พิษพายุเจิมปากา 8จว.อ่วมน้ำทะลัก


เพิ่มเพื่อน    

พิษพายุดีเปรสชันเจิมปากา แม่สอดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนดินยุบตัว ทางเดินเท้าริมลำห้วยแม่สอด หลัง รร.วัดมณีไพรสณฑ์แตกร้าว ทรุดตัว หวั่นเกิดอันตราย คนเดินไป-มา กรมป้องกันสาธารณภัยรายงานมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก ลมกระโชกแรง และดินสไลด์ รวม 8 จังหวัด


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่พายุฝนได้กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนวันที่ 25 ก.ค.2564 มาจนถึงตอนเช้าวันที่ 26 ก.ค. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำห้วยแม่สอดเพิ่มสูงขึ้นและไหลรุนแรงเข้าท่วมหลายพื้นที่     ทางด้านเทศบาลนครแม่สอดได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาภัย (ดับเพลิง)-เจ้าหน้าที่กองช่าง กองช่างสุขาภิบาล เตรียมความพร้อมเข้าดำเนินการทันทีที่ประชาชนชาวชุมชนร้องขอความช่วยเหลือหากเกิดน้ำท่วม ตามท้องถนน ท่อระบายน้ำอุดตัน ฯลฯ หรือน้ำล้นลำห้วย
    นอกจากนี้ยังทำให้ดินทรุดตัว ส่งผลทำให้ทางเดินเท้าริมลำห้วยแม่สอด บริเวณเส้นทางหลังโรงเรียนเทศบาลวัดมณีไพรสณฑ์ เทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ทรุดตัว-แตกร้าว เป็นทางยาว ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายกับประชาชนชาวชุมชนที่ใช้เส้นทางเดินทางเท้าบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างชุมชนมณีไพรสณฑ์กับชุมชนปู่แดง ชาวชุมชนในเขตเทศบาลนครแม่สอดจึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้เร่งดำเนินการซ่อม แซม แก้ไขเป็นการด่วน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายในระหว่างสัญจรไปมา
    และที่บริเวณริมแม่น้ำเมยชายแดนไทย-เมียนมา งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาลตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบระดับลำน้ำเมย ในบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 จากการตรวจสอบระดับแม่น้ำเมย ระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง -1.2 เมตร จะถึงระดับตลิ่ง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง  
    ส่วนที่ อ.แม่ระมาด นายเลิศศักดิ์ ทับผึ้ง นายอำเภอแม่ระมาด จ.ตาก แจ้งว่าพื้นที่อำเภอแม่ระมาดเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่การเกษตรไร่-นา ผลิตผลทางการเกษตรเสียหายหนัก รวมไปถึงถนนสาธารณะสายต่างๆ และบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะใน ตำบลขะเนจื้อ ตำบลแม่ระมาด อ.แม่ระมาด ล่าสุดฝ่ายปกครองอำเภอแม่ระมาดร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35, ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 345 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ-อส. ร่วมช่วยเหลือราษฎรเบื้องต้นแล้ว
    ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย เพิ่มขึ้นวันเดียวเกือบ 2 เมตร เหตุฝนตกหนักทางตอนบนทั้งไทยและลาว แต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง โดยทำการวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ วัดได้ 6.95 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ในช่วงเวลาเดียวกัน 1.91 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 5.25 เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน เนื่องจากน้ำโขงจาก อ.เชียงคาน จ.เลย เพิ่มขึ้น และไหลมาสมทบกับแม่น้ำโขงช่วงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ประกอบกับทางตอนบนของไทยและตอนบนของประเทศลาวมีฝนตกหนักจากพายุโซนร้อนเจิมปากา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ไหลลงแม่น้ำโขงมากขึ้น ซึ่งระดับน้ำโขงยังจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอีกในวันที่ 27 ก.ค. ประมาณ 40 เซนติเมตร หรือต่ำกว่านั้นขึ้นกับปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบน รวมถึงน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงที่ไหลลงมาสมทบด้วย
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์พายุดีเปรสชัน “เจิมปากา” ที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยในห้วงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน (26 ก.ค.64 เวลา 06.00 น.)
    มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก ลมกระโชกแรง และดินสไลด์ รวม 8 จังหวัด 10 อำเภอ 15 ตำบล 35 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 77 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน รวม 1 อำเภอ 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย กาฬสินธุ์ และยโสธร รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และตราด รวม 4 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 60 ครัวเรือน ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี รวม 2 อำเภอ 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 12 ครัวเรือน
    ส่วนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ภัยใน 2 จังหวัด แยกเป็น เกิดน้ำไหลหลากท่วมถนนในพื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลบุ่งค้า อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร และเกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม และอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 22 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"