
ก็เข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก "บิ๊กต้อย" พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ ตร. ที่ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเข้ามาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค. สื่อมวลชนเผยแพร่คำสั่งศาลปกครองกลาง ลงวันที่ 13 ก.ค.64 ทุเลาการบังคับตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 387/2563 ลง 29 ก.ค.63 โดยให้ พล.ต.อ.วิระชัย ซึ่งถูกสำรองราชการอยู่นั้น
ให้กลับมาดำรงตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร." ตามเดิมนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.63
ซึ่งเป็นวันที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. (ขณะนั้น) ออกคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย เสมือนว่าไม่เคยมีคำสั่งสำรองราชการมาก่อนแต่อย่างใด
เป็นใครเมื่อรับทราบผล รับทราบคำสั่งดังกล่าวก็ต้องดีใจไม่ต่างจาก "บิ๊กต้อย"
ยิ่งทันทีที่คำสั่งศาลปกครองถูกนำมาเผยแพร่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์....
"ได้รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางดังกล่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองกลางดังกล่าวตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป"
ก็ยิ่งเหมือนจุดประกายแวววาว เพราะกระบอกเสียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทน "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ออกมายืนยันจะดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง
ประหนึ่งเปิดประตู "กรมปทมุวัน" ต้อนรับกลับสู่เก้าอี้เดิม "รอง ผบ.ตร."!!!
แต่....คงไม่ใช่เร็ววันนี้
เพราะทุกอย่างมีขั้น มีตอน มีกฎ มีระเบียบ มีกติกา "บิ๊กต้อย" กลับสู่ตำแหน่งเดิม "รอง ผบ.ตร." ตามคำสั่งศาลปกครองกลางก็เช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีเหาะเหินเดินอากาศ
คำสั่งศาลปกครองกลางต้องถูกส่งมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้นสังกัด "บิ๊กต้อย" และส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4
จะยื่นอุธรณ์คำสั่งหรือไม่ อย่างไร
หากมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งก็ต้องส่งไปให้ศาลปกครองกลางพิจารณาอีกครั้ง
ถ้าไม่มีใครยื่นอุทธรณ์คำสั่งก็เป็นขั้นตอนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินการต่อไป
ซึ่งทั้ง 2 ทางต้องใช้เวลาพอสมควร!!!
เพราะอย่าลืมว่าตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร." ของ "บิ๊กต้อย" เลขตำแหน่งมีการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. ทดแทนไปเรียบร้อยแล้ว
2 คนจะมานั่งตำแหน่งเดียวกัน เลขตำแหน่งเดียวกันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
จะไล่ พล.ต.อ.ปิยะ ให้ลุกจากเก้าอี้ เอาเลขตำแหน่งคืน "บิ๊กต้อย" ก็ไม่ได้ เพราะ พล.ต.อ.ปิยะ ก็มาอย่างถูกต้องตามระเบียบ ตามกติกาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หนทางกลับคืนสู่ตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร." ของ "บิ๊กต้อย" อย่างเร็วที่สุดก็คือแต่งตั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ในวาระประจำปี 2564 ซึ่งมีตำแหน่งว่าง 2 เก้าอี้
ทว่า "ผู้มีอำนาจ" จะรอขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ของ "บิ๊กต้อย" แล้วเสร็จ ถึงค่อยมาประชุมแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" วาระประจำปี 2564 แต่งตั้งให้ "บิ๊กต้อย" ดำรงตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร." ตามคำสั่งศาลเลยหรือไม่
คือคำถามตัวโตๆ เพราะ "ผู้มีอำนาจ" บางส่วนอยู่ในกลุ่มผู้ถูกฟ้อง เมื่อเพลี่ยงพล้ำเสียท่ายกแรก
นี่คือยกสอง "ดึงเวลา" เอาคืน!!!
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |