ล็อกดาวน์10จังหวัด แห่สละเงิน3ด.ตาม‘บิ๊กตู่’ 10ก.ค.เริ่มห้ามข้ามจว. 12ก.ค.ดีเดย์ใช้เคอร์ฟิว ต่ออายุพรก.อีก2เดือน!


เพิ่มเพื่อน    


ศบค.ไฟเขียวล็อกดาวน์ 10 จังหวัดโซนแดงเข้ม ประกาศเคอร์ฟิว 3 ทุ่ม-ตี 4 บังคับใช้ 14 วันหรือจนกว่าสถานการณ์ดีขึ้น เริ่ม12 ก.ค.นี้ ปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ 2 ทุ่ม หยุดบริการขนส่งสาธารณะ 3 ทุ่ม ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน ไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัดยกเว้นจำเป็น สั่งหน่วยมั่นคงตั้งด่านสแกนคนเข้า-ออกพื้นที่ตั้งแต่  6 โมงเช้าวันเสาร์ พร้อมชง ครม.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน นายกฯ สั่ง ศบศ.เยียวยาสถานประกอบการ-พนักงานที่ได้รับผลกระทบ
    เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.  แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งสถานการณ์โลกและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสถานการณ์ในประเทศยังมีความน่าห่วงกังวล มาจากแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้น  รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่มีความรุนแรงและแพร่ระบาดได้ง่าย และการเดินทางกลับภูมิลำเนาของกลุ่มแรงงานจากพื้นที่ กทม.ทำให้เชื้อกระจายไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศ 
    ที่ประชุม ศบค.จึงมีมติขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต่อไปอีก 2 เดือน ทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย. จากเดิมที่จะสิ้นสุดเดือน ก.ค. โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) วันที่ 13 ก.ค. โดยมาตรการที่ออกมาในครั้งนี้อยู่ภายใต้หลักคิดจำกัดการเคลื่อนย้าย การรวมกลุ่มของบุคคลเฉพาะพื้นที่ ที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่าล็อกดาวน์  กำหนดเวลาการออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว  ควบคู่ไปกับมาตรการเร่งรัดด้านการป้องกันโรค การฉีดวัคซีน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล รวมทั้งการเยียวยาให้เร็วที่สุด 
    นอกจากนี้ ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วประเทศ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้มยังเป็น 10 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส, พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง 24 จังหวัด คือ กระบี่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตาก  นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์  ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี  ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี  สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทัยธานี, พื้นที่ควบคุม  หรือสีส้ม 25 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร  ขอนแก่น จันทบุรี ชัยภูมิ ชุมพร ตรัง ตราด บุรีรัมย์ พัทลุง  พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย  ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุราษฎร์ธานี สุรินทร์  หนองบัวลำภู อุดรธานี และอุบลราชธานี, พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือสีเหลือง 18 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่  นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต  มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ลำปาง ลำพูน สกลนคร  หนองคาย อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์ 
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า มาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่ 6 จังหวัด ที่ประกอบด้วย กทม.  นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร  ได้แก่ จำกัดการเคลื่อนย้ายและดำเนินกิจกรรมให้ได้มากที่สุด, กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนปฏิบัติงานในลักษณะเวิร์กฟรอมโฮมให้ได้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชน, ให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดบริการตั้งแต่  21.00-04.00 น., ให้ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่งปิดตั้งแต่เวลา 20.00-04.00 น., ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคาร ร้านขายยา ร้านเครื่องมือสื่อสาร สถานที่ฉีดวัคซีน เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น., ห้ามบริโภคอาหารและสุราภายในร้านอาหาร โดยให้เปิดถึงเวลา 20.00 น., ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ได้แก่  นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม, สวนสาธารณะให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 20.00 น., ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนา หรือกิจกรรมตามประเพณีที่มีการรวมตัวกันเกิน 5 คนขึ้นไป 
เคอร์ฟิว 10 จังหวัด 3 ทุ่ม-ตี 4
    "สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 10  จังหวัด จะห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น, ห้ามออกนอกเคหสถาน ในเวลา 21.00-04.00 น. ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยต้องไปรักษาพยาบาล กรณีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ขึ้นเวร หรือไปซ่อมแซมการไฟฟ้า ประปาที่ขัดข้อง, การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ให้ยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ มาตรการที่กล่าวมาให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดลาดตระเวนเพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยให้พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. เวลา 06.00 น.  หากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนให้บังคับใช้บทลงโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ" พญ.อภิสมัยระบุ   
     ส่วนมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่  กทม.และจังหวัดปริมณฑล สาธารณสุขจะปรับแผนการกระจายวัคซีนโดยให้เร่งฉีดวัคซีนผู้ที่มีความเสี่ยงที่อายุเกิน 60 ปี รวมทั้งกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะฉีดให้ได้ 1 ล้านโดส ภายในสองสัปดาห์ และเห็นชอบในการจัดสรรวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศทั้งไฟเซอร์และแอสตร้าเซเนก้าที่ได้รับบริจาคจากญี่ปุ่นมาถึงภายในวันนี้ (9 ก.ค.) แล้ว  โดยหลักการจัดสรรมุ่งเน้นไปที่ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีและ 7 กลุ่มโรค รวมทั้งชาวต่างชาติที่มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและผู้จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต โดยเน้นย้ำในที่ประชุมที่มีข้อสรุปว่าให้มีการจ่ายวัคซีนไฟเซอร์เป็นบูสเตอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ให้เร็วที่สุดด้วย 
    นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร  และจังหวัดปริมณฑล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเพิ่มความสามารถการรักษาพยาบาลให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพ และมีการพูดถึงไอซีสนาม โรงพยาบาลสนามการแยกกักในชุมชน (คอมมิวนิตีไอโซเลชัน) หรือศูนย์พักคอยรอการส่งต่อ รวมทั้งการแยกกักที่บ้าน (โฮมไอโซเลชัน) และการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในระหว่างแยกกัก 
    สำหรับการปฏิบัติในจังหวัดอื่น ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ร่วมกันรับผิดชอบกำหนดมาตรการคัดกรอง และมาตรการสำหรับบุคคลที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น  โดยเฉพาะผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  ทั้งนี้ ให้พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เวลา 06.00 น. และให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ระดับสถานการณ์ต่างๆ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24, 25, 26) ที่มีก่อนหน้านี้มาบังคับเท่าที่ไม่ขัดแย้งกับข้อกำหนดนี้  
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า มาตรการทั้งหมดขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการควบคุมเพื่อกำหนดการเดินทางข้ามจังหวัด การจำกัดการเดินทางนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. รายละเอียดจะลงไว้ในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจและให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ มาโดยตลอด  ขออภัยกับการติดขัดที่อาจทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดลำบาก แต่ทั้งนี้เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประเทศไทยต้องชนะไปด้วยกัน  
นายกฯ สั่ง ศบศ.เยียวยา
    ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ดังกล่าวเคยปฏิบัติมาแล้วในช่วงเดือน เม.ย.63 ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.)  เร่งรัดกำหนดมาตรการเยียวยาสถานประกอบการหรือพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดมาตรการในครั้งนี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ระดับสถานการณ์ต่างๆ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24, 25,  26) มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 12 ก.ค.64 เป็นต้นไป ระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
    “นายกฯ ย้ำ ศบค.ไม่เคยหยุดคิด โดยมีการทำงานต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกที่มีการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อู่ฮั่น  และมีมาตรการที่สอดคล้องกับสมมุติฐานของการแพร่ระบาด โดยมีการวางแผนและมาตรการล่วงหน้าตั้งแต่ระดับปกติ ปานกลาง รุนแรง รุนแรงมาก เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ และเร่งรัดมาตรการด้านการป้องกันโรค การคัดกรอง การรักษา การฉีดวัคซีน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล รวมทั้งเยียวยาให้ได้มากที่สุด โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละส่วนปฏิบัติงานอย่างรับผิดชอบด้วย ซึ่งหลังจากประกาศใช้ระยะเวลา 14 วัน หลังจากนั้น ศบค.จะประเมินมาตรการทั้งหมดนี้อีกครั้ง”  โฆษกรัฐบาลระบุ
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวของ ศบค.จะเรียกว่าล็อกดาวน์ก็ได้ ซึ่งเป็นการล็อกดาวน์ 14 วันในพื้นที่ 10 จังหวัด ซึ่งในวันที่ 10 ก.ค. จะมีการซักซ้อมชุดปฏิบัติการพิเศษที่มีทั้งทหารและตำรวจ ในการคุมเข้มการปิดกั้นการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด ในการคุมเข้มไม่ให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดและจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์แรกที่มีการล็อกดาวน์จะยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากยังมีผู้ติดเชื้อที่แฝงอยู่ หลังจากนี้ต้องพิจารณาอีกครั้งว่ามาตรการล็อกดาวน์จะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงหรือจะต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์ต่อไปอีก 
    นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งด่วนว่า ที่ประชุม ศบค.ได้กำชับเรื่องการปรับลดการให้บริการสาธารณะ โดยมีมติในที่ประชุมให้ดำเนินการหยุดการบริการในช่วงเวลา  21.30-04.00 น. ยกเว้นรถที่มีความจำเป็น เช่น รถขนส่งอาหาร, รถส่งสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ 12  ก.ค.นี้ หลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบไปดำเนินการออกประกาศรายละเอียดการให้บริการให้ประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้ ให้ลดการบริการขนส่งสาธารณะไปยังต่างจังหวัด หรือจาก กทม.ไปยังจังหวัดในกลุ่มควบคุมสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 12-25 ก.ค. ส่วนหน่วยงานที่มีการดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่แดงเข้ม 10 จังหวัด ขอให้ใช้มาตรการเชิงรุกเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้มีความชัดเจนเพื่อลดการแพร่ระบาดดังกล่าว
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า มีความพร้อมที่จะขานรับมาตรการของ ศบค. ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดควบคุมโรค การดูแลเรื่องแคมป์คนงาน การตรวจสถานที่เสี่ยง ร่วมกับหน่วยงานอื่น อีกทั้ง บช.น.มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว กรณีได้รับแจ้งพบมีผู้กระทำความผิด ทีมงานชุดนี้จะเข้าไปปฏิบัติงาน ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหา ส่วนสายด่วน  191 เป็นอีกช่องทางสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19  สามารถโทร.มาแจ้ง ก่อนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ ไม่ว่าการจัดสถานที่รักษาตัวและสถานที่กักตัว บางครั้งตำรวจก็จะนำส่งสถานพยาบาล 
    ที่ จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดว่า จากการที่ ศบค.มีคำสั่งงดการเดินทางเป็นเวลา 14 วัน ในพื้นที่จังหวัดตามที่กำหนดมานั้น จึงได้มีคำสั่งด่วนทันทีให้ตั้งจุดตรวจคนเข้า-ออกเมือง 2 จุดหลักในเบื้องต้น คือที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ โดยให้ดำเนินการตรวจคัดกรองคนเข้า-ออกเมืองขอนแก่น ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขทันที รวมไปถึงการห้ามให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคออกนอกพื้นที่เขตจังหวัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"