คนไทยที่ไม่ใช่3นิ้วชักทนไม่ไหว! หวั่นลามสงครามกลางเมือง บี้รบ.จัดการ


เพิ่มเพื่อน    

13 ส.ค. 64 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แซงหน้าม็อบวันที่ 15 สิงหา ของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บ่ายวันนี้ 13 สิงหา จะมีม็อบของกลุ่มทะลุฟ้าไปบ้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกเช่นเดิม 

เราลองติดตามดูกันว่า รูปแบบหรือ pattern ของม็อบจะเป็นแบบเดิมหรือไม่ นั่นคือ รวมตัวกันทำกิจกรรมบางอย่าง ประกาศยุติการชุมนุม จากนั้นให้ฝ่ายบู๊เริ่มการก่อกวน ก่อความวุ่นวาย ใช้อาวุธพื้นบ้านโจมตีตำรวจ เผาป้อม เผารถ ทุบรถ วันรุ่งขึ้นรุมถล่มตำรวจในสื่อต่างๆ 

หลังจากทำตาม pattern นี้หลายครั้งติดต่อกัน ครั้งนี้อาจมีการแปรเปลี่ยนบ้าง แต่ฉากสุดท้ายน่าจะเป็นรูปแบบเดิม คือเกิดความรุนแรง และอาจยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าทุกครั้ง

เข้าไปดูใน fb เพจ ทะลุฟ้า ที่ประกาศให้มีการชุมนุม จะเห็น comments สนับสนุน มากมาย บ้างก็ขอให้ระมัดระวังมือที่ 3 บ้างก็เสนอแนะให้เปลี่ยนที่นัดหมาย แต่ดูทั้งหมดแล้ว เรียกได้ว่ากว่า 90% ของผู้ที่ comment ไม่ได้เข้าร่วมในม็อบ และยิ่งไม่ได้เข้าร่วมสนุกในช่วงหลังประกาศยุติการชุมนุม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน จึงน่าเชื่อได้ว่า กลุ่มที่ก่อกวนในช่วงเย็นถึงค่ำ เป็นกลุ่มคนที่จัดเตรียมไว้ และมีการฝึกอบรม และเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้ก่อกวน เพื่อให้เกิดการความรุนแรงโดยเฉพาะ

ม็อบลักษณะเช่นนี้ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายของผู้บงการ ก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นขบวนการที่เกิดจากการวางแผน สั่งการ และปรับแผนกันชนิดวันต่อวัน ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการที่ประชาชนถูกกดขี่ ถูกจำกัดเสรีภาพ จนทนไม่ไหว ต้องออกมาประท้วงบนท้องถนนโดยธรรมชาติอย่างเด็ดขาด 

สถานการณ์โควิด 19 ที่ย่ำแย่ลง และการจัดการเรื่องวัคซีน ทั้งเรื่องการจัดหาที่ยังทำได้ไม่ดีพอ และเรื่องการจัดการฉีดวัคซีนที่สับสนอลหม่าน มีการใช้เส้นสาย ประชาชนต้องดิ้นรนเพื่อให้รับการฉีดวัคซีน เหล่านี้เป็นเงื่อนไงที่ผู้วางแผนและบงการ นำมาใช้เป็นเหตุผลเพื่อสร้างแนวร่วมให้ได้มากขึ้น

ขณะนี้ รัฐบาลจึงอยู่ในฐานะเสียเปรียบ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก จะจัดการกับม็อบอย่างเด็ดขาดก็กลัวเข้าทางผู้วางแผน จะประคับประคองสถานการณ์ต่อไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ประชาชนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยก็ต้องเดือดร้อน และมองว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา ปล่อยให้ม็อบทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง แม้จะมีการตามจับกุมผู้กระทำผิดภายหลัง แต่หลังจากจับกุมแล้วก็มีผู้ไปประกันตัวให้ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ออกมาทำกร่างได้อีก

ประเมินจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินส่วนรวมที่มากขึ้นทุกครั้ง คลิปส์ภาพที่ชัดเจนขึ้น มีคนเห็นมากขึ้นว่า ม็อบไมได้มามือเปล่าอย่างที่พวกที่วางแผน พยายามบอกคนที่ไม่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลอาจต้องยอมเสี่ยงตัดสินใจจัดการกับม็อบอย่างเด็ดขาด ก่อนที่สถานการณ์จะพัฒนาไปถึงจุดที่เกิดสงครามกลางเมือง แม้ไม่มีทางทราบได้แน่นอนว่า หลังจากตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว รัฐบาลจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่ก็ตาม

ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้ เพราะประชาชนที่เขาไม่ใช่พวก 3 นิ้ว เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"