จตช.สอบผกก.ฉาว ผิดจริงโทษไล่ออก


เพิ่มเพื่อน    

  พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) สั่งสอบทุกประเด็นกรณี ผกก.ดังนครสวรรค์ เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้ายาเสพติดจนเสียชีวิต หากพบมีการกระทำผิดจริง ให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีละเว้น โทษไล่ออกจากราชการ

    จากกรณีที่มีการร้องเรียนนายตำรวจยศระดับ ผกก.ของโรงพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เรียกรับผลประโยชน์จากผัว-เมีย ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ โดยมีการเรียกรับสินบนจากผู้ต้องหาเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม เพราะจ่ายได้แค่ 1 ล้าน จึงถูก ผกก.คนดังกล่าวใช้ถุงดำคลุมหัวจนเป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ผกก.ได้มีการบังคับให้ลูกน้องบิดเบือนสำนวนว่า ผู้ตายเสียชีวิตเองจากการขาดอากาศหายใจ พร้อมกับปิดปากผู้ต้องหาอีกรายที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นแฟนของผู้ตาย ด้วยการปล่อยตัวโดยไม่ต้องรับผิด โดยมีรายงานว่า ผู้ต้องหายาเสพติดที่เสียชีวิตรายนี้ เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
    ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ หัวหน้าคณะสืบสวนข้อเท็จจริง เรียกประชุมคณะทำงานระดับรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการ สารวัตร เพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งได้เรียกพนักงานสอบสวน เจ้าของสำนวนมาตรวจสอบเบื้องต้น
     พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้รับคำสั่งตรงจาก ผบ.ตร.กำชับให้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจ ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นนายตำรวจด้วย ซึ่งวันนี้จเรตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาร่วมประชุมกับคณะทำงานในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำเอาหลักฐาน สำนวนการสอบสวนมาคลี่เพื่อจะวางแนวทางการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
    เบื้องต้นยอมรับว่าตนยังไม่ได้ดูสำนวนการสอบสวนเดิมในคดีนี้ ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดในสำนวนการสอบสวนได้ จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ภ.นครสวรรค์ วางกรอบการสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้แบ่งชุดทำงานออกเป็น 2 ชุด คณะทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยคณะของจเรตำรวจ จะเดินทางไปยัง สภ.ตาคลี เพื่อสอบปากคำพ่อของผู้เสียชีวิต และเดินทางไปยัง สภ.หางน้ำสาคร เพื่อสอบปากคำแม่ของผู้เสียชีวิต   
    ผบก.ภ.นครสวรรค์ กล่าวต่อว่า คณะทำงานของตำรวจภูธรนครสวรรค์ นำโดยรอง ผบก.ภ.นครสวรรค์ จะเรียกผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมลูกน้องชุดจับกุมจำนวน 10 นาย เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่าวันเกิดเหตุมีการจับกุมผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ อย่างไร พนักงานสอบสวนที่ชันสูตรศพเป็นใคร สำนวนการสอบสวนระบุอย่างไร รวมทั้งจะเรียกเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลการพลิกศพ จากโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ เจ้าหน้าที่พลิกศพจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนทั้งหมด  
    “เมื่อคณะทำงานทั้ง 2 ชุดสอบสวนรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย จะได้ประชุมเพื่อตรวจสอบรายละเอียด หลักฐานทั้งหมดเพื่อวางแนวทางการสอบสวนให้ครบทุกประเด็น ว่าจะต้องสอบอะไรเพิ่มเติม ตรวจที่เกิดเหตุ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสรุปสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป” ผบก.ภ.นครสวรรค์กล่าว
    ทางด้าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จตร. (หน.จต.) ลงพื้นที่ร่วมกับ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ซึ่งในวันนี้มีการประชุมร่วมกันเพื่อดำเนินการค้นหาความจริง เพราะเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ
    พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีละเว้น ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยทำงานร่วมกับทางจังหวัด ตั้งแต่การควบคุมตัว รวมถึงการดำเนินการทุกอย่างว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ เพราะมีการตาย รวมถึงผลการชันสูตรพลิกศพ และจะเรียกสอบถามพยานทั้งหมด เพื่อค้นหาความจริงให้ได้ โดยว่าไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด เริ่มต้นเป็นมาอย่างไร พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ว่าตอนนี้ทางพ่อของผู้ตายจะออกมาบอกว่าไม่ติดใจเอาความ ก็เป็นคนละเรื่องกัน ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีการดำเนินการ ทีมจเรตำรวจที่ลงพื้นที่ไปจะร่วมกับทางจังหวัดทำความจริงให้ปรากฏ แม้ขณะนี้จะมีคนพูดไปอย่างนู้นอย่างนี้ก็ว่ากันไป เราค้นหาความจริงและจะทำให้ดีที่สุด ส่วนผู้ที่ถูกร้องเรียนทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ภ.6 แล้ว เพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่
    ถามว่าภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนี้โดนพุ่งเป้ามาทำให้มัวหมอง จะคลี่คลายอย่างไร พล.ต.อ.วิสนุกล่าวว่า ในขณะนี้ก็พยายามเต็มที่ ทาง ผบ.ตร.กำชับมา ตำรวจต้องมีวินัย ทำงานให้ดีที่สุด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัย แน่นอนทุกวันนี้บ้านเมืองมีปัญหามากมาย และตำรวจเองก็เป็นประเด็นอยู่ ทุกคนที่อยู่พยายามทำให้ดีที่สุด ตั้งใจ ซึ่งทางจเรตำรวจได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจต้องมีวินัย มีความอดทน และต้องตั้งใจ ใส่ใจ จริงใจในการทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชน แต่คนหมู่มาก ใครทำผิดก็ไม่เอาไว้ พร้อมทั้งยืนยันว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ความจริงเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น
    เมื่อถามว่ากรณีนี้พบความผิดปกติ หรือมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ พล.ต.อ.วิสนุกล่าวว่า ทั้งนี้ ต้องแยกเรื่องความรู้สึกออกไปและนำความจริงออกมา ขอให้คณะที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานก่อนและรายงานขึ้นมา อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบราชการ ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน แต่ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะประวิงเวลา จเรตำรวจแห่งชาติพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งบางครั้งอาจขัดความรู้สึกว่าทำไมเรื่องนี้ตรวจสอบนาน แต่บางเรื่องก็ใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน เช่น เรื่องกรณีของตำรวจ สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช อมเบี้ยเลี้ยงโควิดก็ไล่ออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างว่า การกระทำความผิดนั้นมีการลงโทษ แต่กระบวนการกว่าจะไปถึงข้อเท็จจริง มีระเบียบ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบสวนวินัย ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย มีการกล่าวหา เปิดโอกาสให้มาชี้แจง ก็เลยเสียเวลา ดูเหมือนนาน แต่ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะมาประวิงเวลาได้ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"