ศบค.ห่วงตัวเลขติดเชื้อตจว.พุ่งเฉพาะกทม.รอเตียง 868 คน เตรียม'กล่องรอดตาย'ส่งช่วยเหลือ


เพิ่มเพื่อน    


23 ก.ค.64- ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,575 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,490 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,889ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,601ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 1,072ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 467,707ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 7,775ราย หายป่วยสะสม 320,152ราย อยู่ระหว่างการรักษา 143,744ราย อาการหนัก 3,984 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 900 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 114 ราย เป็นชาย  61 ราย หญิง 53 ราย อยู่ ในกทม.มากที่สุด 49 ราย โดยผู้เสียชีวิตในวันนี้พบเสียชีวิตที่บ้าน 3 ราย เสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน 1 ราย และเสียชีวิตหลังจากตรวจพบเชื้อไม่เกิน 6 วัน 47 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 3,811 ราย ในส่วนของการฉีดวัคซีนวันที่ 22 ก.ค. 304,243 โดส ยอดสะสม 15,388,939 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 193,410,165 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,151,456 ราย


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขณะตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัดแรก กทม. 3,104 ราย สมุทรสาคร1,067 ราย สมุทรปราการ 837 ราย ชลบุรี 669 ราย ระยอง 516 ราย ปทุมธานี 511 รายพระนครศรีอยุธยา 359 ราย ฉะเชิงเทรา 352 ราย นนทบุรี 305 ราย และปัตตานี 290 ราย และถ้าดูข้อมูลการติดเชื้อในวันนี้จากเดิมที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกทม.และปริมณฑล ขณะนี้อัตราส่วนต่างจากเมื่อก่อน กทม.และปริมณฑลตัวเลขไม่ได้ลดลงมาก ส่วน71 จังหวัดที่เหลือมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และจากรายงานกรมควบคุมโรคระบุหลายจังหวัดทางภาคอีสานเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจาก กทม.และปริมณฑล อาทิ อุบลราชธานี สระบุรี ตาก ขอนแก่น อุตรดิตถ์ สระแก้วนครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์ สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ สตูล ขณะที่จังหวัดลำปางมาจากโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน และศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ยังได้รายงานด้วยว่า หลังมีการประกาศใช้ข้อกำหนดยังมีประชาชนเดินทางข้ามพื้นที่เกินแสนคน


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ได้พูดคุยถึงการดูแลผู้ติดเชื้อในกทม. ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 3,104 ราย ยังไม่รวมการตรวจด้วยวิธีแอนติเจนเทสต์คิท ที่มีผลบวกไปอีก 2,000 กว่าราย ใน 1-2 วันนี้กทม.จะรวบรวมตัวเลขการตรวจทั้งหมด เพื่อมารายงานให้เห็นภาพรวม และจะมีการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าแต่ละเขต แต่ละกลุ่มเขต สามารถไปตรวจเชื้อได้ที่ไหน และจากข้อมูลพบว่าการตรวจเชิงรุกในกทม. 10 ราย พบผู้ติดเชื้อ 11% และถ้ามีประวัติเป็นผู้สัมผัสจำนวนนี้จะมีผลยืนยันตามมาทีหลัง 15 % หรือถ้าเป็นผู้มีอาการทางเดินหายใจจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อได้ถึง 25% ตรงนี้เป็นสิ่งที่กทม.เน้นย้ำ สนับสนุนทุกท่านสำรวจตัวท่านเองและพยายามเข้าสู่ระบบการตรวจ เพื่อได้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็วที่สุด และในแง่ของการรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรอเตียงเพิ่ม 868 ราย โดยที่ผ่านมา กทม.ปิดเคสผู้ป่วยรอเตียงได้ทั้งสิ้น 121,457 ราย แน่นอนยังมีประชาชนที่ไม่เข้าสู่ระบบ แต่กระบวนการทำงานกำลังเร่งอย่างที่สุด ผู้อยู่ระหว่างรอการจัดสรรเตียง จะได้รับการจัดสรรโดยเร็ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีแดงถึง 40 ราย จะเร่งนำเข้าระบบโดยเร็วที่สุด ใน 1-2 วันนี้จะมีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ป่วยระดับสีใดอยู่ในพื้นที่ใด


