‘มท.-ศธ.’เต้นงาบงบเด็ก สั่งลงพื้นที่พร้อมฟันวินัย


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กป๊อก" ฮึ่มห้ามโกงอาหารกลางวันเด็กอีก สั่ง นอภ.ล้อมคอก-ลงพื้นที่สุ่มตรวจ คาดโทษฉาวซ้ำผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบ สพป.สุราษฎร์ฯ เขต 2พบอดีต ผอ.รร.บ้านท่าใหม่ทุจริต 5 โครงการ ศธ.จ่อฟันวินัยร้ายแรง พ่วงอาญา-แพ่งไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

    เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะนำเรื่องทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียนหารือในที่ประชุมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยอาหารกลางวันเด็กนักเรียน จะได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) หัวละ 20 บาท ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการทุจริตหรือบริหารงานไม่ดี แต่โรงเรียนต้องรับผิดชอบเป็นหน่วยงานแรก ในส่วนของท้องถิ่นที่เป็นผู้ให้งบประมาณก็ต้องคอยตรวจสอบ โดยเฉพาะนายอำเภอ ที่ต้องสุ่มตรวจสอบโรงเรียนที่เฝ้าระวัง รวมถึงหามาตรการป้องกัน
    "ผมตั้งเป้าว่ากรณีแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น มาตรการหนึ่งที่ผมจะเสนอแนะผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ คือ ต้องให้แนวนโยบายที่แน่ชัดกับนายอำเภอ เพราะนายอำเภอค่อนข้างที่จะกำกับดูแลแล้วได้ผล นายอำเภอต้องรู้ว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรงเรียนใดบ้างที่ไม่ต้องห่วง ต้องหามาตรการ นายอำเภออาจจะลงไปสุ่มตรวจดูบ้าง ผู้ที่ช่วยได้เยอะอีกกลุ่มก็คือภาคเอกชน ผู้ปกครอง ภาคประชาชน สื่อมวลชน ถ้ามันมีอาการไม่ดี ก็จะสามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ จะได้แก้ไขได้ทัน เป็นสิ่งที่ผมอยากสร้างกลไกนี้ไว้ ยอมรับโรงเรียนทั่วประเทศมีจำนวนมาก คงไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด แต่หากพบว่ามีการทุจริตในโรงเรียนใด ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ ต้องรับผิดชอบ" พล.อ.อนุพงษ์ระบุ
       รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ตำบลทั่วประเทศมีตั้งกว่า 7,000 แห่ง โรงเรียนมีจำนวนมาก หากไม่วางโครงสร้างในการควบคุม จะเกิดข้อผิดพลาด งบประมาณไม่ว่าจะเป็น 5 บาท, 10 บาท หรือ 20 บาท มีค่าทั้งนั้น เพราะเป็นงบของประเทศชาติ และเป็นงบของเด็กนักเรียน ถือว่าน่าสงสาร ขณะที่โรงเรียนดีๆ มีไม่น้อย แต่สังคมคงไม่รู้ สังคมคงเห็นเฉพาะที่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หากนายอำเภอรู้ว่ามีโครงการลักษณะนี้ ต้องหามาตรการมาช่วย แล้วดูว่าโรงเรียนไหนผ่าน หรือโรงเรียนไหนมีปัญหา ให้บันทึกทำเครื่องหมายไว้ จัดลำดับให้ดี
    ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (conference) ชี้แจงและทำความเข้าใจเรื่องการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ, ศึกษาธิการภาค, ศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสถานศึกษาทั่วประเทศ 
ศธ.ล้อมคอกอาหารเด็ก
    โดยปลัด ศธ.ได้สั่งการให้ศึกษาธิการจังหวัดบูรณาการกับ ผอ.เขตพื้นที่ลงติดตามปัญหาทุจริตโครงการอาหารกลางวัน ขณะที่ สพฐ.ได้ส่งหนังสือสั่งการและเเบบประเมินติดตามการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ กำชับให้ ผอ.เขตพื้นที่มอบให้ศึกษานิเทศก์ไปตรวจติดตามโครงการอาหารกลางวันว่ามีการบริหารและระบบการจัดการอาหารกลางวันเป็นอย่างไร มีปริมาณที่เหมาะสมเเละมีคุณภาพหรือไม่ หากทุจริตต้องดำเนินการทันที แต่ถ้าไม่ทุจริต เเค่บริหารงานไม่เป็นระบบ ต้องมีการแก้ไขทันที จัดระบบให้เหมาะสม     โดยให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นประจำในโรงเรียนที่มีการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก 
    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการเบื้องต้นว่า ให้เริ่มลงพื้นที่ไปตรวจสอบตั้งเเต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกำลังเร่งตรวจสอบว่าเขตใดปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติบ้าง เเละหากพบว่าไม่ไปตรวจสอบปล่อยให้เกิดความเสียหาย ผอ.เขตพื้นที่ต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกันหากพบการทุจริต ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาด ผอ.โรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร็วที่สุด ตามมาตรการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อีกทั้งยังสั่งการทุกโรงเรียนให้ศึกษาโปรแกรม Thai school lunch วางเเผนร่วมกันจัดระบบอาหารให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม
    นายบุญรักษ์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้นักเรียนชั้นประถมศึกษากินขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวันว่า เบื้องต้นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้รายงานเเล้วว่า  การกระทำของ ผอ.คนดังกล่าวมีมูลความผิดจริง โดยได้มอบให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในประเด็นเรื่องทุจริตโกงงบฯ ปรับปรุงระบบไฟฟ้าปี 2560 ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปข้อเท็จจริงได้ภายในวันที่ 8 มิ.ย. โดยเรื่องนี้ พล.ท.โกศล ประชุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อศึกษาปัญหาและนำไปสู่การพัฒนาโครงการอาหารกลางวันในอนาคตด้วย
