สิ้นสุด31ปีที่รอคอยรถไฟสายสีแดง


เพิ่มเพื่อน    

 

       เมื่อพูดถึงการเปิดให้บริการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ  ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานีรถไฟระบบใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกระทรวงคมนาคมได้วางแผนให้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์รวมของระบบรถไฟ ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง และรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะสามารถเชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางสำคัญๆ ที่เปรียบเสมือนเส้นทางหลักในการเข้าถึงแหล่งเศรษฐกิจได้อย่างสะดวกสบาย

                ในขณะที่พื้นที่ต่างๆ โดยรอบสถานี จะมีระบบสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบเชื่อมต่อการเดินทาง (Feeder) รวมทั้งการเดินรถรถไฟสายสีแดง สิ่งอำนวยความสะดวกในทุกสถานี ต้องพร้อมเปิดให้บริการประชาชน ในส่วนของรถไฟระหว่างเมืองให้หยุดขบวนรถเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารที่สถานี (Gateway) และมีระบบขนถ่ายผู้โดยสารจากสถานี Gateway เข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

                เรียกได้ว่า ตอกย้ำความสำเร็จของสถานีกลางบางซื่อไปอีกขั้น คือวันที่ 2 สิงหาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (Soft Opening) แบบไม่เก็บค่าโดยสาร (ฟรี) ประมาณ 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค.64) ก่อนเปิดบริการอย่างเป็นทางการแบบเก็บค่าโดยสารในเดือน พ.ย.2564

                สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มีระยะทางรวม 41 กม. 13 สถานี แบ่งเป็น ช่วงบางซื่อ-รังสิต 26 กม. 10 สถานี ได้แก่  สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ระยะเวลาเดินทางประมาณ 25 นาที

                และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที จะช่วยเชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ช่วงได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกประชาชนบริเวณชานเมืองเดินทางเข้าใจกลางกรุงเทพฯ ได้ภายใน 30-45 นาที

                ส่วนของราคาค่าโดยสาร กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปทบทวนค่าโดยสารตลอดสายเหลือ 12-42 บาท จากที่ รฟท.เสนอมา 14-42 บาท โดยช่วงบางซื่อ-รังสิต 12-38 บาท และบางซื่อ-ตลิ่งชัน 12-27 บาท สามารถนั่งจากรังสิตและเปลี่ยนขบวนที่สถานีกลางบางซื่อไปสถานีตลิ่งชันโดยไม่ต้องออกจากระบบ    ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการลดภาระค่าครองชีพและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยการลดค่าโดยสารการเดินทางในทุกระบบ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟ เป็นต้น

                แน่นอนว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างย่านใจกลางเมืองกับย่านชานเมืองให้รวดเร็วมากขึ้น ด้วยเวลาการเดินทางจากสถานีต้นทางถึงปลายทางเพียง 30 นาที ด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง และมีรถไฟออกจากชานชาลาทุก ๆ 5-7 นาที โดยสามารถรองรับผู้โดยสายได้มากกว่า 2,800 คน ถ่ายเทผู้โดยสารจากท้องถนนเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่สะดวกและปลอดภัยได้เป็นจำนวนมาก

                และในอนาคต สถานีกลางบางซื่อมีแผนจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเส้นทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (Airport Rail Link) รถไฟฟ้ามหานคร หรือ MRT สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี หรือแม้กระทั่งสายรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อของสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภาเข้าไว้ด้วยกัน แน่นอนว่าจะช่วยลดปัญญาการจราจรที่ติดขัด เพิ่มความสะดวก และประหยัดเวลาในการเดินทาง

                นับเป็นความสำเร็จของการยกระดับการขนส่งสาธารณะเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ และเป็นต้นแบบของกระทรวงคมนาคม ในการยกระดับการพัฒนาและให้บริการระบบราง เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางในเมืองและระหว่างเมืองของประชาชนและการขนส่งสินค้า และถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่มีมาอย่างยาวนานถึง 31 ปี ที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2533.

กัลยา ยืนยง

+++++++++++++

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"