เจาะลึกตลาดแรงงานครึ่งปีแรก 


เพิ่มเพื่อน    

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ทำให้เกิดนวัตกรรมและส่งผลให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ตลอดจนปัญหาระบบการศึกษา ที่ไม่สามารถผลิตคนได้ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับตลาดแรงงานเป็นวงกว้างอีกด้วย  
     สำหรับข้อมูลในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ของจ๊อบไทย (JobThai) พบว่า มีผู้ต้องการหางาน สมัครงาน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2563 โดยมีผู้ใช้งานสะสมมากกว่า 13 ล้านคน เติบโตขึ้น 17% และมีการสมัครงาน 9.6 ล้านครั้ง เติบโตขึ้น 8% ด้านองค์กรมีการเปิดรับพนักงานรวมทั้งหมด  772,145 อัตรา เพิ่มขึ้น 13.70% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหลายองค์กรมีการเปิดรับบุคลากร โดยสามารถทำงานจากที่บ้านหรือทำงานทางไกล  11,036 อัตรา เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3-4 ของปี 2563 ประมาณ 18.70%  โดยองค์กรยังมีมาตรการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเปลี่ยนมาสัมภาษณ์งานทางออนไลน์มากถึง 78,101 อัตรา เพิ่มขึ้นจากไตรมาส  3-4 ปี 2563 ถึง 208.10% 
     ส่วนความต้องการแรงงานและความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 พบว่า 5 ประเภทธุรกิจมีความต้องการแรงงานมากที่สุด ได้แก่ 1.ธุรกิจอาหาร 2.ธุรกิจยานยนต์/ชิ้นส่วนยานยนต์ 3.ธุรกิจบริการ 4.ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง และ 5.ธุรกิจขายปลีก ขณะสายงานที่มีการเปิดรับมากที่สุดนั้นจะเป็นงานขาย, งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ, งานช่างเทคนิค/อิเล็กทรอนิกส์,  งานธุรการ/จัดซื้อ และงานวิศวกรตามลำดับ 
    ส่วนสายงานไอทีที่มีการเปิดรับมากที่สุดจะเป็นโปรแกรมเมอร์, ไอทีแอดมิน, เน็ตเวิร์กแอดมิน, เทคนิคซัพพอร์ต รวมถึงวิศวกรคอมพิวเตอร์ และนักทดสอบซอฟต์แวร์ โดยยังมีอาชีพงานไอทีที่น่าจับตามองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์, นักพัฒนาบล็อกเชน, นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, นักพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์  
    นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai) ให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปีจะมีนักศึกษาจบใหม่เข้ามาในตลาดแรงงาน ซึ่งในปีนี้นักศึกษาจบใหม่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด-19 โดยในจ๊อบไทยมีบัญชีผู้ใช้งานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ 178,399 คน คิดเป็น  17.14% ของจำนวนผู้สมัครงานทั้งหมดในแพลตฟอร์ม  
    ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือการบิน  ล้วนได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรง ทำให้องค์กรต่างๆ ไม่มีการจ้างงานในสายนี้เพิ่มมากนัก นักศึกษาจบใหม่ในสาขานี้จึงได้รับผลกระทบไปด้วย โดยข้อมูลจากกลุ่มบนเฟซบุ๊ก  “Job Thai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน” ซึ่งมีสมาชิกภายในกลุ่มกว่า 200,000 คน  พบว่าประเด็นพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาของเด็กจบใหม่ในสาขาดังกล่าวมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหางานด้านท่องเที่ยวหรือโรงแรมที่ยากขึ้น  ทำให้ว่างงานนานขึ้น ส่วนคนที่ทำงานด้านท่องเที่ยวหรือโรงแรม เช่น  ไกด์, พนักงานในโรงแรม, พนักงานบริษัททัวร์ ก็ถูกลดเงินเดือน ให้ลาโดยไม่รับค่าจ้าง ตลอดจนถูกปลด เนื่องจากบริษัทต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวหรือถาวร และต้องหางานข้ามสายที่เรียนมาซึ่งต้องแข่งขันกับคนที่จบมาตรงสาย 
    ในสถานการณ์นี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักศึกษาจบใหม่ในธุรกิจท่องเที่ยว  โรงแรม การบิน ต้องเพิ่มโอกาสในการหางานจนกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัว โดยต้องนำทักษะที่มีไปต่อยอดใช้กับสายงานอื่น อย่างคนที่มีทักษะความสามารถทางภาษาอาจมองหาโอกาสในสายงานดูแลลูกค้าหรือบริการในธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบมาก หรืองาน Account Executive ในเอเยนซี ซึ่งเป็นการใช้จุดแข็งทางด้านภาษาและการสื่อสารที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มคอร์สเรียนเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ก็จะทำให้โปรไฟล์เข้าตา HR มากขึ้นได้ หรืออาชีพเสริมอื่นๆ เช่น ติวเตอร์สอนภาษา เนื่องจากช่วงนี้นักเรียนต้องเรียนออนไลน์ ก็อาจเป็นโอกาสในการได้งานทำก็ได้เช่นกัน 
    แน่นอนว่าคนทำงานทุกคนต้องปรับตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อยู่เสมอ โดยต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา และพร้อมนำความรู้ต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.  

รุ่งนภา สารพิน  
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"