เตือนปชช.ริมฝั่งโขง รับน้ำเขื่อนไซยะบุรี


เพิ่มเพื่อน    

 พายุดีเปรสชัน "เจิมปากา" ทำฝนตกหนัก  ส่งผลน้ำโขงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นฉับพลันเกือบ 2 เมตร เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนเฝ้าระวัง น้ำโขงหนองคายยังต่ำกว่าตลิ่ง 7 เมตร ด้านจังหวัดเลย นายอำเภอเชียงคานสั่งเตรียมรับน้ำโขงเอ่อท่วมฉับพลัน หลังสถานีอุทกวิทยาที่ 3 แจ้งเขื่อนไซยะบุรีระบายน้ำออกปริมาณมาก
    หลังจากพายุดีเปรสชัน "เจิมปากา" ซึ่งได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วง  2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดหนองคายได้รับผลกระทบ มีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. จนถึงวันที่ 25  ก.ค.ยังมีฝนตก ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยมวลเมฆที่พร้อมก่อตัวเป็นฝนได้ตลอดทั้งวัน
    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยระดับน้ำทำการวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ วันนี้ (25 ก.ค.) วัดได้ 5.04 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ในช่วงเช้า 1.49 เมตร ปริมาณฝน  9.8 มิลลิเมตร ระดับน้ำโขงต่ำกว่าตลิ่ง 7.16 เมตร โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นชั่วโมงละประมาณ 7-8  เซนติเมตร แนวโน้มในช่วง 2-3 วันนี้ ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จะไม่ล้นตลิ่ง
    เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำได้แจ้งให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจการในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณ 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างฉับพลันด้วย
    ส่วนที่จังหวัดอำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค. จากอิทธิพลพายุดีเปรสชัน “เจิมปากา” ได้หอบเอาลมฝนพัดเข้าสู่พื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ทำให้ฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วันเป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งจังหวัดอำนาจเจริญ ส่งผลดีแก่เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่นาติดลำห้วย ชลประทาน หรือมีบ่อน้ำสำรอง ซึ่งต้นข้าวจากที่เริ่มเหี่ยวแห้งก็กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้รับน้ำฝน แต่เกษตรกรซึ่งมีที่นาอยู่ไกลแหล่งน้ำ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลาหลายเดือน  ทำให้ต้นข้าวทั้งนาดำและนาหว่านยืนต้นแห้งตาย ต้องเกี่ยวให้วัวควายกินหมด เมื่อฝนตกลงมาครั้งนี้จึงต้องรีบหว่านพันธุ์ข้าวปลูกที่ยังพอเหลืออยู่ไม่มาก และมีบางคนต้องหาซื้อพันธุ์ข้าวใหม่จากเพื่อนบ้านมารีบหว่านให้ทันฝน และมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่ทำนาดำต้องตระเวนหาซื้อต้นข้าว ในราคามัดละ 100-200 บาทเพื่อปักดำใหม่ จะได้มีข้าวไว้ขายและเก็บไว้กินบางส่วน
    ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพถนนชยางกูร สายหลัก (อำนาจเจริญ-มุกดาหาร) ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พบว่าบริเวณกำแพงรั้วโรงเรียนอำนาจเจริญ ฝั่งสะพานลอยคนข้ามถนน ได้ถล่มพังเสียหายจากฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ทำให้เสาธงและผ้าประดับตามกำแพงรั้ว จมน้ำเสียหายบางส่วน และถือว่ายังโชคดีที่เป็นวันหยุด  โรงเรียนปิดการเรียนการสอนอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งวันนี้ (25 ก.ค.) เป็นวันสุดท้ายครบกำหนดสั่งปิดโรงเรียน ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
    ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไป ท้องฟ้ามีเมฆฝนปกคลุมมืดครึ้มทั่วทั้งจังหวัดอำนาจเจริญ และยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหนักเบาสลับกัน รถยนต์ทุกชนิดต้องเปิดไฟหน้า ตลอดเวลาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ไม่พบมีน้ำท่วมขังในจุดสำคัญๆ ซึ่งท่วมขังเป็นประจำทุกปี เช่น ถนนอรุณประเสริฐ  หน้า รพ.อำนาจเจริญ, สี่แยกไฟแดง (ดอนแดง) และถนนชยางกูร สายหลัก อำนาจเจริญ-มุกดาหาร ตลอดสาย ฯลฯ  เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี
    ด้านสถานการณ์แม่น้ำโขง ที่ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ มีน้ำไหลเข้ามาเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง ทำให้ อ.ชานุมานต้องประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงให้เฝ้าระวัง ฟังข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาตลอดเวลา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและอพยพขึ้นที่สูงทันที
    ด้านจังหวัดเลย นายอำเภอเชียงคานได้สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับน้ำโขงเอ่อท่วมฉับพลัน หลังสถานีอุทกวิทยาที่ 3  แจ้งว่าเขื่อนไซยะบุรี ประเทศลาว ระบายน้ำออกมาปริมาณมากเพื่อไม่ให้เกินความจุ ขณะที่บริเวณแก่งคุดคู้น้ำเริ่มเอ่อสูง ร้านค้าต่างขนของขึ้นที่สูงหมดแล้ว
    รายงานจากสถานีอุทกวิทยาที่ 3 เชียงคาน ระบุว่า  ขณะนี้เขื่อนไซยะบุรีที่สร้างอยู่ในเขต สปป.ลาวได้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนจำนวนมาก สืบเนื่องจากปริมาณน้ำมีความจุเกินที่ต้องเก็บกักไว้ และอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำโขง
    ล่าสุด ว่าที่ ร.ต.นครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน  เปิดเผยว่า ประเด็นปัญหาดังกล่าวอำเภอได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเมื่อเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าแม่น้ำโขงเขตอำเภอเชียงคานมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 9.75 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 7 เมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 8 เซนติเมตร/ชั่วโมง
    จากสถานการณ์ดังกล่าวน่าเชื่อว่า เขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาวยังคงเก็บกักน้ำไว้ และปล่อยออกมาในปริมาณไม่มากนัก ซึ่งยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้ประกาศแจ้งข่าวให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน คือต้องไม่ประมาท หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างไรอำเภอจะรายงานให้ทราบโดยเร่งด่วน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"