
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน รัฐสภาได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช...จำนวน 13 ฉบับต่อเนื่องเป็นวันที่สอง 
    เวลา 10.05 น. ได้เริ่มประชุม โดยนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า วันนี้ ส.ส.ได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ แต่สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือประชาชนได้อะไรจากการแก้ไข ซึ่งพรรคขอแก้ไขมาตรา 55/1 กำหนดให้รัฐต้องจัดให้ประชาชนได้รับรายได้พื้นฐานอันจำเป็นต่อการดำรงชีพทั่วถึง เราเรียกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับกินได้ เราไม่ได้แก้เพื่อตัวเอง แต่เราแก้เพื่อคนจนเพื่อคนหาเช้ากินค่ำ เป็นรัฐธรรมนูญยาใจคนจน ขอให้เพื่อนสมาชิกรัฐสภาสนับสนุนร่างแก้ไขฉบับนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนจน
    ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายตอนหนึ่งว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราต่างๆ ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอ ไม่ได้แก้ปัญหาทางโครงสร้างการเมืองที่บิดเบี้ยว เอาข้อดีบางข้อมาอ้าง แต่กลับยิ่งส่งเสริมผลประโยชน์ของรัฐบาลในระบอบประยุทธ์ การเสนอในมาตรา 144 และมาตรา 185 และไม่ปิดสวิตช์ ส.ว.สภาแห่งนี้ และประชาชนเลยดูออกไม่ยากว่าหวังกินทั้งงบประมาณ กินทั้งอำนาจในพื้นที่ กินอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี กินรวบเบ็ดเสร็จและมูมมาม
    “ขอให้ยอมรับกันตรงไปตรงมาว่าการเสนอแก้กติกาเรื่องการเลือกตั้งโดยไม่ปิดสวิตช์ ส.ว.เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น และที่น่าสลดก็คือ เมื่อจะคุยเรื่องกติกาการแข่งขัน ผู้เล่นที่มีส่วนได้เสียมาเถียงกันเรื่องระบบเลือกตั้งกันเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ประชาชนจะตำหนิสภาว่าเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองกันอยู่” นายปดิพัทธ์กล่าว
     นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า พรรคขอเสนอให้ประชาชนพิจารณาระบบการเลือกตั้งแบบ MMP ที่ไม่ใช่ระบบกลายพันธุ์แบบนายมีชัยเป็นทางออก ซึ่งระบบ MMP มีการใช้ในหลายประเทศ รวมถึงเป็นข้อเสนอในการร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สะท้อนเสียงของประชาชนได้มากที่สุด หรือต่อให้ไม่ใช่ในอุดมคติก็มีความพยายามใกล้เคียงมากที่สุด และอยู่ในหลักของระบบการเลือกตั้งที่ดี สนับสนุนให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมของพรรคการเมืองทุกพรรค สร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันทางการเมืองในระยะยาว ปิดจุดอ่อนได้ และตอบโจทย์การเมืองไทยในปัจจุบันและอนาคต และขอเรียกร้องรัฐสภาให้ปฏิเสธร่างของพลังประชารัฐ ที่ส่อเจตนาที่เจตนาร้ายในการกินรวบสภานี้ออกไป 
“เมื่อพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติได้ผ่านการพิจารณาแล้ว ก็ควรเดินหน้าผลักดันคืนอำนาจให้กับประชาชน และปล่อยให้ ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชนเป็นผู้ออกแบบระบบการเลือกตั้ง เพราะมีแต่การหารือ ถกเถียงของประชาชนเท่านั้นที่จะทำให้กติกาการเลือกตั้งซึ่งเป็นของประชาชนสามารถพูดได้ว่า ออกแบบมาเพื่อพวกเรา ที่พวกเราไม่ใช่คนที่นั่งอยู่ในห้องนี้เป็นคนพูด ถ้าให้ประชาชนมาร่างรัฐธรรมนูญ มั่นใจเต็มร้อยว่าเราจะมีรัฐธรรมนูญ และระบบเลือกตั้งที่ดีขึ้นกว่า 40 แน่นอน” นายปดิพัทธ์กล่าว
รุมยี้แก้มาตรา 144 และ 185
