งัดกม.พิเศษคลายล็อก 'วิษณุ'ชง4ข้อให้คสช.เคาะ พท.บี้ลาออกล่วงหน้า3เดือน


เพิ่มเพื่อน    

     “วิษณุ” นั่งหัวโต๊ะประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง  เตรียมชงปัญหา 4 ข้อให้ “บิ๊กตู่-คสช.” ตัดสินใจแค่คลายยังไม่ปลดล็อก ใช้ช่องกฎหมายทั้ง พ.ร.ก.-พ.ร.บ.-มาตรา 44” แก้ “บิ๊กป้อม” ตีมึนเรื่องพลังดูด จาตุรนต์มาแปลกชง “รัฐบาล-คสช.” ลาออกล่วงหน้า 3 เดือนหลังรู้วันเลือกตั้งแน่ๆ “มาร์ค” ระบุ ส.ว.ลากตั้งไม่ควรเอี่ยวเลือกนายกฯ ส่วน “ธนาธร” ปลุกพรรคการเมืองจับมือให้ได้ 376 เสียงนำประเทศร่างรัฐธรรมนูญใหม่! 
     เมื่อวันพฤหัสบดี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดย กกต.ได้มาประชุมยกชุด นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. รวมถึง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ขณะที่ กรธ.ส่งนายธนาวัฒน์ สังข์ทอง และนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ร่วมหารือ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ นายวิทยา ผิวผ่อง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 
     ต่อมาเวลา 18.30 น. นายวิษณุให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ใช้เวลาประชุมถึง 2.30 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุป 4 ข้อที่จะเสนอ คสช.และนายกรัฐมนตรีพิจารณาในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ 1.จะทำอย่างไรเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ของพรรค อะไรที่ทำได้หรือไม่ได้ 2.คำว่าหัวหน้าสาขาพรรค ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายขั้นตอน คือการประชุมใหญ่ ไพรมารีโหวต การคัดเลือกรับสมัครผู้รับเลือกตั้งที่มีหัวหน้าสาขาพรรคอยู่ จะทำอย่างไรในขณะที่ยังไม่สามารถจัดตั้งสาขาพรรคได้ 3.การแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่จะต้องมีการเปิดรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะกลายเป็นการทำกิจกรรมทางการเมือง จะยอมให้ทำได้ขนาดไหน และ 4.การบริหารจัดการ กำหนดเวลาต่างๆ ที่อาจมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาจไปผูกกับการประกาศใช้กฎหมาย 2 ฉบับผูกการเลือกตั้งท้องถิ่นผูกกับ กกต.ชุดใหม่ 
     “ได้เสนอ 3 ทางออกคือ การใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) พระราชบัญญัตติ (พ.ร.บ.) และมาตรา 44 เพื่อคลายปัญหาที่ติดขัด คลายล็อก แต่ไม่ใช่ปลดล็อก เพราะหากปลดล็อกไปทั้งหมดก็จะสะดุดบางอย่างได้ โดยหากใช้ พ.ร.ก.ในเรื่องการแบ่งเขตโดยเฉพาะ ไม่สามารถทำได้ แต่หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ก็สามารถออกเป็น พ.ร.ก.โดยพ่วงเรื่องการแบ่งเขตเข้าไปได้” นายวิษณุกล่าว
     นายวิษณุย้ำว่า เรื่องการให้พรรคหาสมาชิกจะคลายล็อก แต่ไม่ใช่ปลดล็อก เพื่อให้หาสมาชิกได้ แต่ถ้าคลายล็อกแล้วพรรคการเมืองหาสมาชิกไม่ได้ ก็ช่วยไม่ได้  
     เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นใน ก.พ.2562 นายวิษณุกล่าวว่า ไม่กล้าพูด เป็นความคาดหมายที่บริหารจัดการได้ หากมีตัวแปลบางอย่างที่สมเหตุสมผล สมจริง ก็บวกลบกันบ้าง แต่ต้องอธิบายได้
“บิ๊กป้อม”ตีมึนเรื่องดูด
     ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเป็นประธานในการหารือกับพรรคการเมืองในปลายเดือน มิ.ย.ว่า จะพูดคุยกันครั้งเดียวจบ หรือต้องมีครั้งต่อไปนั้นต้องดูก่อนว่าจะเอาอย่างไร และต้องรอกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับด้วย โดยหลังการพูดคุยก็จะมีความชัดเจนในเรื่องการปลดล็อก และเมื่อกฎหมายทั้ง 2 ฉบับผ่านแล้วก็จะพูดคุยกับพรรคการเมืองอีกครั้ง
     พล.อ.ประวิตรยังกล่าวตอบข้อซักถามกรณีพรรคพลังประชารัฐมีการตกลงกับกลุ่มมัชฌิมาว่า “ตกลงกับใคร ไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ จะไปรู้ได้อย่างไร ใครบอกว่าเป็นพรรคของ คสช. ใครพูดอย่างไรก็ไปถามคนนั้น ใครพูดว่าจะมีข่าวดีก็ไปถามคนนั้น ไม่ต้องมาถามผม”
