โวคาร์ม็อบ29สค. ตะลอนไปทั่วกรุง เชื่อมต่อฝ่ายค้าน


เพิ่มเพื่อน    

รอง ผบช.น.เผยตำรวจจับกลุ่มสร้างความวุ่นวาย เผาป้อม ตร.สน.พญาไทและรถยก สน.ดินแดงได้อีก 3 ราย ตั้งแต่ ก.ค.ดำเนินคดีแล้ว 113 คดี ผู้ต้องหา 594 คน จับกุมตัวได้แล้ว 287 คน  "เสี่ยเต้น-บ.ก.ลายจุด" เปิดเส้นทางคาร์ม็อบ 29 ส.ค.ตะลอนไปทั่ว 50 กม. กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี อ้างเลี่ยงเส้นทางปะทะ แย้มเชื่อมต่อกับศึกซักฟอกจากนั้นจะจัดชุมนุมใหญ่ไม่ใช่คาร์ม็อบ 
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 26 สิงหาคม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการชุมนุมเมื่อวันที่  25 ส.ค. เวลา 17.00 น.ของกลุ่มผู้ก่อความวุ่นวายที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มทะลุแก๊ส ที่บริเวณแยกดินแดง ได้มีการรวมตัวขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊กลูกแก้ว ประทัดยักษ์ ระเบิดต่างๆ จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ ในทางสาธารณะ ซึ่งจะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลที่กระทำผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีทุกราย ทั้งนี้  บช.น.สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ทำการเผาป้อมตำรวจ สน.พญาไทและรถยก สน.ดินแดงเมื่อวันที่ 10 และ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้อีกจำนวน 3 คน
    "สรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ในห้วงเดือน ก.ค.-ส.ค.2564 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 113 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด 594 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 287 คน ส่วนภาพรวมการดำเนินคดีของ บช.น.ตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวน 372 คดี สอบสวนเสร็จ 200 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 172  คดี โดยขณะนี้ บช.น.ได้ทำการออกหมายเรียกผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมอีกจำนวน 127 คน เป็นกลุ่มแกนนำ 16 หมาย และกลุ่มผู้ชุมนุม 111 หมาย ในข้อหาที่เกี่ยวข้องและขอเตือนผู้ปกครองว่าหากบุตรหลานท่านได้กระทำความผิด ท่านอาจจะมีความผิดตาม  พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษปรับและจำคุกอีกด้วย" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    ที่อาคารเอเวอรี่มอลล์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ร่วมแถลงข่าวกิจกรรม Car Mob - Call out วันที่ 29 ส.ค.ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง  โดยนายณัฐวุฒิ แถลงว่า ขอเชิญพี่น้องประชาชนออกมาแสดงพลังวันที่ 29 ส.ค.เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ในกิจกรรมจะมีการประกวดการตกแต่งรถ ประกวดป้ายข้อความในขบวน ประกวดภาพถ่ายจากช่างภาพสมัครเล่น ทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ ขอสงวนสิทธิ์สำหรับช่างภาพอิสระหรือช่างภาพสมัครเล่น ประชาชนเท่านั้น มีการประกวดกองเชียร์สองข้างทาง  ออกแบบวิธีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ วิธีการมีส่วนร่วม บันทึกภาพลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีกรรมการให้คะแนน 
