น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในชุมชนพื้นที่เขตจอมทองและธนบุรี พบปัญหาหลายครอบครัวอาจตัดสินใจให้บุตรหลานออกจากการศึกษาชั่วคราวเพราะไม่มีค่าเทอม  เบื้องต้นตนได้ทำความเข้าใจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการมาตรการช่วยเหลือด้านการศึกษาของรัฐบาล รวมถึงการเข้าถึงกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือกยศ. ที่ปัจจุบันรัฐบาลได้แก้ไขปรับปรุงเงื่อนไข เพื่อสอดคล้องกับภาวะวิกฤติ โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน รวมทั้งการลดดอกเบี้ยปรับชำระหนี้ค้าง ให้ประชาชนได้รับทราบ ว่ามีโครงการดีๆของรัฐบาลที่ดูแลระบบการศึกษาไทยอยู่ตอนนี้ ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนบางส่วนเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจดังกล่าว 

แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อปัญหาการศึกษาต่อเด็กทั่วโลก มีเด็ก 1ใน3ของโลกต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา สำหรับประเทศไทยจากรายงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ที่สำรวจพบว่าเปิดเทอมปีการศึกษา 2564 จะมีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาประมาณ 5,654 คนในเบื้องต้น และจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว คือหมื่นคนในอีก1เดือนเศษข้างหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่าสิ้นปีการศึกษา 2564 จะมีเด็กหลุดจากระบบการศึกษาถึง 65,000 คน ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงว่าจากปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและปัญหาสังคมไทยในอนาคต การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเฉพาะ และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามก็เชื่อว่า กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจ กับปัญหาดังกล่าว แต่อยากให้ทั้ง2 กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมต่างๆ บูรณาการช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเป็นการเฉพาะหน้า เพื่อช่วยไม่ให้เด็กเหล่านี้ต้องหลุดออกจากระบบก่อนเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม

“หากหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องร่วมกันค้นหาเชิงรุก โดยอาศัยข้อมูลจาก กสศ. เป็นพื้นฐานร่วมกับเครือข่ายสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ในการเข้าถึงเด็กนักเรียนที่เสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา และเข้าไปช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนก่อน ปลดล็อกอุปสรรคต่างๆ เช่น ค่าเทอม และประสานเครือข่ายภาคเอกชนที่มีความเข็มแข็ง ก็จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงทีก่อนสายเกินไป”น.ส.ทิพานัน กล่าว