กรณีเมียนมาตอกย้ำความ ล้มเหลวของการทูตอาเซียน


เพิ่มเพื่อน    

วิกฤติของเมียนมาทับซ้อนกันหลายชั้น...แต่ที่น่ารันทดที่สุดคือ คนเมียนมาส่วนใหญ่กลายเป็นเหยื่อของรัฐประหารและโควิด-19 ที่มาพร้อมกับการล่มสลายของสังคม
    ที่น่ากังวลที่สุดคือ อาเซียนอีก 9 ประเทศช่วยคนเมียนมาทั่วไปไม่ได้เลย
    เพราะอาเซียนขาดเอกภาพ และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เล่นกลกับอาเซียนจนสามารถเดินเกมการเมืองของตนเองได้อย่างไม่ต้องฟังเสียงประชาคมนานาชาติ
    เสียงคนเมียนมาที่เรียกร้องให้ทั้งโลกช่วยให้หลุดพ้นจากการปกครองแบบเผด็จการที่มองไม่เห็นอนาคตตนเอง ไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ
    ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมที่คนเมียนมาต้องการอย่างเร่งด่วนก็มิอาจจะเข้าไปถึงชาวบ้านส่วนใหญ่ได้
    เพราะผู้นำทหารเมียนมาไม่ยอมทำตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน
    และอาเซียนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการออกแถลงการณ์ท่องบ่นถ้อยคำในแถลงการณ์นั้น โดยไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรในประเทศที่ประชาชนกำลังประสบกับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส
    มติสหประชาชาติไม่มีความหมายในทางปฏิบัติ
    สหรัฐฯ, จีน, สหภาพยุโรป, รัสเซียและประเทศอื่นๆ ได้แต่ตั้งความหวังไว้กับอาเซียนว่าจะสามารถกดดัน, โน้มน้าว, เชิญชวนและขอความร่วมมือจากมิน อ่อง หล่าย
    แต่อาเซียนไม่ได้พูดด้วยเสียงเดียว ยิ่งทำให้ผู้นำทหารเมียนมาสามารถเดินหน้าตามแผนของตนเองได้ โดยไม่ยี่หระกับความเสียหายต่อภาพรวมของอาเซียน
    นั่นคือ ได้จับอองซาน ซูจี และแกนนำของพรรค NLD ที่ประชาชนได้เลือกอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
    มิน อ่อง หล่าย ตั้งข้อหาอองซาน ซูจี และผู้นำทางการเมืองของรัฐบาลที่กองทัพโค่นลงด้วยการอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานอะไร
    ผ่านมาสามเดือนหลังการรัฐประหาร ผู้นำอาเซียนเรียกประชุมสุดยอดที่อินโดนีเซีย เชิญมิน อ่อง หล่าย ไปร่วม มีฉันทามติ 5 ข้อที่ผู้นำทหารเมียนมาทำเป็นรับปากจะยอมทำตาม แต่ไม่สนใจที่จะเจรจากับอองซาน ซูจี เพื่อหาทางให้ประเทศกลับไปสู่เส้นทางประชาธิปไตย
    หกเดือนผ่านไป คณะผู้บริหารทหารเมียนมาประกาศผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
    และประกาศตั้ง “รัฐบาลรักษาการ” ขึ้น โดยให้มิน อ่อง หล่าย เป็นนายกรัฐมนตรี
    ที่เคยประกาศว่าจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ในหนึ่งปีก็กลายเป็นสองปี
    แต่ก็ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าจะมีการเลือกตั้งจริง
    และถึงแม้จะมีการจัดการเลือกตั้งจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่พรรค NLD ของอองซาน ซูจี จะถูกกระบวนการทางการเมืองที่มิน อ่อง หล่าย ตั้งขึ้นมานั้น สั่งให้ยุบพรรคเสียก่อน
    นั่นแปลว่า อองซาน ซูจี (ปีนี้อายุ 75) จะไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคของเธอก็จะถูกเบียดตกออกไปจากวงการเมืองอีกครั้ง
    ข้อหาที่ฝ่ายทหารยัดเยียดให้อองซาน ซูจี มากมายหลายข้อ ล้วนแล้วแต่มีเจตนาที่จะทำให้เธอหมดสภาพของการเป็นนักการเมืองที่สามารถจะนำประเทศได้ต่อไป
    หลังจากมีการซื้อเวลากันมาอย่างน้อย 3 เดือนหลังการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ก็มีการประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างประเทศบรูไน Erywan Yusof เป็น “ทูตพิเศษอาเซียนว่าด้วยกิจการเมียนมา”
    แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่า มิน อ่อง หล่าย จะยอมให้ตัวแทนอาเซียนมาพบปะกับแกนนำของฝ่ายต่างๆ ในเมียนมาเพื่อนำไปสู่การเจรจาหาทางออกที่จะสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนคนเมียนมา
    ค่อนข้างแน่ชัดว่า มิน อ่อง หล่าย ต้องการจะยึดอำนาจเป็นของตนให้ยาวนานที่สุดด้วยการซื้อเวลาไปเรื่อยๆ
    เกมของผู้นำทหารเมียนมาคนนี้คือ ทำทีว่าพร้อมจะร่วมมือกับอาเซียนเพื่อหาทางออกให้กับเมียนมา แต่ขณะเดียวกันก็อาศัยความแตกแยกของอาเซียนเองในการที่เขาจะสามารถเดินหน้าตามแผนการของตนเอง
    ในบรรดาสมาชิกอาเซียน อินโดนีเซีย, มาเลเซียและสิงคโปร์มีความกระตือรือร้นที่จะผลักดันให้กองทัพเมียนมายอมถอยกลับเข้ากรมกอง และให้ประชาชนคนเมียนมากำหนดชะตากรรมของตนเอง
    แต่สมาชิกอีกกลุ่มหนึ่ง เช่น เวียดนาม, กัมพูชา และลาวมีแนวโน้มที่จะยอมให้กองทัพเมียนมารักษาอำนาจเอาไว้
    ฟิลิปปินส์อยู่กลางๆ ส่งเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
    บรูไน ในฐานะประธานหมุนเวียน ปีนี้ทำหน้าที่เป็นผู้เข้าใจทุกฝ่าย
    ภาระจึงตกอยู่กับประเทศไทยที่เป็นเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเมียนมามากที่สุด และมีความคุ้นเคยสนิทสนมกับผู้นำเมียนมาทั้งทางทหารและพลเรือนมากกว่าใครอื่น
    แต่รัฐบาลไทยอ้างว่าพยายามจะหาทางออกให้กับเมียนมาด้วย “การทูตเงียบ” แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผลอะไรที่จับต้องได้
    เสมือนเป็นการยืนยันความคลางแคลงของหลายฝ่ายว่า เพราะกองทัพไทยกับกองทัพเมียนมามีความสนิทสนมกัน
    จึงหวังได้ยากว่ารัฐบาลไทยจะจริงจังกับการพยายามกดดันและโน้มน้าวให้มิน อ่อง หล่าย ยอมเจรจากับ “ผู้มีส่วนได้เสีย” อื่นๆ ในเมียนมา เพื่อนำความปกติสุขกลับมาสู่เพื่อนบ้านทางตะวันตกของเราได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"