บี้'คิม'ปลดนิวเคลียร์ ทรัมป์ประกันความมั่นคง ลุ้นซัมมิตประวัติศาสตร์!


เพิ่มเพื่อน    

    โลกเฝ้ารอซัมมิตประวัติศาสตร์ระหว่าง "ทรัมป์-คิม" วันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศไมค์สหรัฐแย้ม ทรัมป์จะให้การรับประกันความมั่นคงแบบพิเศษต่อคิม แต่เกาหลีเหนือต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิงเท่านั้น อีกด้านทำเนียบขาวเผย ทรัมป์จะเดินทางออกจากสิงคโปร์ทันทีค่ำวันอังคาร โดยจะมีเวลาคุยกับคิมที่สิงคโปร์เพียง 11 ชั่วโมง อ้างการเตรียมการคืบเร็วกว่าที่คาดการณ์
    การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเป็นการพบหน้ากันโดยตรงครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังดำรงตำแหน่ง กับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครกล้าคาดคิดเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คณะของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กับคณะของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เดินทางมาถึงสิงคโปร์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2561 เพื่อเตรียมการสำหรับซัมมิตที่เกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ ในวันอังคารที่ 12 มิถุนายนนี้ เมื่อวันจันทร์คณะทำงานของทั้ง 2 ฝ่ายได้ประชุมหารือเตรียมการอย่างขะมักเขม้น
    ซัมมิตระหว่างผู้นำของ 2 ชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือมุ่งหวังมาช้านาน จะเน้นเจรจากันในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือใช้เวลาพัฒนามายาวนานหลายสิบปี 
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างคำกล่าวของไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะยอมรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิงเท่านั้น เพื่อแลกกับข้อเสนอคำรับประกันที่ "พิเศษและแตกต่าง" ซึ่งจะให้ความมั่นใจแก่เกาหลีเหนือเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาสบายใจได้ว่า พวกเขาจะไม่พบจุดจบที่เลวร้ายจากการปลดอาวุธนิวเคลียร์
    ปอมเปโอไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่รายงานกล่าวว่า ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือเรียกร้องให้ยุติการคงกำลังทางทหารในเกาหลีใต้ ซึ่งสหรัฐมีทหารประมาณ 28,000 นายประจำการเพื่อคุ้มครองเกาหลีใต้ไม่ให้โดนเพื่อนบ้านตอนเหนือของคาบสมุทรรุกราน
    รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐยุติ "นโยบายปรปักษ์" กับตน แม้การให้คำมั่นต่อสาธารณะพวกเขาจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่สามารถตีความได้หลากหลาย แต่ในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ ปอมเปโอย้ำว่า สหรัฐอยากจะดูว่าคำมั่นสัญญาของเกาหลีเหนือนั้นมี "ความจริงใจ" เพราะว่าสหรัฐเคยโดนหลอกมาก่อน หัวใจสำคัญคือการตรวจพิสูจน์ความจริง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีการลงนามข้อตกลงหลายฉบับ แต่ลงท้ายเกาหลีเหนือก็ผิดคำสัญญา
    ทรัมป์ได้โทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้แล้วตั้งแต่วันจันทร์ โดยทั้งคู่คุยกันนาน 40 นาที รัฐบาลเกาหลีใต้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด 
    เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวกันว่า ทรัมป์กับคิมจะพบกันตัวต่อตัวเป็นการภายในก่อน จากนั้นจะประชุมโดยมีที่ปรึกษาเข้าร่วมด้วย เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวรายหนึ่งเผยว่าทรัมป์รู้สึกดี และซัมมิตครั้งนี้จะไม่กำหนดเวลา "พวกเขาจะคุยกันนานเท่าที่พวกเขาต้องการ" ขณะที่ปอมเปโอแย้มว่า ทั้ง 2 ฝ่ายอาจจะหารือกันเพิ่มเติมอีก และการประชุมในวันอังคารจะเป็นกรอบการทำงานสำหรับงานหนักที่จะตามมา 
    อย่างไรก็ดี ในช่วงค่ำวันจันทร์ตามเวลาไทย ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่าทรัมป์จะเดินทางออกจากสิงคโปร์ทันทีในวันอังคาร เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสิงคโปร์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดกับคิม เหตุผลเนื่องจากการเจรจาเตรียมการระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายที่กำลังดำเนินอยู่ในวันจันทร์นั้นคืบหน้าเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะทำให้ทรัมป์เดินทางกลับสหรัฐเร็วกว่ากำหนด 1 วัน และหมายความว่าผู้นำทั้ง 2 ฝ่าย จะมีเวลาสำหรับการเจรจากันโดยตรงประมาณ 11 ชั่วโมง
    "ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ จะพบกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เช้าวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น." คำแถลงกล่าว และเสริมว่า หลังจากทักทายกันแล้ว ทรัมป์และคิมจะพบเจรจากันตัวต่อตัวโดยมีเพียงล่ามเท่านั้น จากนั้นจะเป็นการประชุมทวิภาคีในวงกว้างขึ้น และการสนทนาระหว่างอาหารเที่ยง
    ทางฝั่งเกาหลีเหนือ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานเมื่อวันจันทร์ โดยกล่าวถึงซัมมิตนี้ว่าเป็นซัมมิต "ประวัติศาสตร์" ที่จะเกิดขึ้นในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และได้รับความสนใจและการคาดหวังอย่างยิ่งจากคนทั้งโลก
    เคซีเอ็นเอกล่าวว่า คิมจะแลกเปลี่ยนทัศนะมุมมองอันล้ำลึกและกว้างไกลของเขาในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสร้างกลไกรักษาสันติภาพที่ถาวรและยั่งยืนนานบนคาบสมุทรเกาหลี และทำให้การปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นความจริง
    เอเอฟพีกล่าวด้วยว่า รายงานของสื่อทางการเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ใช้คำเรียกขานประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐอย่างเป็นทางการด้วยชื่อเต็ม อันรวมถึงชื่อกลางของทรัมป์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก
    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คิม โยจอง น้องสาวของคิม ซึ่งเคยติดตามเขามาร่วมการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีมุนแห่งเกาหลีใต้ด้วย ก็อยู่ในสิงคโปร์แล้วเช่นกัน โดยเชื่อกันว่าเธอแยกเดินทางมาด้วยเครื่องบินอิลยูชิน-62 ที่ผลิตสมัยสหภาพโซเวียต และเป็นเครื่องบินส่วนตัวของพี่ชาย ในขณะที่คิมนั้นเดินทางมาสิงคโปร์ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินแอร์ไชน่า ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับการอนุเคราะห์จากรัฐบาลจีน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"