แก๊งมอดไม้-จนท.รัฐ ตัดต้นยางป่าสงวน


เพิ่มเพื่อน    

แก๊งมอดไม้เหิมเกริมลอบตัดต้นยางนาอายุ 200 ปี ในป่าสงวนแห่งชาติ “บ้านโตนชี” ต.อ่าวตง “บิ๊กป่าไม้” สายตรงสั่งการป่าไม้ภาคใต้ เข้ายึดของกลางกว่า 38 ท่อน เตรียมส่งขายมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวบคนขับรถ 10 ล้อได้เพียงรายเดียว ซัดทอด “เจ๊ผอม” ทำตามใบสั่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล เชื่อทำเป็นขบวนการ เจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 15 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ ตรัง ภายใต้การอำนวยการของ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม และนายจิระศักดิ์ ชูความดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้ นายศุภชัย สุกใส ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) พร้อมด้วย นายสมนึก กุลหลัด หน.หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สิเกา หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไสป่าแก่ หมู่ 9 บ้านโตนชี ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบแอบตัดไม้ยางนาและขนย้ายท่อนไม้ จึงส่งสายลับเข้าไปตระเวนสืบหาเบาะแสข้อเท็จจริง พร้อมด้วย จ่าเอกสุวัฒน์ สัญวงษ์ นายอำเภอวังวิเศษ นายประวี กัญชนะกาญจน์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายสรรชัย ตั้งคำ หรือใหญ่ฉุด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง
    ระหว่างทางพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีเขียว ทะเบียน 71-6323 พระนครศรีอยุธยา ข้างรถเขียนว่า “บุญทรัพย์ขนส่ง จำกัด” ภายในรถบรรทุกไม้ยางท่อน จำนวน 12 ท่อน ตกลงไปในลำคลอง สะพานไม้หัก คาดว่าสะพานที่ก่อสร้างด้วยไม้ไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ ในที่เกิดเหตุพบ นายสมพร จามะรีย์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 1 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับรถ 10 ล้อคันดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวมาสอบปากคำ
    จากนั้นได้เดินทางไปยังเป้าหมายซึ่งเป็นสวนยางพาราถูกบุกรุก ไม่มีเอกสารสิทธิ ปลูกอยู่ภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าไสป่าแก่ หมู่ 9 บ้านโตนชี ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำติดกับน้ำตกร้อยชั้นพันวัง มีบ้านไม้ปลูกอยู่จำนวน 1 หลังแบบถาวร แต่ไม่พบผู้อาศัย ตรวจสอบพื้นดินบริเวณภายในสวนยางพังเสียหายยับเยินจากการบดทับของล้อรถบรรทุก ทั้งนี้ พบต้นยางนา อายุกว่า 200 ปี ขนาดกว่า 2 คนโอบ ถูกโค่นเหลือแต่ตอ จำนวน 7 ต้น และพบไม้ที่ถูกตัดเป็นท่อนรอขนย้ายรวมทั้งหมด จำนวน 38 ท่อน ท่อนละ 3 เมตร ปริมาตร 30 ลูกบาศก์เมตร กระจายอยู่ภายในสวนจำนวนหลายจุด และพบรถแบ็กโฮ ยี่ห้อ โคบิวโค้ สีเหลือง และรถยนต์กระบะมีรั้ว ยี่ห้อโตโยต้า ไม่มีทะเบียน มีลวดสลิงอยู่ในรถพร้อมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อไม้อยู่ในกระเป๋า เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน 
    สอบสวน นายสมพร จามะรีย์ คนขับรถ 10 ล้อ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาเพียงรายเดียว ให้การว่า วันที่ 12 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้างจาก นายโจ และเจ๊ผอม (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) ให้มาขนย้ายไม้ออกจากพื้นที่ในราคา 7,000 บาท เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เข้าไปขนไม้ โดยมีนายโจเป็นคนขับรถแบ็กโฮ ทำการคีบไม้ขึ้นรถบรรทุก 12 ท่อน และขับออกมาในเวลา 23.00 น. ขณะข้ามสะพานปรากฏว่าสะพานไม้รับน้ำหนักไม่ไหว ตกลงไปในลำคลอง จากนั้นได้มีคนไปตาม “เจ๊ผอม” มาดูสะพาน โดยไม่มีบุคคลใดอยู่ในที่เกิดเหตุ มีเพียงชาวบ้านบางคนที่จะข้ามสะพานไปกรีดยางพารา แต่ข้ามไม่ได้ เนื่องจากสะพานหัก “เจ๊ผอม” จึงนำตนออกไปจากพื้นที่เดินทางไปบ้านของ “เจ๊ผอม” พื้นที่ บ้านต้นโพธิ์ ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และได้แจ้งกับตนว่าจะทำการยกรถขึ้นในวันรุ่งขึ้น
    นายสุวัฒน์ สัญวงษ์ นายอำเภอวังวิเศษ กล่าวว่า บริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของคลองชี ซึ่งเป็นสายหลักของอำเภอ ที่ผ่านมาตนกำชับฝ่ายปกครองท้องที่ในสังกัดเสมอในเรื่องให้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญ และหากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ส่วนเรื่องที่มีผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เซ็นรับอนุญาตนั้น ก็ให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนต่อไป หากมีความผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ส่วน นายศุภชัย สุกใส ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กล่าวว่า ไม้ดังกล่าวมูลค่าทางตลาดคาดประมาณ 1 ล้านบาท เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก ที่นี่ถือเป็นแหล่งต้นน้ำชาวบ้าน พฤติการณ์ของกลุ่มตัดไม้นั้นทำกันมานานแล้ว อาจจะมีนายทุนนอกพื้นที่เข้ามาหาซื้อไม้ โดยจะมีชาวบ้านในพื้นที่เป็นนายหน้าอีกทีหนึ่ง คอยติดต่อหาซื้อไม้ จากข้อมูลที่ทราบ “เจ๊ผอม” น่าจะเป็นคนเข้ามาซื้อและหาไม้ โดยอาศัยช่องโหว่ของมาตรา 7 ที่กรมป่าไม้ แก้ไขเพื่อช่วยเหลือราษฎรให้สามารถตัดไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ได้ แต่จะต้องเป็นไม้ที่ปลูกขึ้นเอง ไม่ใช้ไม้จากธรรมชาติ คนร้ายจึงอาศัยช่องว่างตรงนี้ นำไม้ในป่าเข้าไปสวมทะเบียน สันนิษฐานว่าจะนำไม้ออกไปให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เซ็นรับรอง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเชิงลึกว่างานนี้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามามีเอี่ยวในการร่วมกระทำผิด เนื่องจากนำเครื่องจักรมาในพื้นที่ แต่กลับไม่มีใครรับรู้เรื่องราว และมีการตัดโค่นทำลายตั้งแต่เริ่มแรกที่เข้ามายึดถือครองพื้นที่ แต่ต่อมาไม้ยางนาเป็นสินค้าที่มีราคาเป็นที่ต้องการของตลาดผู้ค้าไม้ จึงได้มีการโค่นต้นไม้ยางนาเพื่อเป็นสินค้าตามที่ต้องการของตลาด นำไปจำหน่ายในลานรับซื้อไม้พื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังวิเศษ และทำการสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"