กรณี นายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม คุณพ่อของ ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม  ดารานักแสดง ถูกหนุ่มคู่กรณีทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยและยังตบหน้าแม่ของ ไวท์ ณวัชร์ หลังเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเฉี่ยวชนกัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

          ต่อมานายสุรศักดิ์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี พบว่าคู่กรณีเคยก่อเหตุไว้หลายคดี อีกทั้งยังส่งข้อความข่มขู่ไวท์ ณวัชร์ว่าเป็นดาราโง่ รายการโหนกระแส ที่มี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 จึงได้สัมภาษณ์ ไวท์ ณวัชร์ ที่มาพร้อมคุณพ่อคุณแม่

ไวท์เครียดมาก?

ไวท์ : ตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตัวเองครับ

เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

สุรศักดิ์ : วันนั้นวันที่ 30 มาจากรังสิตไปทำธุระแถวนั้น แล้วกลับมาเส้นนั้น พอเข้าปั๊มน้ำมัน ก็ไปซื้อเคเอฟซี วนออกมาทางออกของปั๊ม รถคู่กรณีจอดเรียงกัน เขาหันหัวออก ผมวิ่งตรง ผมกับเขาไม่ได้บีบแตรใส่กัน สักพักผมขับไปถนนใหญ่ พอถึงทางลงพระรามห้า ผมมองกระจกหลัง เขาบี้ท้ายมาติดตูดเลย เขาไล่บี้ผม ผมก็ขับหนีเขา จนก่อนลงอุโมงค์พระรามห้า ผมเบรกให้เขาไปเหมือนในคลิป แล้วลอดอุโมงมาแล้วก็ปล่อยให้เขาไป ผมก็ตามมา เขานำไปแล้ว แต่ไปเบรกรอข้างหน้าเพื่อหาเรื่องผมอีกที เขาเบรกให้ผมชนท้ายแล้วก็เกิดเรื่องกัน เขาก็วิ่งมาจัดการผมเลยครับ

 

 

ภาพจากกล้องพลเมืองดี เขาขับไปแล้ว พ่อขับตามเขาไหม?

สุรศักดิ์ : ไม่ตามครับ ผมปล่อยให้เขาไปแล้ว

ไม่ได้จะตามไปหาเรื่องเขา?

สุรศักดิ์ : ไม่ครับ

เขาจอดให้พ่อชน?

สุรศักดิ์ : เขาไปชะลอผมก็ตบเข้าซ้ายเพื่อให้เขาไป ผมก็จะวิ่งอยู่ซ้ายสุด เขาตบจากขวาสุดมาหาผมและเบรกให้ผมชนท้าย ผมก็ชนไปทีนึงแต่ไม่แรง เขาวิ่งมาเร็วมากแล้วมาทำร้ายร่างกายผม

เขาทำอะไร?

สุรศักดิ์ : เขาวิ่งมาก็เหมือนเอาอะไรตีผม โดนอะไรแข็งๆ ผมก็ผลักหน้าอกเขา เขาวิ่งมาต่อยผม ผมก็ป้องกันตัว จนผมต่อยเขา เขามีเลือดออกตรงคิ้ว ผมเห็นเขาเลือดออกก็ถอยหลังไป แฟนผมก็ห้าม เขาก็โวยวายกระทืบรถผม ถีบรถผม ถีบบนหลังคา บนหลังคามีรอยตีนอยู่ เขาลงมาเร็วมาก วิ่งมาไม่คิดชีวิต ใส่ผมเลย

แม่นั่งอยู่ด้วยเห็นเหตุการณ์ตลอด?

