'สิระ'เดินหน้าดันร่างพรบ.ตำรวจแห่งชาติ ลั่นถ้าไม่นำร่าง'อ.มีชัย'มาประกบ จะคว่ำทันที


เพิ่มเพื่อน    

 

27​ ส.ค.64- ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ….. รัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติว่า ร่างกฎหมายนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการปฏิรูปตำรวจทันทีทันใด หรือสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น ตนมองว่ายังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องมีการพิจารณามาตราเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนที่เป็นหัวใจของความยุติธรรมให้กับประชาชนก่อน เนื่องจากการสอบสวนในปัจจุบันถูกแทรกแซงและไม่เป็นอิสระ รวมถึงพนักงานสอบสวนไม่มีความเติบโตเจริญก้าวหน้าในอาชีพ ตนในฐานะส.ส. คิดว่าถ้าไม่แก้ไขและไม่นำร่างของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เข้ามาประกบก็จะคว่ำทันที โดยเฉพาะเรื่องการสืบสวนสอบสวน

“จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนส่วนใหญ่มักจะยิงตัวตายมากที่สุดในเรื่องที่เกี่ยวกับการทำงาน เพราะได้รับการกดดันจากผู้บังคับบัญชา ถ้าไม่นำร่างของนายมีชัยเข้ามา ผมก็จะไม่ให้ผ่าน เพราะหากยังให้การพิจารณาสืบสวนสอบสวนแทรกแซงได้ ก็จะเกิดการบิดเบือนรูปคดีได้ ถ้ามีการรับงานมา” นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่า กฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีช่องทางให้เกิดการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนใช่หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ผู้กำกับบางคนไม่เคยผ่านงานการสืบสวนสอบสวน บางคนติดตามนาย บางคนก็เป็นสายงานจราจร ไม่ได้จบนิติศาสตร์ทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญด้านกฎหมายแล้วมาเป็นหัวหน้าของพนักงานสอบสวนที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นต้องให้พนักงานสอบสวนมีความเป็นอิสระ เพราะงานสอบสวนตอนนี้มีปัญหาเรื่องงานล้นมือ หากผู้บังคับบัญชามีการข่มขู่ว่าถ้าไม่ทำตามคำสั่งแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน พนักงานสอบสวนเขาก็จะเดือดร้อน และต้องทำตามที่นายสั่ง ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ยังมีข้อบกพร่องจำนวนมาก

นายสิระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่มีการอ้างว่าสามารถใช้บัตรของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.). เข้าไปตรวจค้นบ้านได้โดยไม่มีหมายศาล ถามว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตและเกินกว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนจะเชิญ เลขาธิการป.ป.ส. เข้ามาให้ข้อมูลเรื่องนี้ เพราะชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริงๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.สามารถตรวจค้นบ้านหรือรถได้ โดยเฉพาะในยามวิกาล และไม่ต้องมีหมายศาล จึงจะต้องทบทวนอำนาจตรงนี้ เช่น กรณีของพ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ก็ใช้อำนาจ ป.ป.ส. ไปหิ้วใครมาก็ได้ อีกทั้งยังไปยัดและยึดเงินใครก็ได้ ถามว่าแบบนี้ทำได้หรือไม่

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"