เจ้าหน้าที่ปะทะเดือดโจรใต้เข้าวันที่ 6 พบถูกวิสามัญไป 2 ศพ คาดยังเหลืออีก 3-4 คน ยิงใส่ จนท.เป็นระยะๆ แม่ทัพภาคที่ 4 ลั่น หากใครให้การสนับสนุนคนร้ายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    จากกรณีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มก่อความไม่สงบพร้อมอาวุธปืนสงครามได้หลบหนีการจับกุมจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี ซึ่งครั้งนั้นมีคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ศพ ขณะที่คนร้ายที่เหลือหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าสาคูร่วมกับเพื่อนที่สร้างเป็นฐานพักพิง ในพื้นที่ ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าปิดล้อมจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือด จนล่วงเลยมาถึง 6 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้เข้าปิดล้อมพื้นที่ป่าดังกล่าวอย่างประชิดและยังใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการตรวจค้นทั้งภาคพื้นดินและอากาศ แต่ก็ยังถูกคนร้ายที่คาดว่าน่าจะมีอยู่ประมาณ 3-4 คนใช้อาวุธปืนยิงใส่เป็นระยะ แม้ว่าจะเชิญผู้นำศาสนามาร่วมเจรจาแต่ก็ไร้ผล
    ต่อมาช่วงเที่ยงของวันที่ 10 ก.ค. พล.ท.เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปยังกองปฏิบัติการที่หมายในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งเป็นสถานที่วางแผนการปฏิบัติในการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบซ่อนตัวภายในป่าดังกล่าว พร้อมรับฟังการรายงานสถานการณ์ล่าสุดในการปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งการปฏิบัติหลังจากหน่วยปฏิบัติการร่วมได้เข้าโอบล้อมป่าแบบประชิดตัวในพื้นที่ระยะ 100-200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำโดรนบินตรวจทางอากาศเพื่อทำการตรวจจับความร้อน ก็พบว่า คนร้ายยังคงซ่อนตัวอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากอันตรายเพราะจุดที่ซ่อนตัวของคนร้ายนั้นเป็นป่ารกทึบ เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถแบ็กโฮกันกระสุนเข้าไปไถป่ารอบๆ เพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ใกล้ที่สุด  แต่ปรากฏว่าขณะที่รถกำลังไถเข้าใกล้ก็ถูกคนร้ายยิงใส่ ทำให้ต้องถอยออกมา อีกทั้งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมเจรจาให้มอบตัวก็ไม่เป็นผล และยังคงมีการปะทะกันอีกระลอก
    ล่าสุด มีรายงานว่าจากการนำโดรนบินตรวจสอบทางอากาศ มีการยืนยันแล้วว่าพบศพคนร้าย 2 รายเสียชีวิตในร่องน้ำ และพบอาวุธปืนตกอยู่บริเวณศพ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เนื่องจากการตรวจสอบความร้อนยังพบความเคลื่อนไหวของคนร้ายอีก 1-2 คน
    พล.ท.เกรียงไกรกล่าวว่า ตลอด 6 วันมีการเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่มาช่วยพูดคุยเพื่อให้ยอมมอบตัว แต่ก็ยังมีการต่อสู้เรื่อยมา และค่อนข้างที่จะลำบากในการปฏิบัติใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งตอนนี้กำลังใช้เครื่องมือกระชับวงล้อมเพื่อเปิดทาง เห็นได้ว่าโอกาสที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยากมาก มีทางเดียวคือมอบตัว เราพบฐานปฏิบัติการคนร้ายจากการใช้เครื่องมือเข้าตรวจสอบ ทำให้สามารถเห็นว่าคนร้ายอาศัยกันอยู่หลายคน และได้ฝากไปยังคนในพื้นที่ด้วยว่า หากใครให้การสนับสนุนคนร้ายเราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
    ส่วนกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหว และก่อเหตุในอำเภอสายบุรี, อำเภอกะพ้อ และ อำเภอทุ่งยางแดง เป็นกลุ่มเดิมที่ได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นบนเส้นทางถนนสายบุรีก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้ก็คาดว่าจะน่ายุติการปิดล้อมปะทะได้.