นฤมล : ตอนที่ปะป๊าลงไป หม่าม๊ายังอยู่ในรถกับลูกน้อง ทีนี้ลูกน้องบอกว่าพี่หญิง เฮียโดนต่อยแล้วไปห้ามกันเถอะ หม่าม๊าก็ลงไป พอลงไปก็ห้ามว่าน้อง ไม่รู้แฟนพี่ทำอะไรให้น้องโมโห พี่ขอโทษแล้วกัน อย่ามีเรื่องมีราวเลย สถานการณ์บ้านเมืองก็ไม่ดี อีกอย่างพี่ก็ไม่อยากมีเรื่อง เขาก็ไม่ฟัง แล้วคู่กรณีไม่ใส่แมสก์ด้วยตอนลงมา ก็ไปกันปะป๊าออกมา เหมือนเขาทำปะป๊าไม่ได้ เขาก็ไปเอากระเป๋าหม่าม๊าเขวี้ยงลงไปข้างล่าง ม๊าก็กันปะป๊าไม่ให้ออกมา  (เสื้อขาวคือใคร?) พลเมืองดีมาช่วย แล้วเขาก็ตบหน้าแม่ค่ะ ปะป๊าจะเข้ามาก็บอกว่าไม่เป็นไร พอแล้ว

 

 

เขามากับใคร?

นฤมล : ผู้หญิง แฟนเขาค่ะ  สุรศักดิ์ : ผู้หญิงคนนี้ห้ามตลอดเลย   นฤมล : เขาก็วิ่งหนี เขากลัว สุรศักดิ์ : แล้วก็บอกว่าพี่ช่วยหนูด้วย ให้ช่วยห้ามเขาหน่อย ขนาดมาด้วยกัน เขาวิ่งไปตามพลเมืองดีมาช่วย

แต่สุดท้ายแม่ถูกตบเอง แล้วเอาของในรถปาทิ้งหมด ในระหว่างนั้นเขาโวยวายพูดอะไรบ้าง?

สุรศักดิ์ : เขาท้าทายจะให้ผมออกไปหาเรื่องกับเขาให้ได้ แต่ผมเห็นเขาเลือดไหลแล้ว ก็บอกว่าน้องพอแล้ว น้องเลือดไหลแล้ว พี่ไม่เอาแล้ว แล้วเขาก็ตบหน้าเมียผมอีกที ผมจะออกไปเพราะสงสารเมีย

เห็นว่าเขาถืออาวุธมาด้วย?

ไวท์ : ไวท์ได้เบอร์พยานมา ก็เลยโทรหา เขาบอกว่าที่เกิดเหตุมีค้อนด้วยหรือเปล่า ผมบอกว่ามี เหมือนพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ถามว่าค้อนใคร เหมือนพยานบอกว่าใช่ครับ คู่กรณีหยิบค้อนมาฟาดที่หัวพ่อผม เขาเห็นเลยครับ

แสดงว่าที่พ่อรู้สึกว่ามีของแข็งตีที่หัว แต่พ่อไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่พยานเห็นว่าเป็นค้อน?

ไวท์ : ใช่ครับ

ในคลิปเห็นไม่ชัดว่ามีค้อน แต่มีพยานยืนยันกับทางไวท์ว่าเขามีค้อนลงมา แต่ที่เขาตบแม่ อันนี้ชัด แล้วมีพยานยืนยันอีกหลายคน?

สุรศักดิ์ : ใช่ครับ

วันนั้นจบยังไง?

สุรศักดิ์ : พอเขาทำร้ายร่างกาย แฟนผมเสร็จ เอากระเป๋าทิ้ง บิดเอากุญแจรถผมออกมา แล้วแกว่งที่หน้า ผมบอกว่าถ้าเอากุญแจผมไป ผมแจ้งความนะ มันบอกไปแจ้งเลย ไม่กลัวหรอกตร. แล้วเขาก็เอากุญแจผมเขวี้ยงลงสะพาน กุญแจแตกกระจุยเลย มีพลเมืองดีลงไปเอามาให้ เสร็จปั๊บแฟนเขาวิ่งร้องไห้มาจากด้านหลัง แฟนผมเลยบอกว่าพาแฟนน้องไปเถอะ เขาก็ขึ้นรถกันไป ผมคิดว่าเขาจะไป มีคนยืนอยู่หน้ารถผมหลายคน เขาถอยรถมาชนหน้ารถผม แล้วรถกระเด็นไปโดนลูกน้องผมเจ็บ พอชนเสร็จเขาก็ขับรถหนีเลย ผมมีพยานเห็นด้วย

 

 

แจ้งความแล้ว?

