'ป.ป.ช.-สตช.'จับมือร่วมขับเคลื่อนสร้างวัฒนธรรมใหม่ ปฎิบัติงานโปร่งใส ตรวจสอบได้


เพิ่มเพื่อน    


23 ก.ค.64 -ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (สตช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แสดงเจตนารมณ์ร่วม ระหว่าง ป.ป.ช. และ สตช. ในการขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ลงสู่ “สถานีตำรวจนครบาล” 88 แห่ง

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาได้มีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ มากกว่า 8,300 หน่วยงาน มุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐเหล่านั้นมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้  ยังมีการขยายการประเมินเพิ่มเติมไปยังหน่วยงานย่อยที่มีความสำคัญเชิงพื้นที่และมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ นั่นคือสำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จำเป็นต้องมุ่งเน้นการยกระดับการให้บริการประชาชนและจำเป็นต้องสะท้อนให้เห็นความโปร่งใส  และสถานีตำรวจนครบาล 88 แห่ง ถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญเชิงพื้นที่และยุทธศาสตร์ ในการให้บริการประชาชนด้วยเช่นกัน คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงเห็นควรสนับสนุนให้เกิดการขยายการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ลงไปสู่สถานีตำรวจนครบาล  โดยจะเริ่มต้นดำเนินการในปีงบประมาณ 2565   โดยหวังว่าเครื่องมือการประเมินจะช่วยเป็นเครื่องมือทางการบริหาร การพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เช่น  การบริหารงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงงานทางด้านการบริหารกำลังพล

“การแสดงเจตนารมณ์ ความร่วมมือ จากผู้บริหารระดับสูง หรือจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งสัญญาณไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล ให้พร้อมรับนำไปขับเคลื่อน รวมถึงเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ เช่น การสร้างความเข้าใจให้ทั่วถึง การกำหนดให้มีผู้ที่รับผิดชอบที่ชัดเจน และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการปฏิบัติงานที่โปร่งใส  ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการยกดับความโปร่งใสของประเทศไทย ให้ได้รับการยอมรับในสายตาของนานาชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

ด้านพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า สตช. พร้อมดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 รวมถึงให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. เพื่อปฏิบัติงานให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ตามมาตรา 39 มาตรา 61 มาตรา 63 มาตรา 65 และมาตรา 66 โดยจะคำนึงถึงหน้าที่และอำนาจตลอดจนภารกิจ ความรับผิดชอบ ของพนักงานสอบสวน และสนับสนุนพนักงานสอบสวนในมิติต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ในอนาคตยังมีแนวทางที่จะเตรียมความพร้อมเชื่อมโยงข้อมูล  ที่เกี่ยวกับคดีการทุจริต รวมถึงร่วมการพัฒนาบุคลากร ร่วมพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานสอบสวน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เสริมสมรรถนะ และพัฒนาความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงประสานความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่ป.ป.ช. และสตช. เห็นชอบร่วมกันและสตช. พร้อมแสดงเจตนารมณ์ร่วมที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลง กับป.ป.ช. เรื่อง ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับด้านการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐของสถานีตำรวจนครบาล สตช.พร้อมรับนโยบายและพร้อมขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ 1.มอบหมายให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนและกำกับติดตามการประเมิน ผ่านการกำหนดให้เป็น “ประเด็นการตรวจราชการ” มีการส่งเสริม และกำกับติดตาม อย่างต่อเนื่อง

2.มอบหมายให้ กองบัญชาการตำรวจ นครบาล กำหนดผู้ที่รับผิดชอบที่ชัดเจนในการ “เป็นศูนย์กลาง” ในการประสานสถานีตำรวจนครบาล รวมถึงส่งเสริม และกำกับติดตามอย่างต่อเนื่อง

3.มอบหมายให้ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริม ให้คำแนะนำ สถานีตำรวจนครบาล ในด้านการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อเป็นช่องทางในการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานต่างๆ ของสถานีตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

4.มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ส่งเสริม สนับสนุน องค์ความรู้และให้คำแนะนำ สถานีตำรวจนครบาล ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ

5.มอบหมายให้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล รับนโยบายในการขับเคลื่อนการประเมินการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ของสถานีตำรวจนครบาล และให้มีการกำหนดผู้รับผิดชอบการประเมินที่ชัดเจน ทั้งในด้านของกระบวนการประเมิน และกระบวนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"