พ่อน้องเจมส์ พร้อมคุย'มาดามมาย' ยกลูกชายเป็นอุทาหรณ์ใช้ชีวิตอย่างมีสติ


เพิ่มเพื่อน    

22 ส.ค.64 -  ที่วัดสว่างสุทธาราม บ้านหนองกุง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีการฌาปนกิจศพนาย วรพล สมผล อายุ 25 ปี หรือน้องเจมส์ นักศึกษาปริญญาโทที่คิดสั้นฆ่าตัวตายเนื่องจากเครียดถูก มาดามมาย เพื่อคนสนิทให้เป็นคนค้ำกู้เงินให้แต่ไม่จ่ายเงินคืนและเงียบหายไป จนเจ้าหนี้ตามทวงที่น้องเจมส์โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 12,000 บาท ก่อนตัดสินใจฆ่าตัวตายภายในห้องพักตัวเอง โดยบรรยากาศโดยทั่วไปภายในวัดเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีพ่อและญาติของน้องเจมส์รวมทั้งเพื่อนรุ่นพี่ รุ่นเดียวกัน และรุ่นน้อง ร่วมมหาวิทยาลัยฯ เดินทางมาร่วมเคารพศพและร่วมแสดงความเสียใจเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งครอบครัวกำหนดพิธีฌาปนกิจในเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้

นายประสิทธิ์ สมผล พ่อน้องเจมส์ กล่าวว่า แม่ของมาดามมายได้โทรศัพท์มาแสดงความเสียใจแล้วแต่ยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องอื่นๆแต่อย่างใด โดยแม่ของมาดามมาย ระบุว่าไม่รู้เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น และทางตัวมาดามมายเองก็ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ซึ่งถ้ามาดามมายมีอะไรก็โทรมาคุยได้ พ่อยินดีที่จะคุยได้ทุกอย่าง ยังไงลูกของตนเองก็เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งการเสียชีวิตนั้นขอปล่อยให้เป็นเรื่องของทางตำรวจ เพราะโทรศัพท์น้องเจมส์รวมทั้งหลักฐานทุกอย่างตำรวจเก็บไปหมดแล้วถ้ามีเหตุอะไรที่นอกเหนือจากการยืมเงินกันก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน

นายประสิทธิ์ ระบุว่า ในส่วนของจดหมายที่ลูกเขียนไว้ด้วยลายมือก่อนเสียชีวิตนั้น พ่อได้อ่านทั้งหมดแล้ว และจะทำให้ลูกทุกอย่างตามที่เขียนเอาไว้ และอยากจะปั้นหุ่นรูปลูกชายไว้ด้วย เพราะตอนนี้คิดถึงลูกมาก รักลูกมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสได้กอดได้พูดได้บอกรักตามประสาพ่อลูกอีกแล้ว อยากจะฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่เป็นนักศึกษาหรือคนที่ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ขอฝากเรื่องการใช้ชีวิต การใช้จ่ายเงินต่างๆ เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เงินทองหายาก ขอให้ลูกชายของตนเองเป็นรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตจากปัญหาแบบนี้ สิ่งที่คิดว่าอาจไม่เกิดก็เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องทำใจให้ได้ขอให้เป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิตที่ต้องมีสติ

ขณะที่ นายพิทยาธร สิมดี เพื่อนน้องเจมส์ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยร่าเริง อัธยาศัยดีมีจิตใจเผื่อแผ่เมตตากับเพื่อน และเจ้าตัวชอบเข้าวัดทำบุญช่วยเหลือคนอื่น แต่ช่วงหลังเริ่มมีอาการคล้ายซึมเศร้าแต่ไม่ใช่โรคซึมเศร้า และมีความเครียดชัดเจน ส่วนมากมีปัญหาเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนอื่นมากกว่า พอช่วยคนอื่นแล้วกลายเป็นว่ากลับมาทำร้ายตัวเองแต่ปัญหาทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องด้วย

นายพิทยาธร ระบุว่า  ในส่วนตัวของมาดามมายเป็นคนรู้จักของคนหมู่มากของมหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องการกู้ยืมต่างๆ จริงๆเรื่องการยืมเงินมารู้ช่วงหลังๆจากสื่อโซเชียลเหมือนกัน ที่จริงมันเป็นปัญหาของคนอื่นเราเลยเลือกไม่คิดที่จะเสพข่าวสาร จนกระทั่งเรื่องนี้มาถึงปัญหาของคนใกล้ตัวเรา เราเลยต้องหันมาสนใจแต่ก็ช้าไป ไม่ทันได้พูดได้เตือนเจมส์ อยากจะฝากอุทาหรณ์เรื่องนี้ว่า ปัญหาต่างๆมีทางออกเสมอ สิ่งที่เราพูดได้ตอนนี้คือต้องมีสติ วันนี้เราเสียคนรักของเราไปเราสามารถบอกคนอื่นได้ว่าการทำทุกสิ่งทุกอย่างเราควรมีสติ อยากให้ปัญหาตรงนี้จบลงพร้อมกับน้องภายในวันนี้และปล่อยให้เป็นเรื่องของคดีที่ทางครอบครัวจะจัดการเอง ตั้งแต่อ่านจดหมายมาน้องอยากให้ออกมาพูดแล้วก็จบหลังจากอ่านจบคิดว่าน้องคงคิดและตัดสินใจดีแล้วก็ต้องเคารพการตัดสินใจน้องด้วย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"