    นายณัฐวุฒิระบุว่า การเคลื่อนขบวนครั้งนี้มีจุดนัดหมายเดียว เส้นทางเดียวที่จะเคลื่อนขบวนไปด้วยกัน เวลา14.00 น. นัดหมายที่อุโมงค์ทางลงแยกเกษตร เวลา 15.00 น. เคลื่อนขบวนออกจากจุดนัดไปสะพานถนนวิภาวดี ถนนงามวงศ์วาน ข้ามแยกพงษ์เพชร เข้าเขต จ.นนทบุรี ตรงไปสะพานข้ามแยกแคราย ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า ผ่านแยกท่าอิฐ วนสะพานยกระดับโค้งขวาไปตาม ถ.ราชพฤกษ์ เกาะช่องจราจรซ้ายสุด ขึ้นยกระดับวนขวาอีกครั้งเข้าถนนชัยพฤกษ์ ขึ้นสะพานพระรามสี่ ลงตรงห้าแยกปากเกร็ด เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ไปทางแยกสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ มุ่งหน้าเข้าเขต จ.ปทุมธานี ข้ามสะพานปทุมธานี ไปสุดทางที่ลานจอดรถสวนเทพปทุม อ.เมืองปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานีหลังเก่า กิจกรรมครั้งนี้เดินทางระยะไกลร่วม 50 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อ กทม.และปริมณฑล กินพื้นที่ 3 จังหวัด เมื่อถึงที่หมาย จ.ปทุมธานี จะมีการปราศรัยปิดขบวนตรงนั้นเพื่อประกาศเจตนารมณ์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และกำหนดนัดหมายการชุมนุมใหญ่ในครั้งถัดไป อาจจะไม่ได้เห็นรูปแบบคาร์ม็อบเคลื่อนขบวนแบบที่ผ่านมานี้อีก 
    "เรามีเจตนาเปิดเผยเลี่ยงพื้นที่เปราะบาง สถานการณ์ที่จะนำไปสู่การปะทะหรือความรุนแรง เชื่อมโยงระหว่างอำเภอกับอำเภอในแต่ละจังหวัด ขยายระยะทางให้ไกลขึ้น ให้เกิดการมีส่วนร่วม เวทีออนไลน์มีการปราศรัย มีศิลปินดารามาสร้างความบันเทิงตลอดเส้นทาง ตัววิทยากรที่จะมาพูดคุยก็จะแตกต่างกันไป โดยจะสามารถเปิดดูกันผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ไปได้ตลอดการเคลื่อนขบวน 50 กิโลเมตรนี้"  นายณัฐวุฒิกล่าว
    ด้านนายสมบัติกล่าวว่า มั่นใจว่าการชุมนุมในวันที่ 29 ส.ค.นี้จะมีประชาชนเข้าร่วมมากที่สุดตั้งแต่ทำกิจกรรมกันมา เราจะใช้จำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรมเสนอไปถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่อย่างนั้นฝ่ายการเมืองจะบอกว่าเป็นเพียงแค่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง หลังวันที่ 29 ส.ค.จะเป็นช่วงเวลาสำคัญเชื่อมต่อระหว่างกิจกรรมในสภาและกิจกรรมนอกสภา จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะมีกิจกรรมขนาดใหญ่หลังจากนั้น อาจจะเป็นรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่คาร์ม็อบ จะเป็นการลงคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลนอกสภา หากเสียงในสภายังไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลอยู่ จะเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมใหญ่ ช่วงเวลา 10 วันหลังจากนี้ความเข้มข้นทางการเมืองจะไปถึงจุดนั้น คิดว่า 2 อาทิตย์น่าจะรู้เรื่อง
    เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการจัดกิจกรรมในวันที่ 29 ส.ค.จะเกิดการปะทะบริเวณแยกดินแดงแม้เลี่ยงเส้นทางแล้ว นายณัฐวุฒิกล่าวว่า  จะมีเหตุปะทะกันที่ใดก็ตามเราห่วงใยอยู่แล้ว เพราะแนวทางหรือวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวมันไม่มีเรื่องนี้ และแสดงเจตนาโดยเปิดเผยว่าจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงขอแสดงความหวังจากตรงนี้ว่าในวันที่ 29 ส.ค. ทุกอย่างจะเริ่มต้นและจบลงด้วยความสงบเรียบร้อย หวังใจว่าจะไม่มีเหตุปะทะรุนแรง 
    ถามว่า มองการปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คือสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักร่วมกันว่า ไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใด ไม่ว่าจะประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ โดยหลักการในสังคมประเทศที่เกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน จนเกือบกลายเป็นเรื่องปกติ รัฐจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รัฐจะเอาชนะประชาชนโดยใช้กำลังกลางถนนทุกวันไม่ได้ เรียกร้องให้รัฐเปิดพื้นที่รับฟังเสียงจากเยาวชนให้มากขึ้น และปรับรูปแบบการปฏิบัติการลดเงื่อนไขความรุนแรงลง ส่วนผู้ชุมนุมต้องลดเงื่อนไขการปะทะลง เราจะไปก้าวก่ายก็ไม่ได้เพราะเขาเป็นอิสระ ไม่ได้มาร่วมแนวทางเดียวกับเราตั้งแต่แรก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"