คสช.ชงบำเหน็จ2ขั้น ‘ครม.สัญจร’เตรียมอนุมัติสมนาคุณจนท.600นาย


เพิ่มเพื่อน    

  ประชุม ครม.สัญจรนครสวรรค์ ชงครม.ขอบำเหน็จ 2 ขั้นนอกเหนือโควตาปกติ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.ประจำปีงบประมาณได้อัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ช่วยงานทั้งหมด   เพื่อไทยเชื่อบิ๊กตู่ยกเลิกแช่แข็งนักการเมืองท้องถิ่น  แลกสนับสนุนพรรคฝ่าย คสช.

    ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 12 มิ.ย.นี้ มีรายงานว่าสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สลธ.คสช.)  เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติหลักการโควตาบำเหน็จประจำปี (2 ขั้น) นอกเหนือโควตาปกติ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 (1 ต.ค.60-30 ก.ย.61) ในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ที่ปฏิบัติงานใน คสช. จำนวน 19,987 นาย คือจำนวน 600 นาย โดยให้ใช้งบรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน และหากไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง ในลักษณะเดียวกับการเบิกจ่ายงบประมาณให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด 
    "หัวหน้า คสช.ได้เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ สลธ.คสช.เห็นว่าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ และมีผลการปฏิบัติงานเด่นชัด" แหล่งข่าวระบุ
    นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า สำหรับภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่จะเดินทางไปสหภาพยุโรป เยือนประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 19-26 มิ.ย. ในการนี้จึงได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกไป จากวันที่ 26 มิ.ย. เป็นวันที่ 27 มิ.ย.
    ขณะเดียวกัน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในช่วงวันอังคารที่ 12 มิ.ย. ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่เกิดขึ้นแล้ว 
    โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจจุดสถานีรถไฟชุมแสง ไปสถานีรถไฟนครสวรรค์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครสวรรค์ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2561 ระหว่างวันที่ 11- 12 มิถุนายนนี้
    นอกจากนี้ คณะของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟชุมแสง ไปยังสถานีรถไฟนครสวรรค์ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ) เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางและการขนส่งของประชาชน รวมทั้งตรวจสภาพการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ที่ประสบปัญหาด้านการบุกรุกพื้นที่ การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปยังสถานีรถไฟชุมแสง ก่อนตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (ลพบุรี-ปากน้ำโพ) จากนั้นจะ พบปะประชาชนที่หอประชุมบึงบอระเพ็ด ช่วงเย็น เยี่ยมชมตลาดประชารัฐ บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา
     ส่วนวันที่ 12 มิถุนายน ตั้งแต่เช้า จะมีการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เวลา 14.00 น. มีกำหนดเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา ในชุมชนบ้านแก่ง อำเภอเมืองนครสวรรค์ และปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมแปลงนาผลิตพันธุ์ข้าว บริษัท กล้าแกร่ง อำเภอเก้าเลี้ยว
    นายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดจุดรับเรื่องร้องเรียนระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ จ.พิจิตร และนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้ ว่าได้รับการประสานแจ้งว่าจะมีกลุ่มเกษตรกรจากกองทุนฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกรฯ เดินทางมายื่นข้อร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องหนี้สินและคัดค้านเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ และการทำเหมืองแร่ เป็นต้น
พท.เชื่อมีแผนแลกเปลี่ยนเลิกแช่แข็ง 
    ส่วนกรณีรัฐบาลมีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีทยอยคืนตำแหน่งให้กับนักการเมืองท้องถิ่น ที่ถูกตั้งข้อสังเกตทางการเมืองว่า เป็นเรื่องการเตรียมซื้อใจนักการเมืองท้องถิ่นเพื่อให้สนับสนุนรัฐบาลในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 
    เรื่องนี้ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยินดีกับนายก อบจ.ที่ถูกปล่อยตัวหลังถูกจับไปถ่วงน้ำเป็นปีๆ น่าสงสารที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต ถูกพักงานให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล สอบสวนแล้วไม่มีความผิดแต่อย่างใด ดังนั้น ถ้ามองในมุมกลับ คนที่ออกคำสั่งพักงานน่าจะมีความผิดเสียเองมากกว่าที่ทำให้เกิดการเสียหายหลายประการ โดยเฉพาะการที่นายก อบจ.ไม่ได้บริหาร อบจ. ตามอำนาจหน้าที่ ทั้งเสียเวลา ทั้งเสียชื่อเสียง น่าจะมีการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ออกคำสั่ง
    “นอกจากนี้ ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับผู้ที่จะถูกปล่อยตัวในล็อตสอง บางคนทราบแล้วว่าอยู่ล็อตไหนที่จะได้รับการปล่อยตัว นับเป็นตัวอย่างของการใช้อำนาจตาม ม.44 ที่มีข้อผิดพลาด เกิดความเสียหายอย่างมากมายตามมา ยกเว้นอาจจะมองว่า จับมาถ่วงน้ำแล้วปล่อยตัวใกล้ๆ จะเลือกตั้ง โดยมีเงื่อนไขสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตน ประเด็นนี้กำลังรอการพิสูจน์ในอนาคตอันใกล้" นายชวลิตกล่าว
    รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า ได้รับการสอบถามแทบทุกวัน ก็คือ อดีต ส.ส.คนนั้นคนนี้ถูกพลังดูดแล้วหรือไม่ ยิ่งใกล้เวลาจะมีประชุม ครม.สัญจร ผู้สื่อข่าวยิ่งหาข่าวอุตลุด ก็ได้แต่บอกว่าเป็นเรื่องของจิตใจ ว่าเขานึกถึงอะไร ถ้านึกถึงประชาชนที่เลือกเขามา เขาก็อยู่ ถ้านึกถึงเงินก้อนโตหรือประโยชน์อย่างอื่น เขาก็ไป ใครจะไป ก็ขออวยพรให้โชคดี แต่สงสารประเทศไทย สงสารประชาชนหากจะเป็นเช่นนั้น ถ้าไม่จริงก็ให้ปฏิเสธมา
นักวิชาการสวดงบกลาโหม 
    ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณปี พ.ศ.2562 และข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูประบบงบประมาณว่า เป็นการจัดทำงบประมาณที่มีขนาดรายจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นงบประมาณรายจ่ายสูงถึง 3.3 ล้านล้านบาท สะท้อนบทบาทของภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้นทางเศรษฐกิจ มีการทำขาดดุลงบประมาณสูงถึง 4.5 แสนล้านบาท ควรลดการขาดดุลลง เนื่องจากมีความจำเป็นน้อยลงในการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีความจำเป็นในการลดความเสี่ยงของวิกฤติฐานะการคลังในอนาคต ต้องมีการบริหารการชำระหนี้สาธารณะให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการชำระหนี้ในอนาคต จนกระทบสภาพคล่องในอนาคต รายจ่ายประจำยังคงเพิ่มขึ้น 4.7% ขณะที่รายจ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มเพียง 1% สะท้อนยังไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างงบประมาณแต่อย่างใด เพราะรายจ่ายเพื่อการลงทุนยังคงมีสัดส่วนเพียงแค่ 22% ซึ่งควรปรับโครงสร้างให้เพิ่มเป็น 30% ของงบประมาณรายจ่าย และต้องทำควบคู่กับการปฏิรูประบบราชการ 
 รัฐบาลและ สนช. 
