แฟ้มภาพ

8 ก.ค.64 - นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอล ภายหลังต้องกักตัวหลังจากที่เดินทางไปตรวจติดตามความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์  เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า ตนเองได้กักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งยังอยู่ดีมีสุขอยู่และตัวเองไม่ได้นับว่าอยู่ในวงที่ 1 แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายจึงคิดว่ากักตัวดีกว่า แต่จากการไปสวอปเทส มาสองรอบผลก็ออกมาเป็นลบ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ว่า เป็นอย่างไรบ้าง นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่จำเป็นก็ไม่อยากรบกวนนายกรัฐมนตรี เพราะทุกวันนี้ภาระงานของนายกรัฐมนตรีก็เยอะอยู่แล้ว ตนก็เห็นใจนายกรัฐมนตรีแต่ละเรื่องที่เข้ามาก็หนักๆทั้งนั้น  ในส่วนของทส.มีอะไรที่จะสนับสนุนรัฐบาลได้เราก็ดำเนินการเต็มที่

เมื่อถามว่า ทส.มีการกักตัวทั้งรัฐมนตรีและปลัดทส. กระทบการทำงานในกระทรวงหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ทำงานโดยใช้วิธีวิดีโอคอลและประสานงานกันผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ถ้ามีเอกสารสำคัญก็เอาใส่ซองเอกสารและฉีดแอลกอฮอล์ส่งให้เซ็นกัน ไปมายืนยันว่าแม้ว่าจะกักตัวแต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานเพราะอยู่ที่ใด ก็ทำงานได้หมดและอย่างไรกำหนดระยะการกักตัวของตนนั้นจะครบ พร้อมกับนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่ารัฐมนตรีที่ไปเข้าร่วมงาน ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ กักตัวทั้งหมดกี่คน นายวราวุธ กล่าวว่าเท่าที่ทราบนอกจากนายกรัฐมนตรีและตนก็มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีส.ส.เรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับส.ส.และส.ว.ก่อนท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนาเรื่องนี้เป็นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าการที่ส.ส.และส.ว.ได้ฉีดกันไปแล้ว 2 เข็ม เบื้องต้นก็น่าจะเพียงพอก่อน ส่วนเข็มที่ 3 ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ฉีดกับประชาชนก่อน เพราะท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์ของโควิด-19 เป็นสิ่งที่เตือนใจทุกคนได้ดีว่าการรักษาสุขภาพให้มีความแข็งแรงออกกำลังกายกินอาหารให้มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าร่างกายแข็งแรงก็เป็นพื้นฐานของการป้องกันโรคภัยต่างๆได้ไม่ว่า จะเป็นโควิด-19 หรืออะไรก็แล้วแต่ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19แน่นอน แต่ถ้ามีร่างการแข็งแรงจะผ่อนจากหนักเป็นเบาได้ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เราจะได้ตระหนักให้มากกว่าการป้องกันเชื้อโควิด-19 ดีกว่าการแก้ไขหลังจากที่ติดเชื้อแล้ว

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดสุพรรณบุรียังคงเพิ่มสูงขึ้น นายวราวุธ กล่าวยอมรับว่า มีตัวเลขค่อนข้างเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทางจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด ก็ดำเนินการเต็มที่รอให้มีวัคซีนเพิ่มขึ้นจะได้นำมาฉีดให้ประชาชนอย่างทั่วถึง 

เมื่อถามว่าปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นวันนี้ก็สูงถึง 7 พันกว่ารายมองว่าควรจะมีการล็อกดาวน์ได้หรือยัง นายวราวุธ กล่าวว่า การล็อกดาวน์มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ตนคิดว่าที่สำคัญที่สุดคือประชาชนทุกคนต้องตระหนักและดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งการที่จะล็อกดาวน์นั้นแสดงว่าประชาชนเริ่มที่จะไม่ระมัดระวังแล้ว จึงทำให้สถานการณ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และการที่มีตัวเลขเพิ่มแบบนี้ทำให้เราต้องยิ่งระมัดระวังเพิ่มขึ้นไปอีก

“ผมมั่นใจว่าการล็อกดาวน์เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่อยากทำเพราะเราเองก็เพิ่งเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ไปและคาดหวังว่าจะขยายพื้นที่บับเบิ้ลโซนในพังงากระบี่หรือจังหวัดใกล้เคียง ดังนั้นผมเชื่อว่าการล็อกดาวน์น่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่รัฐบาลคิด แต่ถ้าประชาชนสามารถ ช่วยกันคนละไม้คนละคนละมือในการรักษาวินัยด้านสาธารณสุขผมก็เชื่อว่าเราไม่น่าจะไปถึงจุดนั้น” นายวราวุธกล่าว