สุรศักดิ์ : แจ้งแล้วครับ ตร.นัดผมบ่ายนี้ไปให้ปากคำครับ ที่สน.บางกรวย

          ทีมงานประสานไปทางคู่กรณีที่มาตบคุณแม่ ทำร้ายคุณพ่อ สิ่งที่เขาตอบกลับมา เขาไม่คุยกับใครทั้งนั้น จะคุยแต่กับตร. ทนาย ที่ศาล อัยการ เขาบอกมึงไม่เกี่ยว เขาพูดคำนี้ออกมา ก็ขออนุญาต ถ้าดูอยู่รบกวนติดต่อมาก็ได้ เพื่อความเป็นธรรมของคุณเอง หลังจากมีการพูดคุยสืบประวัติ มีคนส่งข้อมูลมาเยอะมาก บอกว่าชายคนนี้ไม่ได้ก่อเหตุครั้งแรก

          แต่หลังจากที่คุณไวท์โพสต์ มีชายคนนึงบอกว่าเล่าเข้าข้างตัวเอง ไม่ตุ๊ดกว่าเหรอวะ พ่อแม่มึงก็ใช่ย่อยเอากุญแจมาทิ่มหน้ากู ปาดหน้าเบรกให้กูชน แล้วพ่อมึงก็ขับจะชนคนอื่นอีก 10 คัน พอกูทำกลับเสือกร้องเป็นหมา ที่กูซัดหน้ามัน ไม่ต้องคุยแล้ว ขับรถกันแบบนี้ พ่อเอากุญแจรถไปทิ่มหน้าเขาเหรอ?

สุรศักดิ์ : ไม่มีครับ ลงไปมีแต่มือเปล่า

พ่อไม่ได้มีกุญแจอื่น?

สุรศักดิ์ : ไม่มีครับ แต่ผมมีใส่แหวนวงนึงวันนั้น

เหตุการณ์ในวันนั้น จริงๆ เราพยายามพูดคุยด้วยดีมั้ย หรือเขาไม่ฟังอะไรเลย?

สุรศักดิ์ : พอเขาเบรกให้ผมชนท้าย เขาก็ลงมาทำร้ายร่างกายผมเลย ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมมีลดกระจกลงมาก่อนเกิดเหตุ ผมตะโกนหาเขาว่าคุณทำแบบนี้ทำไม เท่านั้นแหละเขาปาดแล้วเบรกให้ผมชนท้าย พอชนท้ายเขาก็วิ่งมาทำร้ายร่างกายผม และเกิดการต่อสู้กัน ผมป้องกันตัว

 

 

เขาโดนต่อยเหมือนกัน?

ทนาย : ผมให้ความยุติธรรม เขาสมัครใจวิวาท แต่แม่เขาไม่เกี่ยวข้อง เขามาห้ามเหตุ ไปตบเขา แล้วพฤติกรรมเดิมกับที่ทำร้ายน้องร้านไอโฟน ไหนสัญญาว่าจะหยุด ไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ ฟังจากคลิปข่าวเดิมเขาบอกว่าอย่าเลียนแบบเขา ถ้ารู้ว่าตัวเองควบคุมสติไม่ได้ ผู้ปกครองควรพาไปรักษาตามสิทธิ์ผู้ป่วยนะ แต่การกระทำนี้จะอ้างว่าตัวเองป่วยไม่ได้ เพราะตอนกระทำมีสติสัมปชัญญะ พูดคุยรู้เรื่อง ตรงนี้ให้กระบวนการทางกฎหมายจัดการไป ถูกผิดไปว่าในศาล แต่วิงวอนผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง พาเขาไปดูแลเถอะ

ฝั่งไวท์มองยังไง ถ้าเขาดูอยากบอกอะไร?

ไวท์ : ไม่รู้จะพูดยังไง ผมเสียใจที่เขาทำร้ายคุณแม่ผมครับ ส่วนคุณพ่อผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องผู้ชายสองคนทะเลาะวิวาทกัน แต่คุณแม่ของผมไม่คิดว่าเขาจะทำผู้หญิง

ยังมีข้อความน้องคนนี้เขาส่งมาหาคุณด้วย ส่งมาในไดเร็กไอจี เขาบอกว่ามึงคิดว่าพ่อมึงถูก ไปคุยกันในศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ หลักฐานไม่มีทางเปลี่ยนความจริง เป็นดาราอย่าโง่ ตอบกูดิ คุณตอบไหม?