    "ต้องไปแยกแยะให้ได้ว่าโครงการต่างๆ ที่ปรากฏในงบประมาณโครงการไหนมีความสำคัญ มีความจำเป็นต่อประเทศชาติและประชาชน โครงการไหนเกิดขึ้นตามแรงขับเคลื่อนของกลุ่มผลประโยชน์ทั้งนอกและในระบบราชการ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งหลายต้องประเมินให้ได้ว่าค่าใช้จ่ายเกินจริงเกินจำเป็นหรือไม่ เพราะมีหลายโครงการในอดีตประสบภาวะขาดทุนและเป็นภาระทางการคลังมาจนถึงทุกวันนี้"  นายอนุสรณ์กล่าว 
    คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวต่อว่า อาจลดการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มเติม หากการจัดทำงบประมาณคำนึงถึงผลลัพธ์ คือหน่วยงานที่ใช้จ่ายเงินต้องรายงานผลลัพธ์ของการทำงานของหน่วยงาน และการประเมินสัมฤทธิผล โดยมีตัวชี้วัด เช่น ผลลัพธ์ของเงินงบประมาณ 100 ล้านบาทที่จ่ายออกไปที่สามารถวัดได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ มีขนาดของงบกลางที่มากขึ้นอย่างชัดเจนสูงถึง 4.68 แสนล้านบาท และงบกลางมักไม่มีรายละเอียดรายการการใช้จ่าย ทำให้เงินสาธารณะอาจใช้จ่ายอย่างไม่มีประสิทธิภาพ รั่วไหลได้ง่าย หรือใช้ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หรือเป้าหมายได้ หากมีการใช้จ่ายงบก้อนนี้ ควรชี้แจงรายละเอียดต่อประชาชน และควรผ่านการพิจารณาโดยรัฐสภาหลังการเลือกตั้งด้วย การจัดทำงบประมาณที่ขาดการมีส่วนร่วมของผู้แทนประชาชนและประชาชน เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ทำให้ระบบการคานอำนาจและการตรวจสอบงบประมาณไม่เกิดขึ้น บทบาทในการกลั่นกรองและทักท้วงรัฐบาลในการจัดทำงบประมาณจึงขาดหายไป   
    นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลและ สนช.ต้องชี้แจงต่อสาธารณชนด้วยว่างบประมาณกลาโหม งบความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น 20-21% นั้น มีความจำเป็นอย่างไร ทั้งที่ภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงลดลงและไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะเกิดสงครามในภูมิภาคนี้ กองทัพได้รับการจัดสรรงบประมาณตลอดระยะเวลาสี่ปีของรัฐบาล คสช. ประมาณ 9 แสนล้านบาท ขณะที่ สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจในระดับสูงติดอันดับโลก แรงงานระดับล่างและเกษตรกรรายย่อยมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ มีสัดส่วนของหนี้สินต่อรายได้สูงมาก จึงควรจัดทำงบประมาณมุ่งเป้าหมายไปกลุ่มคนผู้มีรายได้น้อยและคนยากจนเพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดซื้ออาวุธจากต่างประเทศไม่ก่อให้เกิดผลผลิตใดๆ ในระบบเศรษฐกิจ และไม่ก่อให้เกิดสวัสดิการใดๆ ต่อประชาชน เพราะขณะที่งบประมาณทางด้านการศึกษา แม้นได้รับการจัดสรรสูงสุด แต่ได้รับงบประมาณลดลง 20,000 ล้านบาท ทั้งที่ประเทศมีความจำเป็นต้องลงทุนทางด้านทรัพยากรมนุษย์สูง เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ข้อเท็จจริงของประเทศก็คือ เด็กกว่า 40% ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เด็กไทย 1 ใน 5 ของเด็กก่อนวัยเรียน มีพัฒนาการต่ำกว่าวัย 2/3 ของครอบครัวไทยไม่สามารถมีเงินส่งลูกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ มีความไม่เสมอภาคทางการศึกษาระหว่างเมืองใหญ่กับชนบทสูงมาก ทรัพยากรมนุษย์ที่อ่อนแอย่อมไม่สามารถแบกรับภาระที่มากขึ้นของโครงสร้างสังคมผู้สูงอายุในอนาคตได้ดีนัก การปฏิรูปการศึกษาที่ล้มเหลวในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10-11% ของจีดีพี
    "ยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ในงบประมาณก็เป็นยุทธศาสตร์ที่คิดแบบราชการ ไม่ได้ผนวกเอาวิสัยทัศน์ระยะยาวเข้าไปด้วย เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ระดับปานกลาง แต่ยุทธศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นยุทธศาสตร์พื้นฐานเหมือนเช่นยุทธศาสตร์งบประมาณทุกปี ไม่มีอะไรใหม่ อาจไม่สามารถตอบสนองต่อพลวัตของเทคโนโลยีใหม่ที่พลิกผันระบบเศรษฐกิจ ระบบการผลิต ระบบการเงินและระบบการเมืองได้ดีนัก รวมทั้งยังติดกรอบคิดแบบราชการ" นายอนุสรณ์กล่าว.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"