จิตสำนึกและคุณธรรม


เพิ่มเพื่อน    

การระบาดที่ยาวนานของไวรัสโควิด-19 นั้นได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก หลายๆ ประเทศที่ต้องมีภาวะหนี้เพิ่มขึ้นเกินกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เพราะต้องอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจให้ได้ สำหรับประเทศไทยเองก็ได้เริ่มแล้วที่ภูเก็ต ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยมาได้สัก 4-5 วันแล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องจับตาดูกัน

            ซึ่งในขณะที่รัฐบาลพยายามจะฟื้นเศรษฐกิจโดยเน้นในเมืองท่องเที่ยว เพราะถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล ถ้าประสบความสำเร็จก็เดินหน้าตามแผนที่ท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้วางแผนว่า 120 วันเปิดประเทศ นั่นก็หมายความว่าเศรษฐกิจของไทยก็จะกลับฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง แต่ทั้งหมดจะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งนักการเมือง พักศึกระหว่างกัน หันมาช่วยกันแก้ไขปัญหาก่อน เมื่อดีขึ้นค่อยกลับมาน้ำเน่ากันใหม่

            ต้องยอมรับว่าในขณะที่รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่ต้องผลักดันและแก้ไขเช่นกัน ทั้งด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การกระตุ้นการลงทุน การดูแลและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิดที่ต้องทำควบคู่กัน ยังไม่รวมถึงการแก้ปัญหาการทุจริตให้หมดไป โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในด้านของระบบสาธารณูปโภคอย่างรถไฟฟ้า ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมที่มีแม่ทัพใหญ่อย่างนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งดูเหมือนการเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า แม้จะมีปัญหาและปมขัดแย้งก็สามารถแก้ไขและเดินหน้าโครงการได้อย่างราบรื่น แต่ก็ไม่วายเกิดปมปัญหาขึ้นมาอีกจนได้ ซึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ คือการทุจริตในโครงการก่อสร้างที่ยังแก้ไม่ตก ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ตลอดเวลา

            อย่างเช่นทั้งสายสีส้มและสีเขียว ที่ดูเหมือนว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้เรื่องราวจะจบลง แต่สุดท้ายก็ปะทุขึ้นมาอีก เมื่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ออกมาระบุว่า กระทรวงคมนาคมจะหารือกับกรุงเทพมหานครในเร็วๆ นี้ โดยมอบหมายให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมทั้งระบุว่า กระทรวงคมนาคมนั้นยังคงยืนยันว่า ต้องทำแล้วถูกกฎหมาย และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และถ้ายึดระเบียบกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เชื่อว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้

            ทำให้เกิดการตอบโต้กลับจากผู้บริหารระดับสูงในบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กทม.ที่ทำหน้าที่บริหารส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยออกมาระบุว่า ที่ผ่านมาถือว่ากระทรวงคมนาคมทำตามกฎหมายจริงหรือ เพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังเดินหน้าการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เงินลงทุน 1.427 แสนล้านบาทต่อ

            ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกกลางคัน จนถูกบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลฟ้องร้องศาลสั่งระงับและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ส่งผลให้โครงการสะดุดและล่าช้า แต่ รฟม.ก็ยังเดินหน้าไม่หยุด ทำให้ฝ่ายบริหารก็ถูกฟ้องต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบอีกคดี และยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติให้ส่งรายงานผลการสอบสวนโครงการนี้ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนเอาผิดผู้บริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ

            และกระทรวงคมนาคมต้นสังกัดก็ไม่ได้มีการท้วงติง หรือระงับการดำเนินการใดๆ จนส่งผลให้ประเทศชาติต้องเสียหาย ประชาชนสูญเสียโอกาสในการใช้บริการรถไฟฟ้า ดังนั้นทางที่ดีกระทรวงคมนาคมและ รฟม.ต้องร่วมกันผ่าทางตัน ระดมหาทางออก อย่าให้ติดหล่มจนโครงการไม่สามารถเดินหน้าได้ แถมยังต้องจ่ายค่าโง่ให้กับเอกชนเหมือนหลายๆ โครงการที่ผ่านมา

            อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมานั้นจะมีมติคณะรัฐมนตรีให้ทุกโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ รวมไปถึงโครงการที่ต้องร่วมลงทุนกับเอกชนตามกฎหมายอื่น ต้องทำข้อตกลงคุณธรรม เพื่อให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบป้องกันการทุจริต และเพื่อสร้างความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ แต่สุดท้ายด็ยังไม่แคล้วที่จะมีเล็ดลอดออกมาจนได้

                เรื่องแบบนี้จะโทษรัฐบาลฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ เพราะการทุจริตหรือไม่ทุจริตนั้นมันอยู่ที่จิตสำนึกและคุณธรรมมากกว่า.

บุญช่วย ค้ายาดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"