จับตาศึกซักฟอก  ไม้เด็ด หรือ มวยล้ม 


เพิ่มเพื่อน    

หากไม่มีสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เข้ามา ในช่วงเวลานี้ไฮไลต์ทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร คงจะถูกจับจ้องไปที่การเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อันเป็นประเพณีปฏิบัติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะจองกฐินซักฟอกผู้นำรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ที่เห็นว่าบริหารงานผิดพลาดล้มเหลว หรืออาจส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ   
    ยิ่งก่อนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คงจะได้เห็นบรรดานักปราศรัย ส.ส.แต่ละพรรคออกโรงขู่ ซักฟอกหนนี้เตรียมเปิด หลักฐานเด็ด ใบเสร็จมัด รัฐมนตรีรายนั้นๆ เรียกแขก โหมโรง เคาะระฆัง เป็นการส่งสัญญาณฤดูกาลซักฟอกเดินทางมาถึงแล้ว 
    ในปีนี้แม้พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย ขอใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 รวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล  
    แต่อาจเป็นเพราะสถานการณ์โควิดที่กระทบชีวิตผู้คน ทำลายเศรษฐกิจ อย่างหนักหนาแสนสาหัส ทำให้ภาพการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดูเหมือนจะไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งในแง่การประชุม รวมตัวกันหาข้อสรุป  ที่ต้องประชุมผ่านระบบออนไลน์อย่างระบบซูม ส.ส.ฝ่ายค้าน แกนนำ แต่ละคนอยู่กันคนละที่ รวมไปถึงไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้   
    ประกอบกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล ในระยะหลัง ไม่สู้ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นการลงชื่อขอเสนอแก้กฎหมายบางเรื่อง  ที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย จนมาถึงเรื่องล่าสุดกรณีกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565  ที่กรรมาธิการในส่วนของพรรคเพื่อไทยต่างยกมือสนับสนุน นำงบประมาณที่ตัดออกจากกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานต่างๆ กว่า 1.6 หมื่นล้านบาทไปไว้ที่ 
    งบกลาง!!! 
    ถูกบรรดากองเชียร์ก้าวไกล ทั้งในสภา นอกสภา ออกมาสับเละพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามดังๆ ทั้งการแถลงข่าวผ่านสื่อ และโหมโจมตีในโลกออนไลน์ สงสัยในพฤติกรรมพรรคเพื่อไทย เปรียบเสมือนตีเช็คเปล่าให้ประยุทธ์นำไปใช้จ่ายอะไรที่ยากจะตรวจสอบ ทั้งที่ในวาระการอภิปรายก่อนหน้าและปีก่อนๆ เพื่อไทยยังคัดค้าน แต่ปีนี้กลับมาสนับสนุน แม้ขุนพลพรรคเพื่อไทยหลายคนจะยืนยัน ไม่ใช่การตีเช็คเปล่า  สามารถตรวจสอบได้ โดยงบกลางนี้ระบุเอาไว้ชัดต้องนำไปแก้ไขปัญหาโควิดเท่านั้น แต่กระแสแห่งความไม่พอใจก็ไม่ได้เบาบางลง 
    ไม่เท่านั้นยังเกิดเสียงลือในแวดวงนักเลือกตั้ง ที่งานนี้ทั้งขุนพลกรรมาธิการงบประมาณทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน มีปัจจัยทำให้ยิ้มกว้างได้ เลยพร้อมใจกันสามัคคีโหวตโยกงบกลางไปให้นายกฯ อย่างพร้อมเพรียง 
    ยังไม่นับรวมการซักฟอกรัฐบาลทั้งในปี 2562 และปี 2563 รายชื่อ รัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอกก่อนยื่นญัตตินั้น เพื่อไทยเอา ก้าวไกลไม่เอา  หรือแม้แต่ก้าวไกลเอา เพื่อไทยไม่เอา จนทำให้แต่ละฝ่ายไม่ค่อยสบอารมณ์นักว่ามีดีลอะไรพิเศษหรือไม่ หรือแม้แต่ในเวลาอภิปรายแล้ว  "รัฐมนตรีที่ถูกขึงพืด" สามารถดักทาง เตรียมข้อมูล หลักฐานการชี้แจงได้ละเอียดถี่ยิบ ชนิดลงไปถึงหลักทศนิยมได้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือ  "ข้อสอบรั่ว" ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์กับก้าวไกลสั่นคลอนไปอีก 
    แม้ในการประชุมครั้งล่าสุด ที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมผ่านระบบซูม โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการหารือว่า 
    “เบื้องต้นจะมีการอภิปรายรัฐมนตรีรวมทั้งสิ้นประมาณ 4-5 คน มี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งประเด็นสำคัญในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด ที่ผิดพลาดซ้ำซากของรัฐบาล  เป็นสาเหตุทำให้พี่น้องประชาชนยากลำบาก และปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบของบุคคลในรัฐบาล รวมไปถึงบริวารแวดล้อม ในวันที่ 14 ส.ค. หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการหารือร่วมกันถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาเอกสารหลักฐานและสรุปความชัดเจนเกี่ยวกับรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพิ่มเติมทั้งหมด”  
    วันที่ 14 ส.ค. ที่แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมเคาะรายชื่อ รัฐมนตรีเพิ่มเติม ว่ากันว่ารัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายหวยออก ประกอบไปด้วย  ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่เกี่ยวกับการประมูล การก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ สายอีสาน ที่ดูแล้วไม่ชอบมาพากล นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และอาจโยงไปถึงชุดตรวจเชื้อโควิด   
    จากนั้นในวันที่ 16 ส.ค.จะนัดแกนนำและ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง แล้วบรรจุวาระอภิปราย ที่คาดว่าน่าจะเห็นการอภิปรายในเดือนกันยายน 
    ยังไม่แน่ชัดว่าข้อมูลซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์ ที่นอกจากประเด็น การบริหารประเทศล้มเหลว ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ ต่อการบริหารจัดการวัคซีน การแก้ปัญหาไวรัสโควิดแล้ว จะมีข้อมูลอะไรใหม่ที่นำออกมาประจานให้แนวร่วมนอกสภาประสานเสียง จัดการกับรัฐบาลประยุทธ์ เป็นแนวคู่ขนาน รวมทั้งปมที่เขย่ารัฐบาล ทำให้เพลี่ยงพล้ำได้มากสุด คือ ทุจริต พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีหลักฐานเด็ดหรือไม่ 
    มหกรรมศึกซักฟอกครั้งนี้ เพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะสามารถกู้ศรัทธาด้วยการเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลประยุทธ์ ที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้ทรุดลงไปอีก หรือสุดท้ายจะเป็นฝ่ายถูกซักฟอกเสียเอง  ว่ามีแต่ข้อมูลตัดแปะ มวยล้ม ผลจะออกมาหน้าไหน คงต้องติดตามกันต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"