รื้อแล้ว!แพพักหรู รุกแม่น้ำแควน้อย


เพิ่มเพื่อน    

 

เจ้าของรื้อถอนเคลื่อนย้ายแพพักหรู 20 ล้าน พ้น อช.ไทรโยคแล้ว คืนความสวยงามแม่น้ำแควน้อยตามธรรมชาติ เตือนนายทุน-ผู้ประกอบการที่เหลือ ถ้าปลูกสร้างบุกรุกยึดถือครองที่ดิน-แม่น้ำในเขตอนุรักษ์ ใช้ 2 กม.ไล่รื้อได้ตลอดเวลา คดีไม่มีอายุความ

ความคืบหน้ากรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำโดยนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค นำป้ายประกาศคำสั่งไปติดตั้งที่แพพักหรูระดับ 5 ดาว "ไทรโยคโฟลทเทล" ที่สร้างรุกเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค กลางแม่น้ำแควน้อย ท้องที่หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อให้นายวสันต์ สดใส เจ้าของรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักที่มีมูลค่าร่วม 20 ล้านบาท ออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 19 ส.ค. นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายสมเจตน์ จันทนา หน.อุทยานแห่งชาติไทรโยค นายจิรายุ พูลทวี ผู้ช่วย หน.อุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอุทยานฯ ไทรโยค จำนวน 15 นาย ได้เดินทางไปตรวจดูการรื้อถอนเคลื่อนย้ายแพพักดังกล่าว
 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ กล่าวว่า ตามข้อสั่งการ ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการปราบปรามนายทุนบุกรุกป่าอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง โดยหลังจากปิดประกาศคำสั่ง ขับไล่ รื้อถอน  นายวสันต์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของรีสอร์ตแพดังกล่าว ได้ทำการรื้อถอน เคลื่อนย้ายรีสอร์ตแพหรูออกไปจากแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานฯ ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เกือบทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้ จนท.จะดูแลรักษา ป้องกันมิให้บุคคลใดนำรีสอร์ตแพ หรือสิ่งอื่นใดมาจอดขวางแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค บริเวณดังกล่าวอีก เพื่อรักษาภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยว น้ำตกไทรโยคใหญ่ในแม่น้ำแควน้อยให้มีบรรยากาศสุนทรียภาพตามธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่งดงามเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์แท้จริง
"การที่เจ้าของรีสอร์ตแพได้รื้อถอน เคลื่อนย้ายแพพักไปด้วยตนเองภายในเวลาอันรวดเร็ว ถือว่าเป็นผลดี ไม่ต้องถูกดำเนินคดี และเสียค่าปรับ เพราะหากดื้อดึงไม่ยินยอมรื้อถอน เคลื่อนย้ายรีสอร์ตแพหรูดังกล่าวภายในเวลา 30 วัน ตามประกาศคำสั่งจะถูกดำเนินคดี ในข้อหาฐานฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง ขับไล่ รื้อถอน ตามมาตรา 35 (1) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ และปรับรายวันอีกวันละ 1 หมื่นบาท และต้องเสียค่าขนย้ายรีสอร์ตแพหรูให้กับทางราชการเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาทอีกด้วย" นายนิพนธ์กล่าว
ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวอีกว่า ขอเตือนไปยังนายทุนเจ้าของโรงแรม หรือเจ้าของรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศทั้งหลายที่ปลูกสร้าง บุกรุก  ยึดถือ ครอบครองที่ดิน หรือแม่น้ำ ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อย่าคิดว่าอัยการจังหวัดมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีอาญายุติไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 และหลุดพ้นคดีทั้งหลาย และจบแล้วนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ยังมีอำนาจใช้กฎหมายออกประกาศ คำสั่ง ขับไล่ รื้อถอน ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฉบับใหม่ได้อีก และการขับไล่ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ที่เป็นเขตสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่มีอายุความ ไม่อยู่ภายใต้การบังคับคดี สามารถขับไล่ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดไปให้พ้นจากเขตสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้ตลอดเวลา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"