คุกแล้ว! ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว 'ไผ่ ดาวดิน'


เพิ่มเพื่อน    

9 ส.ค.64 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.ทุ่มสองห้องได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหา นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน อายุ 30 ปี, นายทวี เที่ยงวิเศษ อายุ 35 ปี, นายทรงพล สนธิรักษ์ อายุ 22 ปี ครั้งแรกทางไกลผ่านจอภาพ เป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. -20 ส.ค.  โดยการกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 215 วรรคแรก, 215 วรรคสาม, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 มาตรา 9, 18 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามชุมนุมทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ, มาตรา 18 และพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 ส่วนการกระทำของผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 215 วรรคแรก, 215 วรรคสาม, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 มาตรา 9, 18 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามชุมนุมทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ และมาตรา 18

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ สรุปว่า นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพูดผ่านไมโครโฟนโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นขี้ข้าเผด็จการ มีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวาย โดยผู้ต้องหาที่ 1 ได้สั่งการให้ผู้ชุมนุมใช้สีแดงที่เตรียมมาสาดไปที่ป้ายสถานีตำรวจทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 15.45 น.ต่อเนื่องถึงช่วงเย็น  เป็นเหตุให้สน.ทุ่งสองห้องได้รับความเสียหาย ต่อมาจากการสืบสวน ทราบว่า ได้ร่วมกับผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 กระทำความผิดกรณีดังกล่าว จึงขออนุญาตศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด

โดยการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก  6 ปาก รอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือ จึงขออำนาจศาลฝากขัง โดยท้ายคำร้องระบุว่า หากผู้ต้องหาที่ 1 ยื่นขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีหลายคดี ประกอบกับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ทำหนังสือถึงพนักงานอัยการคดีอาญา 7 เพื่อขอให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งหากได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาที่ 1 จะหลบหนี อีกทั้งผู้ต้องหากับพวกมีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในฐานร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันไม่ชอบด้วยหน้าที่ฯ และข้อหาอื่น ๆ โดยเมื่อพนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ศาลได้อนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามก่อความวุ่นวายในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหา แต่ปรากฏว่า ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัว กลับหาได้เคารพต่อเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว นัดหมายรวมตัวกันที่สน.ทุ่งสองห้อง ก่อความวุ่นวาย ด่าทอ และประกาศเป็นศัตรูทำลายทรัพย์สินทางราชการ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมข่มขู่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน มีแนวโน้มที่จะกระทำความผิดลักษณะเดิมต่อไปอีก ซึ่งมีคดีของนายจตุภัทร์ ก่อเหตุดำเนินคดีอีก 12 คดี

และหากผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี แล้วไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 2 มีพฤติการณ์ที่กระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติในลักษณะเดียวกัน โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาภายหลังผู้ต้องหายื่นขอปล่อยชั่วคราว โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก ทั้งเมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวจากศาล โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาที่ 1 ไปทำการในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหา หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้ต้องหาที่ 1 มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข จนพนักงานสอบสวน ได้มีหนังสือเพื่อขอให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาลนี้ไป 

กรณีมีเหตุเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 1 จะมีเหตุหลบหนี หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก จึงไม่สมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 1 ให้ยกคำร้อง ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหากระทำการยุยง ปลุกปั่น หรือก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"