ไวท์ : ไม่ตอบครับ

ทนาย : พฤติกรรมคุกคามนะ ผมตั้งเป็นประเด็นสังคมก่อน ถ้ามีบุคคลนึง ไม่เกี่ยวกับเคสนี้ อ้างตนเป็นลูกคนใหญ่คนโตแล้วไปทำกับคนอื่นแบบนี้ ผมถามว่ากฎหมายบ้านเมืองจะจัดการยังไง แล้วอีกเคสนึงอ้างตนว่าป่วย มีบัตรผู้ป่วย มีการรักษาทางจิต แล้วไปทำแบบนี้กับคนอื่น สังคมจะอยู่ยังไง นี่เป็นประเด็นที่ผมสงสัย ผมเชื่อว่าเรื่องนี้พ่อแม่คงหนักใจ แต่ต้องทำ ถ้าเป็นผมเอง ผมต้องเอาเขาไปรักษา ถ้าวันนึงเขาไปทำคนอื่นแล้วเขาตายเอง ผมจะเสียใจ ฝากให้สื่อจับตาไม่ทันเริ่มคดีเลย เจ้าหน้าที่แนะนำแล้วว่าอย่าไปออกสื่อ

ตำรวจบอกเหรอ?

สุรศักดิ์ : เมื่อคืนตร.สน.บางกรวยโทรหาผม เขาบอกว่าคุณพ่อออกสื่อทำไม เดี๋ยวมันไม่ดี พ่อแม่เขาใหญ่โตนะ ผมก็บอกว่าทำไมผมจะออกไม่ได้ ผมไม่ได้ไปว่าพ่อแม่เขานี่ ผมก็พูดถึงตัวเขาคนเดียว ทำไมถึงออกไม่ได้ เขาบอกสำนวนยังไม่เสร็จ ไปออกข่าวแบบนี้ไม่ถูก ผมถามว่าไม่ถูกยังไง ผมเป็นคนโดนกระทำ ถ้าผมตายขึ้นมาวันนั้นใครจะรับผิดชอบ เขาก็บอกว่าแล้วแต่คุณแล้วกัน แต่ผมเป็นกลางนะ

ทนาย : ผมเข้าใจเจ้าหน้าที่ คุณไม่ต้องไปกังวลว่าพ่อแม่เขาเป็นใหญ่เป็นโต คุณทำไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ทำพยานหลักฐาน และคำให้การคู่กรณี คุณทำไปตามหน้าที่ ถ้าตร.พูดซะเองแบบนี้แล้วมันจะยังไง ถ้าสำนวนออกมาไม่ตรงตามข้อกล่าวหา เรามีทีมทนายนะครับ หลังจากนี้ไม่ใช่ข้อหาเบาแล้ว มีการใช้ค้อนนะ

 

 

มีเรื่องผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเกี่ยวข้องด้วย?

ทนาย : ผมกังวล แต่ไม่หนักใจ เพราะผมเชื่อว่าพ่อแม่เขาไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ผมเห็นใจพ่อแม่เขาด้วย เขาต้องกังวลกับเรื่องนี้มากๆ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมพ่อแม่ แต่ที่หนักใจคือกระบวนการยุติธรรม ยังไม่ทันเริ่มก็กลัวแล้ว อย่างนี้ถ้าเป็นคนใหญ่คนโต คดีก็ไม่สงบเรียบร้อยสิครับ ทำไปตามหน้าที่คุณเลย ถ้าสำนวน ข้อกล่าวหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทนายก็ค้านอยูแล้ว ผมให้สื่อจับตาด้วยนะ เพราะไม่รู้จะไปเกิดอะไรกับใครอีก

พ่อกับแม่เอาเรื่องถึงที่สุดไม่มีการยอม?

สุรศักดิ์ : ครับ ตอนแรกเขาบอกอย่าเพิ่งออกข่าว เขาบอกพ่อแม่เขาใหญ่โต เดี๋ยวจะมีปัญหา

ทนาย : วันนี้ทีมทนายจะร่วมรับฟังด้วย ถ้ายังออกไปโทษสถานเบาอีก สังคมจะอยู่ยังไง