    ขณะเดียวกัน ในเรื่องการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันนั้น เนื่องจากโรงเรียนจะได้รับจัดสรรงบมาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กระทรวงมหาดไทย โดยจะจัดสรรผ่าน 2 รูปแบบ คือ อปท.จัดสรรทำอาหารให้เเละส่งมายังโรงเรียน เเละการให้งบประมาณเเล้วให้โรงเรียนดำเนินการเองนั้น ขอความกรุณา อปท.ในการโอนงบประมาณให้ตรงตามงวดที่จัดสรร เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนบางแห่งเจอปัญหาในเรื่องงบจัดซื้อจัดจ้าง จนกระทบกับการบริหารโครงการอาหารกลางวันของเด็ก
    ที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. พร้อมนักกฎหมายกระทรวงศึกษาธิการ และตัวแทนจาก สพฐ. ได้เดินทางติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ร้องเรียนนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมส่อทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียน และข้อเรียกร้องอื่นๆ รวม 10 ข้อ โดยอยู่ระหว่างคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 2
    จากการพูดคุยกับครูและเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตรวจรับพัสดุ 4 คน ต่างร่ำไห้และขอความช่วยเหลือจาก พล.ท.โกศล เนื่องจากมีหลักฐานว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ลงนามในรายการจัดซื้อจัดจ้างหลายโครงการ ที่ผ่านมาทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดด้วย แต่เนื่องจากถูกอดีต ผอ.โรงเรียนใช้อำนาจข่มขู่ หากไม่ยินยอมเซ็นรับงาน ผอ.จะไม่เซ็นประเมิน และครูที่โดนข่มขู่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการบรรจุใหม่ที่ต้องผ่านการประเมินเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ พล.ท.โกศลรับปากจะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้สอบปากคำทุกคนที่เกี่ยวข้อง หากครูกระทำไปโดยขาดเจตนา จะหาทางช่วยเหลือ 
อดีต ผอ.โกง 5 โครงการ
    พล.ท.โกศลเปิดเผยว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ได้สอบสวนแล้วเสร็จ และสรุปสำนวน พร้อมเอกสารหลักฐาน รวมกว่า 600 หน้า เสนอต่อนายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัด เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนความผิดวินัยร้ายแรงนายสมเชาว์ จากการตรวจสอบข้อร้องเรียนของผู้ปกครองจำนวน 10 ข้อ พบว่ามีพฤติกรรมทุจริตและมีความผิดวินัยร้ายแรง 5 ข้อคือ 1.โครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้า 2.โครงการก่อสร้างถนน 3.โครงการอาหารกลางวัน 4.การขายผลผลิตปาล์มน้ำมันจากสวนของโรงเรียน และ 5.การจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม 
    ทั้งนี้ รมว.ศธ.ได้กำชับว่าจะต้องมีการดำเนินการทางวินัยร้ายแรง รวมทั้งทางอาญาและทางแพ่งให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับพื้นที่อื่นๆ ได้อีก ส่วนการดำเนินการทางอาญาและแพ่งนั้น หน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัดที่จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และในเบื้องต้นทางต้นสังกัดเองคงต้องพิจารณาให้ออกไว้ก่อนตามระเบียบของราชการ
      ขณะที่นายพล ศรัทโธ ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ยังคงสอบปากคำเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งอายัดสิ่งของและห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องทำงานของ ผอ.โรงเรียน เพื่อหาเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม 
      นายพลกล่าวว่า ได้มีการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนไปแล้วกว่า 10 ปาก การรวบรวมพยานเอกสารถือว่าเพียงพอแล้ว ตอนนี้เราทำงานเพื่อแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยขออนุมัติขยายเวลาเพื่อความแน่นหนาของสำนวน แต่จะทันเสนอต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ภ.8 เพื่อขออนุมัติแต่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้
    ที่ จ.อ่างทอง นายฉลอง อำพันเรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่าโรงเรียนได้ทำผัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับนักเรียนรับประทานนั้นว่า ข้อเท็จจริงไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และไม่ใช่บะหมี่ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งที่เป็นข่าว เป็นเพียงเส้นบะหมี่ที่ใช้ประกอบอาหารทั่วไปในการเอามาผัดประกอบอาหารตามงานต่างๆ และเป็นเพียงเมนูหนึ่งในรอบ 1-2 เดือน ซึ่งโรงเรียนไม่ได้ผัดให้เด็กนักเรียนรับประทานทุกวัน และในบะหมี่ผัด มีส่วนประกอบของอาหารครบถ้วน มีผักแครอต ไส้กรอกรมควัน ไข่และหมูบด 
    "ทางโรงเรียนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เด็กนักเรียนเลิกรับประทานอาหารแล้ว จึงมีเด็กส่วนน้อยที่ยังนั่งรับประทานอาหารอยู่ นอกจากนี้ขอยืนยันว่าในการประชุมผู้ปกครอง ไม่มีผู้ปกครองคนใดเสนอในเรื่องการปรับปรุงอาหาร ซึ่งทางโรงเรียนใช้ระบบบริหารจการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ซึ่งวันนี้ (8 มิ.ย.) มีผู้ประกอบการเจ้าใหม่เข้ามาทำอาหารให้นักเรียนได้รับประทานเป็นวันแรก และมีคุณครูเป็นผู้ตักอาหารให้นักเรียนแต่ละห้อง ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวัดที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานต่อไป" ผอ.โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง ระบุ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"