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า หากดูปริมาณผู้ป่วยในกทม.พบว่า 70-80% เป็นผู้ป่วยสีเขียวอ่อนและเขียวเข้ม ขอทำความเข้าใจกับประชาชนเมื่อได้รับการยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ หากอาการอยู่ในระดับสีเขียวอาจจะไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แนวทางปฏิบัติในปัจจุบันเน้นให้ท่านดูแลตัวเองที่บ้าน ซึ่งท่านต้องประเมินตัวเองว่ามีอาการระดับไหน ระดับสีเขียวคือผู้ที่ยังมีอาการแข็งแรง ติดเชื้อจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว แต่ไม่มีอาการในระบบทางเดินหายใจ การศึกษาโฮมไอโซเลชั่นที่หน่วยงานดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ พบการแยกกักที่บ้านได้ผลดี โดยกรมการแพทย์รายงานว่าหากตรวจแล้วได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อสามารถขอเข้าโฮมไอโซเลชั่นได้ที่โรงพยาบาลที่ไปตรวจได้เลย เพราะโรงพยาบาลที่รับตรวจหลายโรงพยาบาลรับทำระบบนี้แล้ว แต่ถ้าตรวจที่แลปเอกชนหรือเอ็นจีโอที่รับตรวจแต่ไม่มีโรงพยาบาลรองรับ สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 1330 กด 14 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะมีการเพิ่มคู่สาย อีกทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  

"ก็จะจัดหมายเลขของสำนักงานเขตในกทม.ทั้ง 50 เขต เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเมื่อท่านเข้าระบบเหล่านี้แล้วจะมีคลินิกอบอุ่น 161 แห่ง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) 69 ศูนย์และโรงพยาบาลหลักจะดูแลให้เข้าระบบโฮมไอโซเลชั่น โดยจะได้รับกล่องรอดตายของ กทม.ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ อุปกรณ์ต่างๆให้ความช่วยเหลือ ซึ่งการเบิกจ่ายสปสช.เน้นย้ำว่าแม้รักษาตัวที่บ้านแต่สามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ รวมทั้งค่าเอ็กซเรย์ ค่ารถหากต้องส่งต่อไปโรงพยาบาล ค่าอาหาร 3 มื้อ ขณะนี้ระบบอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่มีข้อมูลมากพอสมควรที่จะให้ผู้ติดเชื้อในกทม.เข้าถึงการดูแลโดยเร็วที่สุด และหากใครมีประกันสังคมสามารถติดต่อไปได้ที่ 1506 กด 6 ได้ด้วย"


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในกรณีที่มีข้อจำกัด เช่น ในครอบครัวมีกันอยู่หลายคน ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ไม่มีสภาพบ้านที่พร้อมจะให้แยกกักที่บ้าน คอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น หรือการแยกกักในชุมชน หรือศูนย์พักคอย เป็นคำตอบที่ช่วยได้ ซึ่งตอนนี้มีคนเข้าระบบไปแล้ว 1,682 คน ในกทม. เปิดแล้ว 22 เขต โดยมีสถานที่ มีเตียง มีบุคลากร รอการกำหนดวันเปิดที่ชัดเจนอีก 14 เขต และอีก 14 เขตกำลังเตรียมสถานที่ ซึ่งจะมีสภากาชาดไทย ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ เข้ามาช่วยกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย เพราะศูนย์พักคอยนั้นจะเปิดรับประชาชนที่ติดเชื้อมีอาการระดับสีเขียว ไม่สะดวกที่จะกักตัวอยู่ที่บ้าน สามารถเข้ารับการดูแล โดยที่จะมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยง 25 โรงพยาบาล จะดูแลความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย โดยเป็นโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 สังกัด กรมการแพทย์ 3  โรงเรียนแพทย์ 4  เอกชน 7  ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในการระดมความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องสถานที่ การจัดการ บุคลากร มีความพยายามสูงสุดที่จะรองรับประชาชนที่ติดเชื้อรวมทั้งโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลที่จะรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีแดง ฝากย้ำประชาชนขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและดูจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน สื่อโทรทัศน์ สำนักข่าว ที่พยายามสรุปข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดเชื้อว่าจะสามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างไร ศบค. จะนำข้อมูลมาสรุปให้อย่างทันการที่สุด


