‘ตุ๊ก’ขึ้นศาลยื่นฟ้อง คนโพสต์‘ล้มบอล’


เพิ่มเพื่อน    

"เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย พร้อมลูกชาย "แตงโม" ขึ้นศาลฟ้องนายทรงชัย พัฒนศิลาพร เกรียนคีย์บอร์ด กระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, หมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาให้ได้รับความเสียหาย ด้วยการโพสต์ข้อความลงในเพจฟุตบอลทีมชาติไทยเกี่ยวกับ "ล้มบอล"
    เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ที่ผ่านมา "เดอะตุ๊ก" น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลกองหน้าทีมชาติไทยชื่อดัง เจ้าของฉายา "เพชฌฆาตหน้าหยก" และ "แตงโม" นายพงษ์พิสุทธิ์  ผิวอ่อน อายุ 35 ปี บุตรชาย พร้อมทนายความ เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทรงชัย พัฒนศิลาพร อายุ 35 ปี ชาว กทม. เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, หมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาให้ได้รับความเสียหาย กรณีที่นายทรงชัยโพสต์ข้อความลงในเพจฟุตบอลทีมชาติไทย ประเด็นที่โจทก์เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย แล้วมีเรื่องราวเกี่ยวกับการ "ล้มบอล" ซึ่งเป็นความเท็จ
    สำหรับคำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อระหว่างต้นเดือน ส.ค.2564 ถึงวันที่ 3 ส.ค.2564 นายทรงชัยใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ "Songchai Pattarasilapom" (Sta boy) โพสต์ข้อความเปิดเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงทำนองว่า  “ไม่เอาปิยะพงษ์ แน่นอน ได้แชมป์ไทยลีก ตอนคุมทีมสโมสรทหารอากาศ ถ้าไม่มีเรื่อง (ล้มบอล).....ก็ไม่ได้หรอก ” ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีเรื่องเสื่อมเสียในวงการฟุตบอลของประเทศไทย โจทก์ไม่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะเป็นโค้ชหรือผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งข้อความดังกล่าวโจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีพฤติการณ์ในการล้มบอลที่จำเลยกล่าวอ้าง และภายหลังที่จำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว ได้มีประชาชนทั่วไปส่งข้อความเข้ามาสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยโพสต์กล่าวอ้างในเพจนั้นว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำให้เกิดความเสียหายแก่วงการฟุตบอลของไทยรวมทั้งตัวโจทก์เองที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชื่อเสียงของโจทก์ที่กระทำมาตลอดที่เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย
    เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และทั่วราชอาณาจักร โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
    ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1873/2564 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 15 พ.ย.เวลา 13.30 น.
    โดย น.อ.ปิยะพงษ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้เนื่องจากแตงโม บุตรชาย ไปเห็นข้อความในเพจฟุตบอลซึ่งมีข้อความที่ไม่น่ารัก เขาก็เลยอยากจะปกป้องศักดิ์ศรีของตน แต่ตนนั้นไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเลยเวลาแล้ว อายุเยอะแล้ว ก็แค่มาเซ็นเป็นตัวแทนให้กับทนายความ และแตงโม ที่อยากจะปกป้องศักดิ์ศรีในเรื่องที่เขาต้องการเท่านั้นเอง
    ด้านนายพงษ์พิสุทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ส่วนตัวแตงโมนั้น ยุคที่คุณพ่อเล่นฟุตบอลก็เจอเรื่องราวแบบนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี รู้สึกว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้ว คุณพ่อก็เป็นคนที่สร้างชื่อเสียงและรับใช้ประเทศชาติ ไม่อยากให้ใครกล่าวให้ร้ายคุณพ่อ สมัยเป็นเด็ก เจอเรื่องราวแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เจอเพื่อนล้อ เพื่อนว่า และโดนเพื่อนบูลลี่ แต่ตอนนี้เมื่อโตแล้วก็ทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมาย
    “เพราะเรื่องราวเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้คนมาต่อว่าคุณพ่อของผม ตลอด 30 ปี จริงๆ แล้วเนี่ยถ้าถามว่าคุณพ่อเคยเจอเยอะไหม ผมว่าเป็นหมื่นเคส แต่ว่าก็มีคนส่งข้อความ โทร.มาขอโทษผมเยอะมาก หลังจากที่ผมโพสต์อันนี้ออกไป ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้จะไปฟ้องทุกคน แต่ฟ้องเพียงคนเดียวถือว่าน้อยมาก เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร จริงๆ คุณพ่อไม่ได้ติดใจอะไร แต่ตัวผมในฐานะเป็นลูก ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตผมจะต้องอยู่กับตรงนี้อีกนาน” 
    นายพงษ์พิสุทธิ์ยังกล่าวอีกว่า ข้อความที่เขาโพสต์นั้น ปรากฏในกลุ่มเพจเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีผู้ติดตาม 7-8 แสนคน ซึ่งมีประชาชนที่เห็นข้อความเยอะ ทำให้กระทบกับคุณพ่อ ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะให้ทนายความดำเนินการต่อไป อาจจะต้องดำเนินการฟ้องแพ่งด้วย
    ขณะที่ทางศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.โฟกัส จีระกุล ดารา นักแสดง พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้นำเอกสารหลักฐานมายื่นฟ้องนายสำราญ นุจเจริญ ซึ่งเป็นบุคคลที่โพสต์ข้อความให้ น.ส.โฟกัสได้รับความเสียหาย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
    โดยนายษิทรากล่าวว่า วันนี้มาฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่ได้ไปโพสต์ในกลุ่มข่าวกลุ่มหนึ่ง มีคนเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ทำให้ น.ส.โฟกัสได้รับความเสียหาย โดยเรารวบหลักฐานและรายชื่อได้ทั้งหมด 33 คน จะทยอยฟ้อง แต่วันนี้จะยื่นฟ้องนายสำราญก่อน 1 ราย เนื่องจากโพสต์บ่อยกว่าคนอื่นๆ มีชื่อและนามสกุลชัดเจน มีการโพสต์ถึง น.ส.โฟกัสว่าไม่ดี มีการแคปภาพไปว่าในทางเสียหายในเรื่องส่วนตัว จำนวน 2 ครั้ง โดยจะเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ในส่วนของการไกล่เกลี่ย ต้องดูว่าเขามาแล้วสำนึกผิดหรือไม่ แล้วจะมีการเยียวยาอะไร
    ด้าน น.ส.โฟกัสกล่าวว่า ความจริงปล่อยมานานแล้ว ไม่คิดว่าจะฟ้องใคร ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่เขาก็ยังเลือกวิจารณ์เราแบบนี้อยู่ ก็ต้องลองเป็นกรณีตัวอย่างดู ส่วนจะไกล่เกลี่ยกันอย่างไรนั้น อย่างแรกก็ต้องมาเจอกันก่อน มารับฟังข้อกล่าวหา แล้วค่อยว่ากันอีกที ซึ่งอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง จริงๆ อยากรับคำขอโทษเป็นเงินเท่านั้น เพราะเขาจะได้คิดก่อนพูดหรือโพสต์อะไรไป เพราะมันทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง
    ทั้งนี้ ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 1874/2564 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 15 พ.ย. เวลา 13.30 น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"