ปิดงบ2565หั่น1.63หมื่นล. จ่อยื่นไม่ไว้วางใจแค่5รมต.


เพิ่มเพื่อน    

กมธ.งบประมาณปิดจ๊อบ 270 ชั่วโมง ไม่หั่นงบสภากาชาดไทยและส่วนราชการในพระองค์ มาตรา 36 เตรียมถกต่อวาระ 2-3 ในสภา 18-20 ส.ค.นี้ ย้ำ 1.6 หมื่นล้านเข้างบกลางตรวจสอบเข้ม ห้ามผิดวัตถุประสงค์ ขณะที่ "หมอสุกิจ” เผย ถัดไปประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน ชดเชยหยุดหนีโควิด
    เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. และ น.ส.ธีรรัตน์  สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย  ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมว่า วันนี้ เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของ กมธ. โดยใช้เวลาไปแล้ว 30 วัน คิดเป็น 270 ชั่วโมง รวมหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 20 กระทรวง 5 กลุ่มหน่วยงาน 29 กองทุน 11  แผนบูรณาการ คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ จากงบประมาณทั้งสิ้น 3,100,000 ล้านบาท 
    ทั้งนี้ ในการพิจารณางบประมาณ กมธ. ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอันดับแรก เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ และเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไข รวมทั้งเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด จึงได้มีการพิจารณาปรับลดงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติมอีกจำนวน 16,362,010,100 บาท โดยที่ประชุมได้มีมติให้นำงบประมาณในส่วนนี้ไปไว้ใน "งบกลางรายการค่าใช้จ่ายการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019" เพื่อให้รัฐบาลนำงบประมาณในส่วนนี้ไปช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน  
    ทั้งนี้ กมธ.ไม่ได้ปรับลดงบประมาณ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดมาตรา 28สภากาชาดไทย มาตรา 35 และส่วนราชการในพระองค์ มาตรา 36  
    ในส่วนของงบประมาณที่ปรับลดจำนวน 16,362,010,100 บาท ซึ่งจะนำไปเป็นงบประมาณในงบกลางนั้น เป็นการป้องกัน "การนำงบประมาณไปใช้ผิดวัตถุประสงค์"  ทาง กมธ.งบประมาณฯ ได้มีข้อสังเกตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ของรัฐบาล ให้นำไปใช้ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคตามที่มีการเสนองบประมาณเพิ่มเติมอย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้ในเรื่องอื่นๆ
    ดังนั้น ในกระบวนการอนุมัติเพื่อใช้จ่ายงบประมาณในงบกลางของรัฐบาล ควรระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ทั้งนี้ ทาง กมธ.จะได้มีการตรวจรายงานของทั้งหมด เพื่อเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สำหรับการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันที่ 18-20 ส.ค.64 นี้ต่อไป
    ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.งบประมาณฯ เผยว่า กมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยได้ให้ข้อสังเกต เพื่อกำหนดทิศทางว่างบกลางที่ได้มาจากการแปรญัตติจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท ควรนำไปใช้อย่างไร เพื่อให้ตรงวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายบรรเทาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในโควิด-19 เท่านั้น โดยต้องไม่นำไปใช้ในเรื่องอื่น เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายงบกลางไม่ปรากฏว่ามีในรายงานตรวจการเงินของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่แสดงถึงการตรวจสอบ ผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพ ในการใช้จ่ายงบกลางของหน่วยงาน จึงเห็นควรให้มีการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 โดยต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย 
    เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติดังกล่าวในวันที่ 16 ส.ค.นี้ แต่จะเป็นเวลาใดนั้น ขณะนี้รอการประสานกับประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ขณะนี้รายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายในส่วนของพรรคเพื่อไทยดำเนินการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรี 2-5 คน เหลือเพียงการรวบรวมรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ โดยจะสรุปร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายวันที่ 11 ส.ค.นี้ 
    นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ เสนอรัฐบาลจัดสรรงบกลางจากการปรับลด 1.6 หมื่นล้านบาท กระจายทุกจังหวัดตามความรุนแรงของการระบาด โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ศบค.ระดับจังหวัดบูรณาการร่วมกันกับทุกส่วนราชการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดโดยเร็ว
    นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือกับรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้งดประชุมในวันที่ 11 ส.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และข้อกำหนดของ ศบค.ที่ห้ามเคลื่อนย้ายบุคคลข้ามจังหวัด ซึ่งวิป 2 ฝ่ายก็เห็นด้วย โดยจะเปิดประชุมอีกครั้งวันที่ 18  ส.ค. ซึ่งจะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระ 2 และ 3 โดยจะใช้เวลา 3 วัน
    ส่วนการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรหลังจากเปิดประชุมงบประมาณในวันที่ 18 ส.ค.นี้แล้ว ต่อจากนั้นก็จะมีการประชุมต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วันคือ วันพุธ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ จนถึงปิดสมัยประชุมในวันที่ 18 ก.ย.64 เพื่อเป็นการชดเชยวันที่งดประชุมไปก่อนหน้านี้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"