    นายถวิล เปลี่ยนศรี ส.ว. อภิปรายว่าได้พิจารณาแล้วว่าร่างทั้ง 13 ฉบับถือว่าเป็นจำนวนมาก ต้องพิจารณาหัวใจของรัฐธรรมนูญและสาระสำคัญที่ไม่ควรแก้ไขผิดเพี้ยน ซึ่งการเสนอแก้ไขมาตรา 144 ถือเป็นการทำลายหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญที่มุ่งปราบโกงและปราบการทุจริตคอร์รัปชัน ปล่อยออกไปก็เหมือนแก้มัดตราสัง ป่าช้าแตกแน่นอน ส.ว.รับไม่ได้และรับไม่ไหว และมาตรา 185 ที่แก้ไขยอมให้ ส.ส., ส.ว. หรือรัฐมนตรีใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปแทรกแซงข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น เห็นแล้วแสลงใจมาก เพราะเจอจริงและเจ็บจริงมาด้วยตัวเอง คงยอมให้ร่างที่มีเนื้อหาแบบนี้ผ่านไปไม่ได้
    “ผมประสบมาด้วยตนเองที่มีการโอนย้ายอย่างไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน แต่เพื่อความสะใจ เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์พรรค ประโยชน์พวกและญาติพี่น้อง จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ผมจึงรับไม่ได้ในชั้นนี้จริงๆ ส่วนเรื่องการปิดสวิตช์ ส.ว.ต้องพูดให้ชัด อย่ามาพูดเอามัน แม้ ส.ว.จะอายุมาก ไฟน้อย แต่จะให้ใครมาปิดสวิตช์ง่ายๆ โดยไม่มีเหตุผลจนถึงขั้นข่มขู่คุกคามหรือเหยียดหยามนั้นยอมไม่ได้ แต่ถ้ามีเหตุผลมาพูดกัน ผมกระซิบเบาๆ ว่าเราปิดสวิตช์เราเองได้” นายถวิลกล่าว
    นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ส.ว.อภิปรายว่า ในฐานะที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และได้ร่วมประชุมกับนานาประเทศเกี่ยวกับการปราบปรามคอร์รัปชันมาต่อเนื่องนั้น การเสนอขอแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาบางส่วนก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตน พวกพ้อง และพรรคการเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 มาตราจึงขัดต่อบทบัญญัติในอนุสัญญาสหประชาชาติ ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศด้านการต่อต้านคอร์รัปชันด้อยลง ขาดความเชื่อถือศรัทธาในการดำเนินงานการค้าระหว่างประเทศ จึงไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 144 และ 185
    ต่อมาเวลา 13.35 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. อภิปรายว่า การประชุมตลอด 2 วันที่ผ่านมา เราเถียงกันผิดโจทย์ เพราะประเด็นสำคัญที่เราควรนำมาเป็นโจทย์ในวันนี้ คืออำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของใคร ไม่ใช่ประเด็นอื่น พรรคจึงเสนอให้รัฐสภาเร่งเดินหน้าจัดทำประชามติ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เป็นก้าวแรกในการหยุดวงจรอุบาทว์ การลงมติเฉพาะหน้าวันนี้ พรรคก้าวไกลขอเชิญชวนสมาชิกรัฐสภาช่วยกันโหวตเพื่อหยุดแผนการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุระบอบประยุทธ์ และร่วมมือร่วมใจกันโหวตเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เปิดประตูบานแรกในการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชนจริงๆ ให้ได้ 
    ในเวลา 16.00 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายสรุปว่า สมาชิกรัฐสภาอภิปรายพร้อมตั้งคำถามแก้รัฐธรรมนูญทำไม ต้องถามย้อนกลับไปว่าแล้ว ฉีกรัฐธรรมนูญทำไม เมื่อจะมีการแก้ไข ภาวนาอย่าให้เกิดการฉีกรัฐธรรมนูญอีก เชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด คือรัฐธรรมนูญที่ประชาชนยอมรับ จึงต้องให้ประชาชนเขียน ผ่านการยกร่างของ ส.ส.ร. สิ่งที่ดีที่สุดคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่เมื่อถูกตีตกไปจึงได้ยื่นแก้ไขเป็นรายมาตรา เพื่อเป็นการเตรียมการสำรองเอาไว้ โดยสิ่งที่เสนอแก้มีทั้งระบบเลือกตั้ง และอำนาจ ส.ว. 