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นพี่ใหญ่ใน คสช.ทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า ไม่ทราบ จะเป็นพี่ใหญ่ได้อย่างไร แค่อายุมากกว่าเขาเท่านั้นเอง ส่วนที่นักการเมืองออกมาพรรคถูกคนของ คสช.ดูดไปนั้น ดูดที่ไหน ใครดูด ใครทาบทาม ไม่ทราบ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไรเลย 
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงข้อเสนอที่พรรคอนาคตใหม่ขอให้ถ่ายทอดสดการหารือระหว่างพรรคการเมืองกับ คสช.ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่าไม่ติดใจ และไม่มีปัญหาว่าจะถ่ายทอดสดหรือไม่ แต่คิดว่ากลัวว่าจะทำให้คนเบื่อ เพราะที่ผ่านมาเป็นเรื่องค่อนข้างเทคนิคทางกฎหมาย และถ้าเชิญทุกพรรคการเมืองไปร่วมด้วย ก็ไม่ค่อยเป็นบรรยากาศที่ทำให้คนที่อยู่ในวงนอกให้ความสนใจเท่าไหร่
     นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มองกรณี พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการประชุมครั้งแรกกับพรรคการเมือง ว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี และถือว่าเป็นการเคาต์ดาวน์สู่การเลือกตั้งที่จะเป็นสัญญาณบวกของประเทศ ซึ่งหวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือ โดยพรรคยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง
     นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  (อนค.) ยืนยันว่า พรรคคงไม่เข้าร่วม และไม่กังวลว่าจะโดนกลั่นแกล้ง เพราะการจัดการเลือกตั้งเป็นเรื่องของเจตจำนงของประชาชน  90 วันก็สามารถทำได้ ไม่ต้องรอถึงเดือน ก.พ.2562 เป็นเรื่องของความตั้งใจมากกว่า 
“ขอยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ แต่เป็นภัยความมั่นคงสำหรับคนที่ไม่ต้องการประชาธิไตย” นายธนาธรระบุ
     วันเดียวกัน ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ “อนาคตประชาธิปไตยไทย: ข้ามพ้น กับดัก ความหวัง?” เนื่องในวาระคล้ายวันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ชี้ว่า คสช.ได้วางกับดักไว้จำนวนมาก โดย คสช.อาจแทรกแซงการเลือกตั้ง รวมทั้งกรณี ส.ว.อีก 250 คน ซึ่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ
     “การมียุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปที่กำหนดให้รัฐบาลหน้าทำตาม หากไม่ทำตามอาจนำไปสู่การถอดถอนหรือลงโทษทางอาญา แสดงให้เห็นว่า คสช.เองได้วางแผนล่วงหน้าไปแล้ว” นายจาตุรนต์กล่าว
อึ้ง!ชงครม.ลาออกก่อน3เดือน
     นายจาตุรนต์ยังระบุว่า ต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และเมื่อรู้วันแน่นอน 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ขอเสนอให้นายกฯ และ ครม.ลาออก คสช.ต้องงดใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่กระทบต่อการเลือกตั้งทั้งหมด และคำสั่ง คสช.ที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และเพื่อป้องกันไม่ให้ คสช.สืบทอดอำนาจนั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันไม่สนับสนุนคนนอกเป็นนายกฯ 
     “พรรคเข้าใจดีว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญ เราจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่จะชูธงแก้รัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับแผนปฏิรูป และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราจะยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูป” นายจาตุรนต์ระบุ
     นายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า การกลับสู่ประชาธิปไตยและรักษาประชาธิปไตยไว้ได้นั้น มีกับดักหลายขั้นตอน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการประชาธิปไตย ต้องกลับไปเริ่มต้นที่การเลือกตั้ง แต่ต้องเป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ว่าเราสามารถจัดการเลือกตั้งที่มีมาตรฐานได้จริงหรือ เนื่องจากมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลด กกต.มาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้เกิดคำถามว่า กกต.ที่รักษาความเป็นธรรมในการเลือกตั้งนั้นจะมีอิสระและความเป็นกลางได้มากน้อยแค่ไหน
     “ผู้มีอำนาจในปัจจุบันส่งสัญญาณชัดเจนทุกวัน จากกรรมการห้ามมวยมาเป็นผู้เล่นด้วย จึงเป็นกับดักว่าเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งจะมีความสุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ กับดักต่อมาคือมี ส.ว. 250 รออยู่ที่ไม่ผ่านการเลือกตั้ง แต่กลับมีอำนาจลงคะแนนเลือกหัวหน้ารัฐบาล” นายอภิสิทธิ์กล่าว
     นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ขอให้ คสช.แสดงความชัดเจนต่อประชาชนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป หากจะลงเลือกตั้ง ต้องแข่งขันอย่างเป็นธรรมเท่าเทียมกับคนอื่น หากไม่เท่าเทียมกับคนอื่น ขอให้เลิกพูดเรื่องธรรมาภิบาล และประชาธิปไตยไปได้เลย ซึ่งจุดยืนของพรรคคือ การเลือกหัวหน้ารัฐบาลต้องยึดโยงกับเสียงข้างมากในสภา ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ควรแทรกแซง ความต้องการของประชาชนส่วนมาก 
     ขณะที่นายธนาธรกล่าวว่า สิ่งที่ฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาสังคมไทยที่มีมาอย่างยาวนาน คือการทำรัฐประหารโดยคนกลุ่มน้อย ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ขอปวารณาตนเองในการหยุดกับดักเหล่านี้ เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีให้ลูกหลานต่อไป โดยการทำให้ประชาธิปไตยแข็งแกร่ง ต้องสร้างฉันทามติโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งข้อเสนอของผมคือ ส.ส. 500 ส.ว. 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้ง หากต้องการนำสังคมออกจากความขัดแย้ง การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยต้องรวมตัวกันให้ได้กว่า 376 เสียง เพื่อเป็นรัฐบาล ก่อนเสนอทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนทำประชามติรองรับรัฐธรรมนูญฉบับที่จะร่างขึ้นมาใหม่ จึงสามารถทำให้ประเทศไม่กลับไปเกิดปัญหาลักษณะเดิมอีก
     นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า กับดักที่จะทำให้ประชาธิปไตยไม่เติบโต ต้องย้อนไปในปี 2549 ช่วงก่อนเกิดรัฐประหาร ซึ่งมีความวุ่นวายทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ การชุมนุมของประชาชน ต่อเนื่องจนถึงปี 2557 โดยมีวาทกรรมการเมืองแบบแบ่งขั้ว ซึ่งช่วงนั้นเราเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์หรือไม่ มีความชุลมุนวุ่นวาย ส.ส.ทุจริต หาผลประโยชน์ผ่านการกล่าวอ้างประชาธิปไตย ซึ่งตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน ได้มีการวางกลไกไม่ให้การเมืองไทยกลับเป็นแบบเดิม เป็นประชาธิปไตยอีกมิติหนึ่ง ซึ่งทำให้มีความหวังในการตั้งพรรคการเมือง เพราะเห็นโอกาสจากวิกฤติที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 จนถึงการมีรัฐธรรมนูญปี 2560  
     “ผมยอมรับว่ามีส่วนที่ทำให้การรัฐประหารเกิดขึ้น แต่ผมไม่ได้อยากให้มีการรัฐประหาร ซึ่งในอนาคตข้างหน้าเรามุ่งให้อนาคตที่เกิดขึ้นนำหลักธรรมาธิปไตยของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติด้วย เพราะอนาคตของประชาธิปไตยในนิยามของผมต้องประกอบด้วยความสงบ มีการใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กฎหมาย สังคมหลังการเลือกตั้งนำไปสู่ความเป็นนิติรัฐมากขึ้น และขอยืนยันว่าไม่มีใครมีความสามารถขนาดทำลายประเทศไทยได้” นายไพบูลย์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"