'ธรรมศาสตร์ ' ปลดล็อกออกข้อบังคับนำเข้าวัคซีน ได้เหมือนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์


เพิ่มเพื่อน    

 

16 ส.ค.2564 สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มีมติโดยเอกฉันท์ให้ออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยการจัดการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 เพื่อประกาศภารกิจและอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการทั้งในประเทศ และต่างประเทศเกี่ยวกับการจัดหา นำเข้า หรือขึ้นทะเบียน บรรดาสิ่งจำเป็นทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นยา วัคซีน เวชภัณฑ์

ทั้งนี้การออกข้อบังคับของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในครั้งนี้ เป็นการประกาศในทำนองเดียวกันกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ส่งผลให้มีการจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาในประเทศ

ด้านแหล่งข่าวจากสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้รายละเอียดมติของสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันนี้ 16 สิงหาคมที่มีมติเอกฉันฑ์ เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิดว่า การประชุมสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วันนี้ ที่มีศ.นรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามธ.เป็นประธาน ทางศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  รังสิต ปทุมธานี ได้นำเสนอวาระเรื่องขอให้ สภามธ.อนุมัติเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยออกประกาศข้อบังคับว่าด้วยการจัดการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เพื่อประกาศภารกิจเกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการทั้งในประเทศ และต่างประเทศเกี่ยวกับการจัดหา นำเข้า หรือขึ้นทะเบียน บรรดาสิ่งจำเป็นทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นยา วัคซีน เวชภัณฑ์

โดยศ.ดร.สุรพล ให้เหตุผลและความจำเป็นในการนำเข้าวัคซีนโควิดโดยธรรมศาสตร์เองว่าเนื่องจากขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มารักษาตัวที่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและรพ.สนามธรรมศาสตร์มีจำนวนมาก จนล้นโรงพยาบาล เกินกว่าที่รพ.จะรับไหว อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ของรพ.ธรรมศาสตร์เองก็ติดเชื้อโควิด  ขณะเดียวกันการจะไปรอวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรมาให้ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  ก็ไม่เพียงพอ และกระบวนการล่าช้า ไม่ทันการ กับสถานการณ์วิกฤตโควิดในขณะนี้ที่จำนวนผู้ป่วยและคนเสียชีวิตมีจำนวนมาก เพราะปัจจุบันรพ.ธรรมศาสตร์ฯ มีคนไข้โควิดเข้ามาที่รพ.จำนวนมาก ทุกวัน การต้องรอการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาล จึงไม่ทันการ จึงเห็นว่าจากข้อกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีอยู่ สามารถออกข้อบังคับนำเข้าวัคซีน ยา และเวชภัณฑ์เองได้ เช่นเดียวกับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงเสนอขอให้สภา มธ.อนุมัติหลักการดังกล่าว

โดยมีรายงานว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยมีการซักถามรายละเอียดจากนายสุรพล อย่างกว้างขวางเช่น สามารถทำได้ตามข้อกฎหมายหรือไม่ จะมีปัญหาตามมาภายหลังหรือไม่  และการนำเข้าวัคซีน เมื่อส่งมาแล้วต้องทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ  และสามารถจัดหาวัคซีนได้เร็วสุดเมื่อใด ซึ่งนายสุรพล ที่เป็นนักกฎหมายด้วย ก็ยืนยันต่อที่ประชุมว่า ไม่มีปัญหาข้อกฎหมายแน่นอน เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ และกระบวนการจัดซื้อวัคซีน ก็จะทำตามมติครม.และระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของราชการทุกอย่าง โดยที่ประชุมได้รับแจ้งว่าการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว จะนำมาใช้กับระบบการดูแลผู้ป่วยและการฉีดวัคซีนของธรรมศาสตร์เป็นหลักคือใช้ในรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและรพ.สนามเท่านั้น โดยธรรมศาสตร์จะไม่เป็นโบรกเกอร์ในการจัดซื้อวัคซีน

"หลังที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ดำเนินการดังกล่าว คาดว่า ทางนายกฯสภามธ.คือศ.นรนิติ อาจลงนามในวันนี้และส่งประกาศข้อบังคับดังกล่าวของสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยังสำนักงานเลขาธิการครม.เพื่อให้นำประกาศไปในราชกิจจานุเบกษา คาดว่า อาจประกาศได้ภายในวันอังคาร 17 สิงหาคมหรือไม่แน่อาจเป็นคืนนี้เลย ซึ่งเบื้องต้น ทางกรรมการสภามธ.ก็ได้ทราบข้อมูลว่า จะมีการจัดหาจัดซื้อวัคซีน ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และอื่นๆ นำเข้ามา ส่วนว่าหากนำเข้ามาแล้ว ถ้าจะมีหน่วยงานอื่นมาขอซื้อต่อจากรพ.ธรรมศาสตร์หรือไม่ ตรงนี้ต้องถือว่าวัคซีนที่นำเข้าเป็นทรัพย์สินของธรรมศาสตร์แล้ว การดำเนินการต่อไปจะเป็นอย่างไร ทางศ.ดร.สุรพล จะเป็นผู้ดำเนินการอีกครั้ง "แหล่งข่าวจากที่ประชุมสภามธ.ให้ข้อมูล

ขณะเดียวกันที่นายอานนท์ มาเม้า ผู้ช่วยอธิการบดี คณะนิติศาสตร์ มธ. โพสต์เฟซบุ๊ก Arnon Mamout ระบุสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีมติเอกฉันท์ออกข้อบังคับ ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของมธ. ให้นำเข้า ขึ้นทะเบียน ยา วัคซีน เวชภัณฑ์ได้ 

โดยระบุว่า ข่าวดีสำหรับประชาชนและสังคมไทยครับ วันนี้ สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีมติโดยเอกฉันท์ให้ออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการจัดการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564. เพื่อประกาศภารกิจและอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศเกี่ยวกับการจัดหา นำเข้า หรือขึ้นทะเบียนบรรดาสิ่งจำเป็นทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นยา วัคซีน เวชภัณฑ์ เป็นการประกาศในทำนองเดียวกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ครับ

เชื่อว่าข้อบังคับนี้จะเป็นหมุดหมายที่ชัดเจนว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอประกาศตัวเคียงข้างประชาชนในการฝ่าฟันสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงนี้ ด้วยพละกำลังที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีครับ

ขอบคุณที่มา Arnon Mamout

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"