"ขอฝากความเป็นห่วงด้วยว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวการเชิญชวนให้ผู้ติดเชื้อออกจากบ้านไปรวมตัวกันที่ใดที่หนึ่ง ขอเน้นย้ำว่าหากผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงที่อาการอาจทรุดลงได้ จึงขอให้อยู่บ้านและขอให้ติดต่อหมายเลขที่ระบุไว้ให้ ซึ่งศบค. จะพัฒนาระบบให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ทางกรมการแพทย์ ย้ำว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องพักปอด พักสุขภาพร่างกาย หากออกมานอกบ้านอาจจะมีความไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเองโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้มีโรคประจำตัว หรือน้ำหนักเกิน และที่สำคัญมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังชุมชนหรือบุคคลที่ได้ไปสัมผัสและพูดคุยด้วย ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลการวางแผนมาตรการเบื้องต้น ขอให้ประชาชน สื่อมวลชน กำกับติดตามมาตรการเหล่านี้ร่วมกัน อย่าถือว่าเป็นการจับผิด เพราะการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ศบค. เรายินดีรับฟังรายงานข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ การจัดการที่ไหนยังมีข้อบกพร่อง เรายินดีน้อมรับข้อเสนอแนะเหล่านั้น และขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาดูแลที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด"


ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการขยายโรงพยาบาลสนามมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันบุคลากรทางการแพทย์ทำงานมาอย่างหนักถึงขั้นขาดแคลนแล้ว ศบค. จะบริหารจัดการอย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ทุกคนมีความเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ และใน 1-2 วันนี้ จะมีการสรุปเรื่องโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลที่สามารถดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีแดง ซึ่งตอนนี้มีการปรับเปลี่ยนมากมายพอสมควร โรงพยาบาลบุษราคัมซึ่งเดิมเป็นสีเหลือง ตอนนี้มีการปรับเพื่อรับสีแดงเพิ่ม โรงพยาบาลสนามเดิมสีเขียว ตอนนี้ก็มีอุปกรณ์ บุคลากร สามารถที่จะพัฒนาขึ้นยกระดับเป็นโรงพยาบาลสนามสีเหลืองได้ จึงขอให้ติดตามข้อมูลที่จะนำเสนอโดยละเอียด ชัดเจนในเร็วๆนี้


พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ในแง่ของบุคลากรทางกระทรวงสาธารณสุขเองมีความเป็นห่วงเนื่องจากที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือบุคลากรจากต่างจังหวัดโยกมาช่วยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ขณะนี้หลายจังหวัดมีสถานการณ์ที่หนักขึ้น หลายพื้นที่ในต่างจังหวัดระบบเตียงเพิ่มสูงขึ้นถึง 70% แล้ว โดยเฉพาะในภาคอีสาน ดังนั้นบุคลากรจึงต้องโยกกลับไปดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ซึ่งในวันเดียวกันนี้ทางกรมการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย และภาคประชาสังคมต่างๆ จะประชุมหารือกันในเวลา 15.00 น. โดยหารือกันอย่างครบถ้วน ทั้ง โฮมไอโซเลชั่น คอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น รวมทั้งเตียงในระดับเหลืองแดงว่าจะมีการปรับอย่างไร อย่างไรก็ตามเมื่อมีสภากาชาด เราก็จะเห็นสัดส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นกลุ่มจิตอาสาที่จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมา และเมื่อบุคลากรทางการแพทย์ทุ่มเทอย่างเต็มที่แล้ว ก็ต้องขอฝากสื่อมวลชนประชาชน แม้วันนี้สภาพจิตใจทุกคนย่ำแย่ แต่ถ้าเรารวมกันสามารถที่จะพึ่งพาช่วยเหลือกันเป็นกระบอกเสียงซึ่งกันและกัน ก็เชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"