ขู่ฟันแก๊งจัดฉากชักดิ้นข้างถนน


เพิ่มเพื่อน    

"ทิพานัน" แจ้งตรวจสอบแก๊งรับจ้างจัดฉากแกล้งตายบนถนน สร้างความตื่นตระหนกให้ ปชช. จี้เอาผิดถึงผู้อยู่เบื้องหลัง "ตร." พบพิรุธหลายคลิปหน้าตารูปร่างคล้ายกัน เร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริง ลั่นหากผิดจริงฟันไม่เลี้ยง "ดีอีเอส" ไฟเขียวตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพิ่มประสิทธิภาพปราบเฟกนิวส์ "วิษณุ" เผยรัฐบาลได้ยินเสียงร้องสื่อผวาโดนคุกคาม สั่ง จนท.ระวังการบังคับใช้ กม.  
    เมื่อวันที่ 29 ก.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอคนเสียชีวิตบนท้องถนนเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ว่า เมื่อได้ประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง พบบางกรณีน่าสงสัยเป็นการรับจ้างไปนอนล้มในสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพและส่งคลิป ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม ซ้ำเติมวิกฤติ ทำลายขวัญและกำลังใจของประชาชน เพิ่มภาระแก่เจ้าหน้าที่และเสียเวลาช่วยชีวิตผู้ป่วยที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงต้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ คือ ผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้าง และผู้นำเข้าในหลายข้อหา
    “กลุ่มขบวนการเด็กเลี้ยงแกะที่สร้างภาพ สร้างสถานการณ์นั้น ขอให้คำนึงถึงความเป็นคน เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะในสถานการณ์วิกฤติโควิดแบบนี้ ทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลือ หากเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลากับการตรวจสอบเรื่องโกหกหรือข่าวปลอม หลายชีวิตอาจจะได้รับการช่วยเหลือไม่ทันเวลา ได้โปรดเห็นแก่ชีวิตมนุษย์” น.ส.ทิพานันกล่าว
    ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตในหลายคลิปนั้นแต่งกายเหมือนกัน และมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกส่งต่อข้อมูลหรือแชร์ไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงสถานการณ์ฉุกเฉินและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว รวมถึงตัวผู้ที่เกี่ยวของทุกราย หากพบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายต่อไป
    "การกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง" รองโฆษก ตร.กล่าว
    วันเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 4/2564
    นายชัยวุฒิกล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยครอบคลุมด้านการปกครอง ภาษี และสังคมอีกด้วย โดยคณะทำงานชุดนี้จะมีหน้าที่จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ในการทำมาตรการทางปกครอง มาตรการทางภาษีและมาตรการสังคมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์ อีกทั้งสนับสนุนการทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว และมีการประสานกับศูนย์ต่อต้านประจำแต่ละกระทรวงอย่างใกล้ชิด
    "ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2564 มีคำสั่งศาลให้ระงับข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมแล้ว 8 คำสั่ง รวม 94 ยูอาร์แอล อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาล 8 คำร้อง รวม 145 ยูอาร์แอล และมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้กระทำความผิดนำเข้าข้อมูลไม่เหมาะสม รวม 54 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ ส่วนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตรวจสอบการกระทำความผิด และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง 35 ยูอาร์แอล" รมวดีอีเอสระบุ
    ส่วน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทยตรวจพบข่าวปลอมอีก 2 กรณี คือ 1.นายกฯ เปลี่ยนแผนงด walk in สถานีกลางบางซื่อ ให้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านแอปวัคซีนบางซื่อเท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ 2.ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 3 ราย ถูกทหารปล่อยทิ้งกลางทาง เนื่องจากปลายทางมีระยะไกล ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกองบัญชาการกองทัพไทย พบเป็นข้อมูลบิดเบือน
    ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีองค์กรสื่อออกมาคัดค้านข้อกำหนด ศบค. ที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 เรื่องมาตรการเพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า สิ่งที่สมาคมสื่อออกมาเรียกร้องถือเป็นสิทธิ รัฐบาลรับฟังและระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้มีการเตือนให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"