โฆษกเพื่อไทย แนะรัฐบาลเอาเวลาและภาษี ช่วยชีวิตคนก่อนจับเฟคนิวส์


เพิ่มเพื่อน    

5 ส.ค.64 - นางสาวอรุณี  กาสยานนท์  โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  สั่งกำชับกระทรวงดีอีเอส, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการป้องกันข่าวปลอมว่า ในห้วงเวลาที่ประชาชนตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบากอย่างแสนสาหัสในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  สิ่งเดียวที่รัฐบาลควรทำคือทุ่มเทเวลา สรรพกำลังเจ้าหน้าที่  และเทคโนโลยีทั้งหมดที่มาจากภาษีของประชาชน ไปช่วยชีวิตผู้คนโดยด่วน ด้วยการเร่งรัดการแก้ปัญหาโควิดอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การบริหารจัดการ Home isolation ซึ่งผู้ป่วยมีความพร้อม แต่ไม่ได้รับยาในการรักษา   ทำให้เกิดกรณีที่ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ขาดแคลนยามีอาการหนักขึ้น และไม่มีแพทย์ให้คำปรึกษาในระบบ Telemedicine รวมถึงปัญหาคนเข้าไม่ถึงระบบอีกจำนวนมาก 

จึงอยากเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่ทั้งหลายในรัฐบาลไปดำเนินการช่วยเหลือ หรือระดมความร่วมมือในการเร่งรักษาและดูแลชีวิตผู้คนโดยด่วน เพราะชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การทุ่มสรรพกำลังไปตามจับ ตามสืบ  กับการทุ่มสรรพกำลังไปดูแลประชาชนได้ผลต่างกัน   และส่วนตัวยังสงสัยว่ารัฐบาลนี้มีปัญหาในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญเป็นอย่างมาก  เช่น กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซื้อผลไม้ให้เจ้าหน้าที่การแพทย์  ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องการมากที่สุดคือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ  อุปกรณ์ป้องกัน  เบี้ยเลี้ยงที่สมเหตุสมผล และต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพในการบริหาร  เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขยังเดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่รุนแรงหนักหน่วงในตอนนี้

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า  กรณีที่รัฐบาลมุ่งมั่นตามจับเฟคนิวส์มากเป็นพิเศษด้วยความเป็นห่วงประชาชนจะได้รับข่าวสารที่สับสน จึงควรดำเนินการกับผู้ที่อยู่ในฝั่งรัฐบาลก่อน คือผู้มีตำแหน่งทางการเมืองบางคน ออกมาระบุว่าการตายข้างถนนเป็นการจัดฉาก ทั้งที่ชีวิตของประชาชนเป็นการสูญเสียจริง จากความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐอย่างแท้จริง  แต่คนของรัฐบาลอยากจะพูดอะไร  ก็ได้โดยที่ไม่มีความรับผิดชอบทางกฎหมายใช่หรือไม่ กับประชาชนตาดำๆ ที่อดทนมามากกับรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพเช่นนี้  กลับเร่งปิดปาก  แจ้งความทันที วันนี้ประชาชนต้องอดทนกับสภาวะที่ยากลำบากหนักหนาพอแล้ว รัฐบาลควรปรับทัศนคติใหม่ ด้วยการเข้าอกเข้าใจประชาชนให้มากขึ้น  ตั้งใจทำงานแบบที่เป็นลูกน้องประชาชน  ไม่ใช่เจ้านายประชาชน

ส่วนกรณีที่มีมาตรการซื้ออาหารจากร้านภายในห้างสรรพสินค้า และเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้น  นางสาวอรุณี กล่าวว่า มาตรการนี้ได้สร้างความสับสนและความยากลำบากต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังไม่แน่ใจว่ามาตรการนี้ออกมาเพื่อช่วยป้องกันโรคระบาดหรือเพิ่มภาระให้กับประชาชนกันแน่  ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงถึงความไม่เป็นโล้เป็นพายของรัฐบาล  จึงอยากให้คนของรัฐบาลไปคุยกันภายในให้รู้เรื่องก่อน  อย่าเอาแต่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจากการคิดไม่รอบคอบ กระทรวงดีอีเอสต้องออกแบบแอปพลิเคชันหรือใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเรื่องนี้  ดีกว่าเอาเวลาไปตามจับเฟคนิวส์ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ประชาชนนอกจากเอาใจรัฐบาล


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"