    นายสุทินกล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ร่าง พวกเราจะรับหรือไม่รับนั้น โดยเฉพาะในร่างของพรรค พปชร.ที่เสนอแก้ไขมาตรา 144 และ 185 ทั้งที่รัฐธรรมนูญนี้อ้างว่าจะปราบโกง แล้วไปแตะต้องมาตราดังกล่าวทำไม เรายังเห็นว่าควรที่จะถอนออก ร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอมาทั้ง 13 ร่างจะล้มเหลว จะตกหรือไม่ ถ้าตกวันนี้ เวลาคงไม่พอ ไม่มีเวลาจะแก้ไขให้เราไปคิดแก้อีกแล้ว ตกวันนี้จะไปอ้างสาระอะไรมาเขียนอีก ไม่มีอีกแล้ว ขณะเดียวกันไม่มีเวลามาสับขาหลอก อย่างน้อยที่สุดที่คิด 13 ร่าง น่าจะมีผ่านซักร่าง แต่เมื่อฟัง ส.ว.อภิปราย พูดไปความหวังชักจะริบหรี่ อยากฝากให้ทุกท่านคิด รัฐธรรมนูญอยู่ในความสนใจของประชาชน บ้านเมืองจะเดินหน้าได้หรือไม่ ขอว่าอย่าไปดับความหวังประชาชน ขอให้บ้านเมืองเดินไปได้ ส.ว.แม้จะพูดกระทบกระทั่งไปบ้าง แต่การแก้ไขมาตรา 272 เหมือนยกภูเขาออกจากอกท่าน ยกนรกออกจากในใจ แรงกดดันก็จะไปอยู่ที่อื่น ถ้าไม่เห็นแก่พวกตนเอง ส่วนของชาวบ้านก็ให้เขาเถอะ 
วุฒิสภาตีตกร่าง พปชร.
     เวลา 16.45 น. หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาอภิปรายจนครบถ้วนทุกคน และตัวแทนของผู้เสนอญัตติทั้ง 13 ร่างได้กล่าวอภิปรายสรุป นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้ชี้แจงขั้นตอนการลงมติรับหลักการวาระ 1 โดยใช้การขานชื่อสมาชิกทีละคนตามลำดับตัวอักษร พร้อมให้กล่าวแสดงการลงมติในแต่ละร่างว่าจะรับหลักการ ไม่รับหลักการ หรืองดออกเสียง เรียงตามลำดับต่อเนื่องกันไปจนครบทั้ง 13 ฉบับในครั้งเดียว 
    มีรายงานว่า ก่อนการลงมติ ตัวแทนวิป 3 ฝ่าย ได้หารือภายในวิปของตัวเอง เพื่อวางแนวทางการลงมติในวาระแรก ในส่วนของวิปวุฒิสภาได้หารือกันแล้ว เสียงส่วนใหญ่มีความเห็นลงมติเห็นชอบเฉพาะร่างที่ 13 คือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอให้แก้ไขมาตรา 83 และ 91 เรื่องวิธีการเลือกตั้งให้กลับมาใช้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบคือ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 1 ของพรรค พปชร.นั้น วุฒิสภาเห็นตรงกันจะไม่ให้ความเห็นชอบ เนื่องจากมีเนื้อหาไปแก้ไขมาตรา 144 และ 185
    ขณะที่วิปรัฐบาลมีมติเห็นชอบร่างที่ 1 ของพรรค พปชร. ร่างที่ 3 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เสนอแก้ไขเรื่องวิธีการเลือกตั้งให้กลับมาใช้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ร่างที่ 6 ของพรรค ภท.เรื่องการเสนอให้แก้ไขยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ร่างที่ 7 ของพรรค ภท.เรื่องการแก้ไขหมวด 5 และมาตรา 55/1 การกำหนดให้รัฐบาลมีหลักประกันเรื่องรายได้ให้กับประชาชนที่มีฐานะยากจน ร่างที่ 8 ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้เพิ่มสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างง่าย รวดเร็ว ทั่วถึง และร่างที่ 13 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอให้แก้ไขมาตรา 83 และ 91 เรื่องวิธีการเลือกตั้ง ให้กลับมาใช้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนวิปฝ่ายค้านมีมติให้รับหลักการในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวทางการลงมติของพรรคว่า พรรคมีมติตรงกันว่า จะรับมติเห็นชอบทั้ง 13 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวว่า จุดยืนพรรคจะลงมติเห็นชอบให้เฉพาะร่างที่เสนอยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งมีอยู่ 2 ร่าง คือ ร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านและร่างของพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค และจะลงมติไม่เห็นชอบร่างแรกของพรรค พปชร. เพราะเป็นร่างที่มีเจตนาชัดเจนว่าต้องการต่ออายุระบอบ คสช. 
    ขณะเดียวกัน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้นัดเปิดเวทีเสวนาออนไลน์ หัวข้อ “คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เปิดทางให้เกิดการคดโกงงบประมาณของประเทศ” ร่วมเปิดหน้าหาความจริง…คัดค้านทำไม? ประชาชนจะพบกลโกงอะไร ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ!! ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564 เวลา 19.30-21.00 น. ผ่านทางเฟซบุ๊กองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และรับฟังได้พร้อมกันทาง Clubhouse.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"